เช็คลิสต์ LINE OA ที่คนยอดขาย หลักแสน-หลักล้าน เขาทำกัน!
เช็คลิสต์ LINE OA ที่คนยอดขาย หลักแสน-หลักล้าน เขาทำกัน!
.
ใกล้หมดปี 2021 แล้ว ใครที่มี LINE OA แล้ว ลองเช็คสิ่งนี้กันก่อน เพราะนี่คือสิ่งที่หลายคน พลาด หรือ ลืมทำไป เพราะคิดว่าไม่สำคัญ!
.
เพื่อให้ปี 2022 ของคุณ เป็นปีที่ปังปุริเย่ มากขึ้นไปอีก นี่คือหัวข้อ ที่ผมแนะนำให้ทำ หรือปรับปรุงให้ดีขึ้น
เพราะคนที่มียอดขาย หลักแสน หลักล้าน เขาทำกันไปหมดแล้วครับ!
.
มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย!
.
- Profile ของ LINE
หน้า Profile ของ LINE เปรียบเสมือนหน้าปกหนังสือ หรือ หน้าร้านเลยก็ว่าได้ แต่ส่วนใหญ่ ไม่ได้สนใจไปทำ เพราะไปโฟกัสที่ การแชทกับลูกค้าเป็นหลัก
.
หน้านี้ เป็นเหมือนกับหน้าเว็บไซต์ ที่ลูกค้า จะใช้พิจารณาว่า สินค้า และบริการของคุณนั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน
.
อย่างน้อย สิ่งที่ควรแสดง ก็คือ การโพสต์ Time Line ด้วยภาพ หรือ วิดีโอ เพื่อ Update สินค้า โปรโมชั่นใหม่ๆ อยู่เสมอ ข้อมูลเหล่านี้ จะมาปรากฏในหน้า Profile ให้ลูกค้าใหม่ได้เห็น
.
จะใส่เบอร์โทร วันเวลา ปิดเปิด ก็ทำได้ง่ายๆ หรือ นำเสนอภาพสินค้าขายดี ให้ลูกค้าได้เห็นก่อน ก็ทำได้หมด
.
อยากให้ไปปรับกันนะครับ
. - การโพสต์ Time Line หรือ LINE Voom
หลายคน อาจจะลืมไปแล้วว่า LINE มีให้พื้นที่ให้เราได้ Post Content กันฟรีๆ แบบไม่มีลิมิตเลย ก่อนหน้า เราเรียกกันว่า Time LINE แต่ตอนนี้ เปลี่ยนชื่อใหม่ แล้วเป็น LINE Voom
.
ตอนนี้ LINE กำลังจะสนับสนุน Content วิดีโอ ขนาดสั้น ที่กำลังเป็นกระแสนิยมในโลก Social Media ดังนั้น หากคุณมีคลิปดีๆ น่าสนใจ และเป็นสไตล์วิดีโอขนาดสั้น ไม่ควรพลาดครับ!
. - ข้อความทักทายเพื่อนใหม่
หลายครั้ง ที่ผมได้กดเพิ่มเพื่อน LINE ของร้านค้าหลายๆ ร้าน แล้วมักจะเจอคำว่า “ขอบคุณที่ติดตามเป็นเพื่อน เราจะไม่รบกวนคุณมากเกินไป” แล้วตัดจบเอาดื้อๆ
.
อันนี้ ถือว่าเสียโอกาสครั้งแรก และครั้งเดียว ที่จะได้นำเสนอสินค้าและบริการให้ลูกค้าใหม่ได้เห็น
.
ข้อความทักทายเพื่อนใหม่ นั้นมีโควต้าการแสดงข้อมูลได้มากถึง 5 บอลลูนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาพ วิดีโอ ริชเมสเสจ การ์ดเมสเสจ สามารถนำเสนอได้เต็มที่ จะให้ส่วนลด หรือ ลิงก์เข้าหน้าร้านออนไลน์ที่เรียกว่า Myshop ก็ยังได้
.
ไปปรับปรุงส่วนนี้เป็นส่วนแรกกันเลยนะครับ เพราะผมเอง ก็ปิดการขายได้บ่อยๆ โดยไม่ต้องแชท ด้วยสิ่งนี้
.
