4 เรื่องต้องสังเกต
เซลเพจ กับ เว็บไซต์
เลือกใช้อะไร มาโฆษณาดี
สำหรับคนที่ลงโฆษณาในเฟสบุ๊คมาสักพัก
อาจจะกำลังจดๆจ้องๆ ที่จะใช้วัตถุประสงค์ คอนเวอร์ชั่น (Conversion) หรือ การเยี่ยมชม (Traffic)
แต่สิ่งที่ต้องเรียนรู้เพิ่มก็คือ
มันต้องมีหน้ารวมข้อมูล สินค้า หรือบริการ
หรือแม้กระทั่ง โฆษณาใน TikTok เอง
ก็จำเป็นต้องใช้หน้ารวมข้อมูลแบบนี้เช่นกัน!
บางคนก็ให้วิ่งไปเว็บไซต์ บางคนก็ให้วิ่งเข้า salepage
แล้วจะเลือกอะไรดีล่ะ
ผมว่าเรื่องนี้น่าสนใจดี เพราะจากประสบการณ์ที่ได้ใช้ ทั้งเว็บไซต์ และ salepage
จึงอยากแชร์เรื่องนี้ ให้ทุกคนได้อ่านกันครับ ใน
“4 เรื่องต้องสังเกต
เซลเพจ กับ เว็บไซต์
เลือกใช้อะไร มาโฆษณาดี”
1.การใช้งาน
ตั้งแต่ที่เข้ามาทำงานในโลกออนไลน์ สิ่งแรกที่ผมได้เจอ ตั้งแต่ 20 ปีก่อน ก็คือเว็บไซต์
หลายครั้งที่มีคนบอกว่า เว็บจะตาย
แต่สุดท้าย มันไม่เคยตาย เพียงแต่คนมีทางเลือกอื่นๆ ให้ใช้มากกว่าเดิม เท่านั้นเอง
ถ้าเราเข้าเว็บไซต์ สิ่งที่ตามมา ก็คือ เมนูไปยังหน้าต่างๆ หน้าอื่นๆ
ถ้าจะซื้อของผ่านเว็บไซต์ ในรูปแบบที่รู้จักกัน ก็ต้องสมัคร สมาชิก / เข้าไปเลือกสินค้า
เข้าไปกดลงตะกร้าสินค้า / แล้วใส่ข้อมูล / แล้วก็จ่ายเงิน / ก่อนจะได้คำสั่งซื้อ แล้วรอรับของ
ขั้นตอนเหล่านี้ หากเป็นคนรุ่นใหม่ คงไม่ใช่เรื่องลำบาก
แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ ที่เพิ่งใช้งาน หากต้องทำเรื่องพวกนี้ อาจจะใช้เวลามาก จนไม่อยากสั่ง
ดังนั้นเพื่อลดเวลาการทำงาน Salepage จึงได้กำเนิดมา เพื่อลดความยุ่งยากเหล่านี้ไป
เพราะเปิดมาปุ๊บ ก็จะเห็นสินค้า ทันที มีคำบรรยาย มีรีวิว มีข้อเสนอ แล้ว จะมีปุ่มไม่กี่แบบ นั่นคือ
สั่งซื้อ หรือ ติดต่อไลน์ ให้เบอร์โทรได้เลย
อะไรก็ได้ ขอให้ง่ายที่สุด
เพราะหน้าที่ของมันคือ การขาย
ถ้าจุดประสงค์ของคุณคือการขาย อย่างเดียว เลือกใช้ salepage
2.ความชำนาญในการใช้เครื่องมือ
ถ้าเราจะสร้างเว็บขึ้นมาด้วยตัวเอง สิ่งที่ต้องเข้าใจ เบื้องต้นคือ
การจด Domain / การเลือก hosting / การทำเว็บ ง่ายสุดคือ wordpress / การเขียนให้ถูกหลัก SEO เพื่อติดอันดับ Google / การปรับปรุงให้แสดงผลเร็ว / การใช้ภาพที่คุณภาพคมชัด แต่ยังแสดงผลเร็ว
แค่เบื้องต้น ก็เยอะแล้ว ยังไม่นับรวมถึงรายละเอียดปลีกย่อย ถ้าจะทำเว็บขายของนะครับ
หากคุณมีทีมงานมากพอ และ มีเป้าหมายระยะยาว การเลือกทำเว็บ เป็นสิ่งที่สมควรลงทุนครับ
แต่หากยังเป็นจุดเริ่มต้น
การเลือกใช้ salepage อาจจะง่ายกว่า
เพราะเครื่องมือใช้งานนั้น สะดวกกว่า
ขอแค่เตรียมข้อมูล ภาพ video ให้พร้อม ก็สามารถเริ่มต้นทำ salepage ออกมาได้แล้ว
โดยไม่ต้องไปเรียนเขียนโค้ดใดๆ เลย
3.ระยะเวลาในการทำ
ถ้าจะทำเว็บไซต์ขึ้นมา เวลาที่คุณจะหมดไป ก็คือ
การคิด concept การออกแบบ การวางโครงสร้างให้ดี
ถ้าคุณมีทีมเยอะ เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา ก็สามารถ ลงมือทำได้เลยครับ
เพราะในระยะยาว ผมก็มองว่าเว็บไซต์ยังมีความน่าเชื่อถือสูง
แต่ถ้าเริ่มต้น
การทำ salepage ขึ้นมาขายของ หรือ บริการสัก 1 หน้า ถือว่าเร็วมาก
ขนาดผมทำ worpdress เป็น ก็ยังเลือกใช้ salepage ในการทำครับ
เพราะใช้เวลาแค่ 20-30 นาที ก็ได้หน้า salepage ที่พร้อมขายของแล้ว
(รวมติดตั้ง code ต่างๆ อย่าง pixels ทั้งฝั่ง เฟสบุ๊ค และ TikTok /google analytics แล้ว)
4.เงินลงทุน
ถ้าคุณเป็นสายพัฒนา มีความชำนาญในการทำเว็บ มีเวลามากพอ
การทำเอง ถือว่าประหยัด มากครับ เพราะสมัยนี้ hosting ที่ดี ราคาถูกลงมามากแล้ว
การจด domain ไม่แพง
ถ้าคุณไม่ถนัดเรื่องเหล่านี้
การใช้ salepage จะมีค่าบริการรายเดือนอยู่แล้วครับ
ค่าบริการ มากน้อยขึ้นกับสิ่งที่คุณจะได้
แต่จะเลือกใช้ของเจ้าไหน ให้ดูลูกค้าที่ใช้บริการของเจ้านั้นๆ มาก่อนครับ
ดูว่าคุณชอบมั้ย หรือ หากเป็นไปได้ มีให้ทดลองใช้ก่อน 7-14 วันก็น่าจะดี
ถ้าชอบก็ซื้อใช้ต่อไป
มองเป็นการลงทุนครับ ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย
เพราะถ้าทำดีๆ กำไรจากการขาย ก็เอามาจ่ายค่าบริการเหล่านี้ได้หมดครับ
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook