1. เลิกโฟกัสเรื่อง ค่าทักแชทถูก แต่ไปเช็คว่า คนซื้อมั้ย
2. การยิงแอด คือการตลาดดึงคนมาเจอเรา แต่จะขายได้มั้ย ขึ้นกับ skill ปิดการขาย
3. ลำดับความสำคัญ ในการยิงแอด จากมากไปหาน้อย = สินค้า > Content > ยิงแอด
4. CPM คือค่าใช้จ่ายในการให้คนเห็นโฆษณาของเรา 1000 ครั้ง ถ้าค่านี้มาก แสดงว่าโฆษณาของเราไม่น่าสนใจ
5. CTR คืออัตราส่วนการคลิก ถ้าค่านี้เยอะ แสดงว่าคนสนใจโฆษณาของเรามาก ถ้าน้อย ต้องไปปรับใหม่
6. ยุคนี้ Content สำคัญกว่ากลุ่มเป้าหมาย ถ้า Content ดี ไม่ต้องยิงแอด ก็ปังได้
7. การใช้ Call-to-Action ที่ชัดเจน เช่น “จองตอนนี้” “ซื้อเลย” ดีกว่าการใช้คำกลางๆ เช่น “คลิกเลย”
8. โฆษณาที่มีคนแท็กเพื่อนในคอมเมนต์เยอะ แสดงว่าเนื้อหานั้นน่าสนใจและควรทำ Boost Post
9. การใช้ Social Proof เช่น รีวิวจากลูกค้าจริง ในโฆษณาช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้มาก
10. ควรตั้งชื่อแคมเปญโฆษณาให้เป็นระบบ เช่น “ชื่อสินค้า_วันที่_วัตถุประสงค์” เพื่อง่ายต่อการติดตามผล
11. โฆษณาใน 1 กลุ่มเป้าหมาย ใส่ 3 post กำลังดี
12. กลุ่มเป้าหมายหลัก = กลุ่มเป้าหมายที่ทาง Facebook เก็บจาก ข้อมูลของคนที่เล่น Facebook / โพสต์ที่ดู / วิดีโอที่เล่น / ภาพที่คลิก / การเดินทาง / สมาร์ทโฟนที่ใช้
13. ยิงแอดหากลุ่ม กลุ่มเป้าหมาย = ยิงไปหาคนที่ “น่าจะ” มีโอกาส สนใจและเป็นลูกค้าของเรา
14. กลุ่มเป้าหมายกำหนดเอง = คนที่มีส่วนร่วมกับโฆษณาชุดแรกของเรา / เพจของเรา / เบอร์โทร / คนดูคลิปวิดีโอในเพจเรา / คนที่เข้าเว็บไซต์ของเราที่ติด Pixel ไว้แล้ว
15. กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน = การโคลนนิ่ง กลุ่มเป้าหมายกำหนดเอง มาให้เราใช้งาน ยิงแอดหาคนใหม่ๆ
16. สมัยนี้ ยิงแอดชั้นเดียว ครั้งเดียว คนจะลืม ต้องยิงแอดแบบ Retarget กลับไปหาบ่อยๆ
17. กลุ่มเป้าหมายกำหนดเอง ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าของเรามากที่สุด คือ คน inbox มาในเพจ
18. โฆษณาที่หลายคนลืมไปแล้ว แต่ค่าแอด ถูกมากๆ คือ Instant Experience (มันยังมีอยู่นะ)
19. การทดสอบยิงแอดควรเริ่มต้นด้วยงบประมาณต่ำๆ ประมาณ 100-300 บาทต่อวัน เพื่อดูผลตอบรับก่อนเพิ่มงบประมาณ
20. วิดีโอสั้น 15-30 วินาที มักจะได้ผลตอบรับดีกว่าวิดีโอยาว เพราะคนดูจนจบมากกว่า
21. ยิงแอดคลิป Reels อย่าลืมใส่ลิงก์ใน Comment เพื่อเพิ่ม โอกาสในการขายมากกว่าเดิม
22. การยิงแอด IG ผ่าน Business Suite ข้อดีคือ เห็น ROAS และ Cost per message ชัดเจน
23. การยิงแอด IG ผ่าน Business เลือกกลุ่มเป้าหมายได้ซับซ้อน และ Retarget ได้
24. การใส่ราคาในโฆษณาช่วยคัดกรองลูกค้าได้ตั้งแต่ต้น ทำให้ประหยัดงบประมาณ
25. การใช้ภาพถ่ายจริงของลูกค้าหรือทีมงานได้ผลดีกว่าการใช้ภาพ Stock
26. การใช้คลิปทำโฆษณา แบบใหม่ ให้แบ่งพื้นที่เป็นภาพเคลื่อนไหว 50% อีก 50% เป็นภาพนิ่ง + ตัวหนังสือขายตรงๆ
27. ตัวนางแบบ นายแบบ โฆษณา ขอให้เป็นคนที่มีอายุ และ อาชีพ เหมือนกับลูกค้าของเรา
28. เราเก็บตัวอย่างข้อมูลลูกค้าที่ ซื้อสินค้าสำเร็จ มาเป็นหัวเชื้อในการทำ Look a Like Audience ได้ ด้วย ฟีเจอร์ Lead Center
29. การกรอก จำนวนเงินออเดอร์ ใน inbox จะช่วยทำให้ การยิงแอดของเราดีขึ้น เพราะเราจะรู้ว่า แอดตัวไหนทำเงิน
30. ตัวเลข Report ที่ควรเข้าใจ ในการยิงแอด Facebook คือ ROAS (Return on Ads Spend) = ยอดขาย/ค่าโฆษณา