ถ้าจะใส่อะไรลงไป ผมแนะนำให้ใส่ สินค้า บริการ เบอร์โทรติดต่อ และ โปรโมชั่น ในช่วงน้ันๆ ครับ
. - ริชเมนู
นี่คือ ปุ่มมหัศจรรย์ที่จะนำทางให้ลูกค้า ได้ไปเจอกับสินค้า และบริการ ของคุณได้ง่ายขึ้น ผมเองก็ได้ยอดขายอย่างต่อเนื่องจากริชเมนูนี้ครับ
.
วิธีการง่ายๆ ก็คือ อะไรที่ขายได้ อะไรที่คนถามบ่อยๆ เราจะนำเสนอที่ริชเมนูเป็นหลัก เพื่ออำนวยความสะดวก ให้คนเข้าไปหาได้ง่ายๆ
.
ที่สำคัญ ทุกครั้งที่มีการบรอดแคสต์ ลูกค้าจะดูและคลิก เจ้าริชเมนูอยู่เสมอ!! ดังนั้นอย่าลืมตั้งค่า ให้ริชเมนู แสดงตลอดเวลา เป็นค่าเริ่มต้นด้วยนะครับ
. - การติดแชทแท็ก
การมีผู้ติดตามมากมาย แต่ไม่ได้แบ่งประเภท เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะเราไม่สามารถจะสื่อสาร แยกไปตามความต้องการของลูกค้าแต่ละประเภทได้เลย
.
แต่วันนี้ คุณทำสิ่งนั้นได้ ด้วยการติด แชทแท็กครับ
.
เมื่อคุณแยกลูกค้าได้ ก็สามารถจะสร้างเป็นกลุ่มเป้าหมาย เอาไว้ บรอดแคสต์แยกคนได้เลย ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และ ผู้ติดตามไม่เบื่อด้วยครับ
.
นอกจากนั้น ยังสามารถ เอากลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ ไปใช้ในการยิงแอด LINE Ads Plaform ได้ด้วยนะครับ!!
. - การทำข้อความตอบกลับ
ถ้าเราได้แชท กับลูกค้าบ่อยๆ ตลอดเวลา เราจะพบว่า ลูกค้าจะมีคำถาม ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกัน จะดีกว่า มั้ย ถ้าเราตอบคำถามเหล่านั้น ด้วยความรวดเร็ว จะได้ไปตอบลูกค้าคนอื่นๆ ได้อย่างทันท่วงที
.
ถ้าคุณมองหาสิ่งนี้ มันคือ การทำข้อความตอบกลับ ซึ่งทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เลือก คำตอบแล้วส่งให้กับลูกค้า แล้วคลิกแค่ครั้งเดียว ประหยัดเวลามากๆ
.
แล้วตอนนี้ มีการพัฒนา สามารถ search หาคำตอบได้อีกต่างหาก ทำให้เรา สร้างชุดคำตอบได้มากมาย แบบไม่ต้องกลัวว่าจะสับสน
.
ข้อความตอบกลับ ที่มักจะมีบ่อยๆ จากที่ผมได้สอนมาหลายๆ รุ่น ก็คือ ราคาสินค้า โปรโมชั่นตอนนี้ การโอนเงิน และการขนส่งสินค้า เลือกเอาไปใช้งานกันได้เลยครับ
. - การทำโน้ต
การติดต่อกับลูกค้า ข้อมูลสำคัญ ที่ลูกค้าจะเข้าใจเสมอว่า ร้านค้าต้องเก็บเอาไว้ นั่นคือ ที่อยู่ และ เบอร์โทรศัพท์ ในการจัดส่ง
.
ส่วนใหญ่ เรามักจะลืม ไม่ได้จดเอาไว้ หรือ จดแยกเอาไว้อีกที่ เวลาจะหาก็เสียเวลา หรือ บางครั้ง ก็อาจจะไปไล่ดูจากแชทเอา
.
จะดีกว่ามั้ย หากวันนี้ ได้ใช้ การทำโน้ต ที่สามารถเก็บข้อมูลลูกค้า แยกรายบุคคลไว้เลย
ทำให้สะดวกมากขึ้น เวลาลูกค้าชอบบอกว่า “ส่งที่เดิมนะ” เราก็ copy ข้อมูลจากโน้ตไปใช้งานได้เลย
. - การทำ LINE Shopping
คนไทย ชอบซื้อของผ่าน Social Commerce นั่นคือ แชทกันก่อน แล้วค่อยตกลงใจ ซื้อสินค้า การแชท และรับยอด ใน LINE ที่ทำอยู่แล้ว ก็ถือว่า อำนวยความสะดวกดี
.
