การดู Report Facebook เป็นเรื่องสำคัญมากกว่าที่เราคิด!!
การทำโฆษณา หรือ การยิงแอดนั้น คือการนำพา Content ที่เราพูดถึงสินค้า และบริการ ออกไปหากลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง
.
การยิงแอด คือต้นทุนในธุรกิจของเรา ถ้าเราลงมือทำอย่างเดียว แต่ไม่ดู Report Facebook เลย ก็เหมือนกับการเอาเงินไปโยนทิ้ง ไม่มีประโยชน์อะไร
.
พี่นุกเลย ขอแชร์ ความหมายของตัวชี้วัด ในการยิงแอด Facebook มาให้ครับ
เพื่อนำไปปรับปรุงในการยิงแอด ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
1.CPM
ย่อมาจาก Cost per mille หรือ ค่าใช้จ่ายต่อการแสดงผล 1000 ครั้ง ขึ้นอยู่กับ การแข่งขันของอุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน เช่น skincare มีการแข่งขันสูง CPM ก็สูงตาม
กับอีกแบบหนึ่ง ก็คือ วัตถุประสงค์ไหนที่คนใช้กันเยอะ ก็ต้องไปแข่งกันเยอะ จึงทำให้ค่าแอดแพง ยกตัวอย่างเช่น คนไทย ยิงแอดทักข้อความ ด้วยภาพนิ่ง เยอะ ดังนั้น ราคาจึงสูง
.
แต่ถ้าทางใช้ Reels ในการยิงแอด มันจะได้ CPM ที่ถูกกว่า เพราะคนทำน้อย
.
พอเห็นภาพหรือยังครับ?
2. Impression
การแสดงผลของโฆษณา อันนี้ เป็นตัวชี้วัดที่ง่าย ที่สุด การมองเห็นจะเกิดขึ้นต่อเมื่อ โฆษณาของเราทำงานปกติ ถ้าไม่มี Impression แสดงว่า กลุ่มเป้าหมายของเรา อาจจะแคบเกินไป หรือ โฆษณาไม่ผ่านการอนุมัติ นั่นเอง
3.CTR
ปกติ เวลาเราทำโฆษณา ก็ต้องมีการกดคลิก Banner หรือ Content อยู่แล้ว แต่ถ้าเอาแต่จำนวนคลิก มาวัดผล เปรียบเทียบกัน ก็อาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์
.
ดังนั้น ตัวชี้วัด แบบ CTR จึงเข้ามาช่วยตัดสิน เพราะ CTR ย่อมาจาก Click Through Rate (อัตราส่วนการคลิกผ่าน) มันคือการเอา จำนวนคลิก หารด้วยการแสดงผลของโฆษณา
.
ถ้า CTR สูง แสดงว่า โฆษณานั้นน่าสนใจจนคนคลิก แต่ถ้า CTR ต่ำ แสดงว่า โฆษณาไม่น่าสนใจเลย ต้องไปปรับปรุงนะครับ
.
4. ต้นทุนต่อการซื้อ Cost per Purchase
หากเป็นเมื่อก่อน เวลายิงแอด เรามักจะมาโชว์ ต้นทุนต่อการทักแชท ที่ถูกแบบสุดๆ ใครทำได้ราคาถูก ก็จะภูมิใจ แต่จริงๆแล้ว เราควรจะวัด ต้นทุนต่อการซื้อดีกว่า
เพราะมันบ่งบอกว่า มีคนซื้อสินค้าของเราจริงๆ
.
5. ค่า Conversion การซื้อ
นี่คือตัวชี้วัด ที่เราควรคิดถึงมากที่สุด เพราะมันคือ ยอดขายที่ลูกค้าชำระเงินให้กับเรามา ถ้าอยากจะเห็น ค่า Conversion การซื้อใน Report
.
ทุกครั้งที่เรารับยอดจากลูกค้าผ่านทาง inbox ต้องทำการ ใส่ยอดเงินให้ถูกต้องตามจำนวนที่ลูกค้าโอนมา แล้วกด Mark As paid ด้วย เพื่อเป็นการยืนยันการชำระเงิน
.
6.ROAS
ค่านี้ คือตัวชี้วัดว่า เราโฆษณาของเรานั้น ผ่านจุดคุ้มทุนหรือยัง? คำว่า ROAS นั้นย่อมาจาก Return on Ads Spend หรือ ผลตอบแทนต่อการทำโฆษณานั่นเอง
.
ไม่มีค่าตายตัวว่า ต้องเป็นเท่าไร แต่ยิ่งมาก คือ ยิ่งดี
สูตรของมันก็คือ เอายอดขาย หารด้วยค่าโฆษณา นั่นเอง
.
แต่ถ้าใครอยากรู้ว่า ROAS เท่าไหร ถึงจะเป็นจุดที่คุ้มทุน พี่นุก แนะนำให้ทำแบบนี้ครับ
.
เอา ราคาขาย-(ต้นทุนสินค้า+ค่ากล่อง+ค่าขนส่ง) ได้เท่าไร ให้เอามา หาร 2 จะได้ เป็นต้นทุนต่อการซื้อ ที่เรายังได้กำไรอยู่
.
ยกตัวอย่างเช่น
ราคาขาย = 290
ต้นทุน = 60
ค่ากล่อง = 5
ค่าขนส่ง = 30
.
ต้นทุนต่อการซื้อที่เหมาะสม = ((290)-(60+5+30) / 2) = 97.5 บาท
.
ดังนั้น ROAS = 290/97.5 = 2.97
หากเรายิงแอด แล้ว ROAS มากกว่า 2.97 ก็แสดงว่าผ่านเกณฑ์ที่น่าพอใจ
.
เป็นยังไงบ้างครับ กับการอ่านค่า Report Facebook ลองเอาไปใช้กันดูนะครับ
.
แต่.. ถ้าใครอ่านแล้ว อยากจะรู้เพิ่มมากกว่านี้อีก
พี่นุก มีคอร์สออนไลน์ Facebook Masterclass 2024
.
คอร์สเดียวจบ ทั้งเรื่อง Content + การยิงแอด Update 2024
.
สนใจอยากเรียน ทักไลน์ @digitalnookacademy ได้เลยนะครับ