แต่จะดีกว่ามั้ย หากช่วงเวลาที่คุณไม่อยู่หน้าจอ แล้วลูกค้าสามารถ เลือกซื้อสินค้าเองได้!
จะดีกว่ามั้ย หากเรามีข้อมูล การซื้อขายของลูกค้า ว่าอะไรขายดี ติดอันดับ Top5
จะดีกว่ามั้ย หากเราจะได้ข้อมูล ที่อยู่ เบอร์โทร ของลูกค้า เพื่อนำมาใช้ในการทำ CRM ได้ในอนาคต
จะดีกว่ามั้ย หากลูกค้าใหม่ ซื้อของแล้วกลายเป็นผู้ติดตามใน LINE OA ของเราทันที
.
สิ่งเหล่านี้ คือคุณสมบัติของ LINE Shopping นั่นเอง ซึ่งคุณก็สามารถสร้างได้ง่ายๆ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เงินเข้ากระเป๋าทันที ไม่ต้องรอเลยครับ
.
ใครมีสินค้า ที่ซื้อซ้ำบ่อยๆ ควรทำเลยครับ เพราะมันจะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นจริงๆ เลย
.
และทั้งหมดนั้นคือ
เช็คลิสต์ LINE OA ที่คนยอดขาย หลักแสน-หลักล้าน เขาทำกัน!
.
อยากปัง ต้องไปทำนะครับ!!
.
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnookacademy
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
เย้! Instagram คนติดตามไม่ถึง 10,000 ก็ใส่ลิงก์ใน Story ได้แล้ว
เย้! Instagram คนติดตามไม่ถึง 10,000 ก็ใส่ลิงก์ใน Story ได้แล้ว
ข่าวดี สำหรับคน Instagram มาแล้วครับ
กับ feature ที่หลายๆ อยากได้ อยากใช้มานานแล้ว นั่นคือ การใส่ Link ให้คนไปต่อได้ ใน Story เพราะว่านี่คือช่องทาง ส่งคนไปซื้อของ หรือ เข้าเว็บไซต์ได้ตามที่คุณต้องการ
ถ้าใครอยากใส่ Link แบบนี้ได้ คุณต้องมีผู้ติดตาม 10,000 คนเสียก่อน จึงทำให้หลายๆ คนอยากจะ ปั๊มคนติดตามเร็วๆ เพื่อให้ใส่ลิงก์ได้ใน Story
แต่ตอนนี้ Update ล่าสุด ทาง Instagram อนุญาตให้ ผู้ใช้งาน Instagram ใส่ลิงก์ไปใน Story ได้แล้วทุกคน
ประโยชน์ของการใส่ลิงก์ใน Story คืออะไร?
ก่อนหน้านี้ เวลาเราอยากจะให้คนทักไปในช่องทาง Social Media อื่นๆผ่านทาง Instagram เราจะต้องไปใส่ใน Bio เท่านั้น
แต่พฤติกรรมส่วนใหญ่ของผู้ใช้งาน InStagram สมัยนี้ ชอบเข้าไปดู Story มากกว่า ซึ่งหากสนใจ ชอบใจสิ่งไหน ก็จะทักทาย สอบถามกันโดยตรง และจะดีแค่ไหน หากเราสามารถใส่ลิงก์ เพื่อส่งคนไปยังลิงก์ขายของ หรือ ลิงก์ LINE ลิงก์ salepage
(ยิ่งเป็น Salepage หรือ website ที่มีการติด Pixel ต่างๆ ก็สามารถ ไปทำการ Retarget หาลูกค้าได้)
ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดี แล้วล่ะครับ ที่เราจะได้ไป ลองใช้งาน feature นี้กันแล้ว!!
“แล้วเราจะใส่ลิงก์ใน Story ได้อย่างไร?”
ไม่ยากครับ
1.อันดับแรก ให้กดไปที่ ภาพ Profile ของเราใน Instagram จะเป็นปุ่มบวก (+) ให้กดลงไป ตรงนี้จะเป็นการให้เราเลือกทำ Story ขึ้นไปในระบบ
- เลือกภาพ หรือ วิดีโอ ที่ต้องการสร้าง Story ขึ้นมา ก่อน
- ดูที่ด้านขวาบน มองหา เครื่องหมาย สติกเกอร์ แล้ว ค้นหาด้วยคำว่า “link” เมื่อเจอแล้ว ให้กดไปที่ สัญลักษณ์คำว่า “link”
- ใส่ url ที่เราต้องการ Promote ลงไปในนี้ แล้วหลังจากนั้น ในหน้า Story จะขึ้นเป็นปุ่มให้ทำการลิงก์ไปยัง URL นั้นได้
ok รู้แล้ว ลองไปทำกันนะคร้าบ ได้ผลลัพธ์ อย่างไร มาคอมเมนต์บอกกันได้ ในโพสต์นี้นะครับ 😉
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnookacademy
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
.
digitalnook #instagram
E-A-T คืออะไร สามคำ ที่คนทำ SEO ต้องรู้
E-A-T คืออะไร สามคำ ที่คนทำ SEO ต้องรู้
.
หลายคนที่เริ่มต้นทำ SEO หรือ Search Engine Optimization หรือ ทำให้บทความ หรือ เว็บไซต์ของคุณติดในหน้าแรก Google แบบไม่ต้องจ่ายเงิน
.
เป้าหมาย ของคนทำ SEO คงไม่มีอะไรดีไปกว่า การที่ทำให้ Content ของตัวเอง ติดในหน้าแรก
และสิ่งที่จะทำให้ มันติดหน้าแรกได้ เราก็ต้องเข้าใจว่า Google ชอบ หรือ ไม่ชอบอะไร
.
สิ่งนั้น มันคือ อัลกอริทึม ของ Google นั่นเอง
แต่เนื่องจาก อัลกอริทึม นั้นเปลี่ยนไป เปลี่ยนมาบ่อยๆ
.
มันก็เลยมีเกณฑ์หนึ่ง ที่ทาง Google ได้กำหนดขึ้นมา เพื่อแยกแยะว่า Content ไหนที่มีคุณภาพดี มากพอจะมาจัดอันดับ
.
เทคนิคนี้ เราเรียกกันว่า E-A-T
ฟังชื่อแล้ว ง่ายๆ ดี เหมือนกำลังจะกินอะไรสักอย่าง? คำว่า E-A-T นั้น เป็นคำย่อมาจากสามคำ ดังนี้ครับ
.
1. E=Expertise
.
เชี่ยวชาญ รอบรู้
.
ปัจจัยที่สำคัญ หนึ่งอย่างสำหรับการจะติด Google ในหน้าแรก ได้ นั่นคือ Content ของคุณต้องมีความยาว 1000 คำขึ้นไป (วิธีการวัดความยาวของคำ ให้เช็คจาก การเอาบทความทั้งหมดมาใส่ใน word แล้วนับคำเอา)
.
แล้วเราจะเขียนบทความยาวๆ ได้อย่างไรล่ะ? คำตอบนั้นก็คือ คุณต้องเข้าใจ สิ่งที่คุณกำลังเขียน และ ถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างเข้าใจ และคนอื่นๆ อ่านแล้วต้องเข้าใจด้วย!
.
ถ้าเรา เชี่ยวชาญ รอบรู้ การเขียนเนื้อหายาวๆ คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าไม่เคยรู้มาก่อน มันก็ยากจะเขียนออกมาได้ลื่น
.
นี่แหละ คือที่มาของ การที่ Google พยายามให้เราเขียน Content ยาวๆ (บางคนอาจจะสงสัยว่า คนชอบอ่านอะไรยาวๆ หรือ? คำตอบคือ ใช่ครับ ถ้าบทความนั้น เขียนได้น่าสนใจ อ่านแล้วไหลลื่น อ่านแน่นอน)
.
“แล้วเราจะเพิ่มคะแนนส่วน Expertise ให้บทความเราได้ยังไง?”
มันทำได้แบบนี้ครับ
.
มีภาพประกอบ ที่เกี่ยวข้องกับบทความทำให้คนเข้าใจ ได้มากขึ้น (เทคนิคของผมคือ เอา video จาก youtube มาแปะลงไปด้วย เพื่อให้คนอยู่ในหน้านี้นานมากขึ้น)
.
มีลิงก์ภายในเว็บของเรา ทำให้คนได้อ่านเรื่องอื่นๆ ที่่่น่าสนใจต่อได้ง่ายๆ ส่วนมากคนทำ SEO มักจะเอา เนื้อหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ บทความนั้น มาใส่คั่นระหว่าง Content เพื่อให้คนได้อ่านต่อ เพื่อให้คนอยู่ในเว็บไซต์ของเราได้นานขึ้น
.
เข้าใจใน keyword ที่เรากำลังทำ SEO อยู่ วิเคราะห์ keyword ออกมา
.
เนื้อหาที่เขียน ต้องอ่านแล้ว เข้าใจ และ รู้ได้เลยว่า คนเขียนเป็นคนที่เข้าใจเรื่องนี้จริงๆ ถึงอธิบายออกมาได้มากมาย แต่ กระชับ และทำให้คนอื่นๆ เข้าใจได้ด้วย เพราะหากเข้าใจง่าย คนจะอ่านต่อเนื่องจนจบ
.
2. A=Authoritativeness
เป็นเจ้าของบทความนั้นจริงๆ
.
“แล้วเราจะเพิ่มคะแนนส่วน Authoritativeness ให้บทความเราได้ยังไง?”
.
ต้องมีการแชร์ออกไป ในวงกว้าง โดยเฉพาะ social Media ทั้งหลาย (ถ้า Content ที่ดี น่าสนใจ เวลาเอาไปแชร์ใน social media ก็จะได้รับการแชร์ ต่อออกไปมากมาย และ มีโอกาสติด Google หน้าแรกเร็วขึ้น)
.
มีชื่อ Profile ของผู้เขียนติดเอาไว้ : ข้อนี้ หลายๆ คนที่ทำ Content อาจจะคิดว่า แค่เขียนเนื้อหา ก็คือจบแล้ว แต่จริงๆ การใส่ Profile ผู้เขียนในท้ายบทความ จะส่งเสริมให้
.
ทำ link ส่งมายังบทความที่คุณต้องการให้ติดหน้าแรก google : บทความไหน ที่ดี บทความนั้นจะมีคนนำไปอ้างอิง และให้เครดิตเสมอ ด้วยการทำลิงก์กลับมาให้เป็นมารยาท ดังนั้น คุณสามารถเพิ่มคะแนนส่วนนี้ได้ ด้วยการทำลิงก์เข้ามาหาบทความ
.
3. T=Trustworthiness
น่าเชื่อถือ
.
อีกปัจจัยหนึ่ง ที่คนทำ SEO ต้องให้ความสำคัญ ก็คือ ความน่าเชื่อถือ ของเว็บไซต์ ทั้งเชิงเทคนิค และ เชิงธุรกิจ
.
เว็บที่น่าเชื่อ สมัยนี้ คือ เรื่องของความปลอดภัย ดังนั้น Hosting ที่เลือกใช้ต้องมี SSL (Secure Sockets Layer) ซึ่งทาง Google เองจะให้คะแนนกับเว็บไซต์ที่มี SSL เป็นอันดับต้นๆ
.
เพิ่มช่องทางให้คนเข้ามารีวิวได้ : หากคุณมีระบบ ให้คนเข้ามา Comment เกี่ยวกับบทความของคุณได้ จะช่วยเพิ่มในแง่ของความน่าเชื่อถือขึ้นไปได้อีก (แต่สำหรับผม อาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญตรงนี้มากนัก เพราะบางครั้ง อาจจะต้องเข้ามาดูแล เนื้อหาบ่อยๆ)
.
มีการใส่ นโยบาย การคืนเงิน Privacy : หากเป็นเว็บไซต์ขายของ หรือ แบบ E-commerce ต้องมี หน้าเว็บที่อธิบาย เรื่องของนโยบายการคืนเงิน การคืนสินค้าเอาไว้ด้วย เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้มากขึ้น
.
มีช่องทางการติดต่อ : การมีเบอร์โทร มีระบุ ที่ตั้งของ บริษัท จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณดูมีความน่าเชื่อถือ เพิ่มขึ้น ติดต่อง่าย ไม่หนีหายไปไหน และข้อดีก็คือ คนสามารถติดต่อคุณได้สะดวกมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
.
สรุป E-A-T คืออะไร สามคำ ที่คนทำ SEO ต้องรู้
- E=Expertise
- A=Authoritativeness
- T=Trustworthiness
.
ลองนำแนวคิดนี้ ไปปรับใช้กับบทความของคุณนะครับ ผมลองนำไปใช้แล้ว มันช่วยได้จริงๆ ทำให้ติด Google ดีขึ้นแบบมีหลักการ และเป็นหลักคิด ในการเขียน Content บทความลงในเว็บไซต์ ได้ดีครับ
.
ใครนำไปใช้แล้ว ได้ผลอย่างไร มา update ให้ฟังได้ ในคอมเมนต์ของโพสต์นี้เลยนะครับ 😉
.
สนใจเรื่องราว การตลาดใหม่ๆ ติดตามผมได้เลยนะครับ ในช่องทางต่อไปนี้!!
.
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnookacademy
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
.
digitalnook #google #seo
ยิงแอด TikTok ไปแล้วลูกค้าไม่ทักเลย ต้องไปแก้ตรงไหน?
ยิงแอด TikTok ไปแล้วลูกค้าไม่ทักเลย ต้องไปแก้ตรงไหน?
.
มีนักเรียนที่ลงคอร์ส TikTok Ads ของผม ถามมาเยอะ ว่า ยิงแอด TikTok ไปแล้ว คนคลิกเยอะเลยนะ แต่ไม่มีใครทักมาเลย! ต้องแก้ยังไงดี?
.
หากใครกำลังเจอปัญหาแบบนี้ ผมอยากให้ถอยกลับมา 1 ก้าว แล้วเช็คลิสต์ตามหัวข้อที่ผมได้กล่าวไปนี้นะครับ
.
มาเริ่มกันเลย!!
.
1.สินค้าของเราน่าสนใจมากพอหรือยัง?
.
ต้องเข้าใจก่อนว่า การเล่น TikTok คือการมาหาความบันเทิง ในช่วงเวลาที่เขารู้สึก อยากจะผ่อนคลาย ดังนั้น สินค้า หรือ บริการที่โผล่ขึ้นมาในหน้า Feed หน้า จะต้องดึงความสนใจมากพอ จนคลิกไปดูเพื่อกดสั่งได้
.
โฆษณาที่คนจะยอมเสียเวลาบันเทิงเริงใจ ไปกดดูก็คือ
.
ต้องน่าสนใจมากๆ แบบสุด และ หากเป็นสิ่งที่เขาเคยเห็นมาก่อน ก็จะต้องเล่าใหม่ ให้น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม
.
แต่หากสินค้าไม่น่าสนใจเลย การเปลี่ยนสินค้าอื่นๆ มานำเสนอแทน ก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า
.
2. คลิปซ้ำคนอื่นๆหรือเปล่า
.
คลิปที่ใช้ คนอื่นใช้เหมือนเราหรือเปล่า? ถ้าคนอื่นก็ใช้ คนดูจะแยกไม่ออก ว่าตกลงแล้วมันของใคร ถ้าคุณต้องการสร้างความแตกต่าง ให้กับตัวเอง อย่าใช้คลิปเหมือนคนอื่น คุณต้องทำใหม่
.
การทำใหม่ ไม่ใช่การ copy คลิปคนอื่นๆ แล้วมาใส่ตัวหนังสือเราเอง แต่ต้องทำให้ไม่เหมือนคลิปเดิมเลย ต้องเล่าใหม่ ใส่เสียงใหม่ เป็นแบบของตัวเอง แบบนี้ มีโอกาสดึงดูดใจ ได้มากกว่า
.
เพราะใน TikTok คลิปแบบเดิม เห็นครั้งเดียว ก็เก่าแล้วนะครับ
.
3. ลงคลิปหลายๆแบบ เพื่อให้คนดูตัดสินใจ
.
อย่าฝากความหวัง ไว้กับคลิปแค่ตัวเดียว การยิงแอด 1 แคมเปญ ควรใช้คลิป 4 ตัว ในการทำโฆษณา เพื่อให้ระบบ คัดสรร สิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่ลูกค้่า หรือคนดูชอบที่สุด
.
ตัวไหนไม่ดี ก็ปิดไป แล้วทำใหม่ ขึ้นมาแทนที่ ตัวไหนที่ดี ทำงานดี ก็ให้เรา ศึกษาว่ามันดี เพราะอะไร
.
ถ้านึกภาพไม่ออกว่าคลิปแบบไหนดี ก็ให้ไป search จาก hashtag ใน แอพ TikTok ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของเรา คุณจะเจอไอเดียดีๆ มากมาย ที่เค้าทำกัน อันไหนดี เอามาเป็นแนวทาง แล้วสร้างให้เป็นสไตล์ของเรา
.
4. salepage ทำงานดีมั้ย
.
อีกเรื่องที่น่าสนใจ นั่นคือ Salepage ที่ใช้เป็นหน้ารองรับ หลังจากที่ลูกค้าคลิกโฆษณาเข้ามาดู ให้เช็คความสมบูรณ์ดังต่อไปนี้
เนื้อหา เป็นของเราเองมั้ย
ถ้าสิ่งที่เรานำขึ้นไปในหน้า salepage เหมือนของคนอื่นๆ ไม่แตกต่างเลย ลูกค้าจะไม่เห็นความแตกต่าง แต่ถ้าคุณสร้างเอกลักษณ์ให้กับ salepage ของตัวเอง ไม่มีใครเหมือน โอกาสการขายจะมีมากกว่า
.
เช่น คนอื่นๆ ใช้นางแบบ เป็นตัวนำ แต่เราใช้ นายแบบ เป็นตัวนำ ก็จะเกิดความแตกต่างไปแล้ว!
.
เช็คตำแหน่งปุ่ม LINE
เพิ่มตำแหน่ง ของปุ่ม LINE ให้กระจายในหลายๆ จุดของหน้า salepage เพราะคนเรา พร้อมกดได้จากหลายๆ ที่ บางครั้งเปิด มาใจร้อน อยากทักก็มี บางทีอยู่ตรงกลาง บางทีรูดมาจนถึงท้ายหน้า แล้วหาปุ่มไลน์ ก็มี
.
เช็คการทำงานของฟอร์มสั่งซื้อ
หากเราใช้ฟอร์มสั่งซื้อสินค้า ให้ทดสอบการทำงานเองก่อนให้ดี ว่าทำงานได้จริงหรือไม่ เพราะบางครั้ง ไม่ได้ทดสอบก่อน แล้วเอาไปใช้งานเลย ก็จะมีปัญหาตามมาได้
.
สรุป ยิงแอด TikTok ไปแล้วลูกค้าไม่ทักเลย ต้องไปแก้ตรงไหน
.
- สินค้าของเราน่าสนใจมากพอหรือยัง?
- คลิปซ้ำคนอื่นๆหรือเปล่า
- ลงคลิปหลายๆแบบ เพื่อให้คนดูตัดสินใจ
- salepage ทำงานดีมั้ย
.
และวันนี้ หากใครสนใจ อยากยิงแอดใน TikTok ตอนนี้ ผมมีคอร์สออนไลน์ที่จะสอน ตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงขั้นแอดวานซ์
เรียนด้วยตัวเองเป็นบทๆ ผ่านเว็บ
.
สอนครบ ทั้งเรื่อง ยิงแอด ทำ content ทำ salepage จบเลยในคอร์สเดียว
.
สนใจ อยากเรียน
พิมพ์ในคอมเมนต์ว่า “สนใจ” หรือ ทัก inbox มาได้เลย!!
Update 3 เรื่องใหม่ ใน TikTok Ads ที่สายยิงแอดต้องรู้
.
มาแล้วครับ มาแล้ว กับการ Update ข้อมูลล่าสุดจากทาง TikTok มาแล้ว
หากใครที่สมัครบัญชีโฆษณา TikTok หลังเดือน ก.ย. 64 เป็นต้นมา จะพบว่า มีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป
แล้ว ไปดูข้อมูลใน Youtube แล้วมันไม่ Update เลย
.
นั่นเป็นเพราะว่า มันเป็นลักษณะเฉพาะที่เกิดขึ้นกับคนเปิดบัญชี TikTok ใหม่นั่นเอง
และ คนที่เคยเปิดบัญชีมาก่อนหน้า ก็ยังใช้งาน TikTok Ads แบบเดิมได้อยู่
.
ลองมาดูกันครับ ว่ามีความเปลี่ยนแปลงอะไร เกิดขึ้นบ้าง
1. TikTok Pixel ปรับใหม่หมด
อันนี้ เป็นการเปลี่ยนวิธีทำ จากเดิมพอสมควรเลยครับ ทั้งกระบวนการติดตั้ง และ การกำหนด Event ทีแตกต่างจากของเดิมเล็กน้อย ถ้าใครที่เคยทำมาก่อน อาจจะงงๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่ยากเกินจะเข้าใจครับ
.
ถ้าไม่เคยทำมาก่อน แล้วไปหาวิธีการทำจากใน Youtube ตอนนี้ อาจจะยังไม่มีแนะนำ มากนัก
.
เท่าที่ผมลองทดสอบดู ส่วนตัวแล้ว พบว่าการปรับปรุงครั้งนี้ ทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นนะครับ และผู้บริการ Salepage ในบ้านเรา ก็มีการ Update ให้รองรับการทำ TikTok Pixel แบบใหม่นี้แล้วด้วยนะครับ
.
2. Ads Experience สร้างสีสันให้โฆษณา
การยิงแอดใน TikTok หลักๆ คือ การแสดงคลิป แล้วคลิกไปเจอ Landing Page หรือ Salepage เลย แต่ตอนนี้ ในบัญชี TikTok Ads ที่เปิดใหม่ จะมี feature Ads Experience มาให้ใช้งานด้วย
.
กล่าวคือ มันเป็นหน้าข้อมูลที่เปิดมาแล้ว รวดเร็วทันใจ เสียยิ่งกว่าเปิดหน้า Salepage นั่นเป็นเพราะ มันเป็นข้อมูลที่ดึงจาก Server เลย
.
หากเปรียบเทียบกับเฟสบุ๊คแล้ว สิ่งนี้ เทียบกับ Canvas นั่นเอง กดคลิกโฆษณาปุ๊บ เห็นหน้านี้เลยทันที ซึ่งทาง TikTok ก็เตรียม Templates มาไว้สามแบบ นั่นคือ Product for Sale, Brand Story และ Introduction & Brand pitch
.
Product for sale : เอาไว้แนะนำ สินค้า ให้เข้าใจได้มากกว่าเดิม รีวิวต่างๆ โดยใช้ภาพ หรือ วิดีโอ
Brand story : เล่าเรื่องความเป็นมาของแบรนด์ ให้คนสนใจ ในที่มา ของสินค้า
Introduction & Brand pitch :แนะนำแบรนด์ให้ลูกค้าใหม่ ได้มารู้จัก และทดลองใช้สินค้า หรือ บริการของคุณ
.
ต้องลองไปทำกันดูครับ สนุกดี
.
3.Catalog Sale ขายของหลายอย่างในโฆษณาเดียว
ก่อนหน้านี้ มีคนเคยถามผมว่า ถ้าจะขายสินค้า มากกว่า 1 รายการ ในโฆษณาเดียวทำได้มั้ย
.
ผมจะตอบว่าถ้าเป็น salepage แนะนำให้เสนอ 1 สินค้า คนจะเข้าใจง่ายกว่า
.
แต่ตอนนี้ มี feature ใหม่ ที่เรียกว่า Catalog sale ครับ นั่นคือ นำเสนอสินค้า ได้มากกว่า 1 รายการ ภายในคลิปโฆษณาเดียว อย่างตอนนี้ ผมก็เห็น แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ หลายเจ้ามาทำแล้ว
.
หลักการคือ เมื่อคลิปโฆษณาปรากฏขึ้นมา แทนที่จะเป็นปุ่มกดธรรมดา ก็จะมีภาพสินค้า โชว์ขึ้นมาแทน แล้วเมื่อกดไป ก็จะเป็น catalog สินค้า ให้เราเลือกดู พร้อมราคา
.
เราจะลิงก์ไปหน้า website แสดงสินค้า อีกครั้งก็ได้ หรือจะลิงก์ไป shopee ก็ได้ (แต่หากอยากวัดผลได้ ระบบก็จะให้เราเชื่อมต่อกับ Pixel ได้อีกต่างหาก ทำให้ สามารถวิเคราะห์ได้ว่า ในโฆษณานี้ มีคนคลิกไปยังสินค้าตัวไหนบ้าง)
.
น่าสนุก และเป็นสีสันใหม่ ของการทำโฆษณาเพื่อขายสินค้าเลยทีเดียว
.
ทั้งหมดนี้ เป็น feature ใหม่ ใน TikTok Ads ที่น่าสนใจครับ และเป็นช่วงเริ่มต้นยังไม่มีใครทำมากนัก ดังนั้นจึงควรรีบศึกษา
.
ซึ่งตอนนี้ ผมก็ทะยอย Update วิธีการทำไปในคอร์สออนไลน์ TikTok Ads by Digitalnook ไปแล้ว นักเรียนที่เคยลงคอร์ส สามารถไปเรียนรู้ได้เลยนะครับ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
.
แต่ถ้าใครสนใจ อยากจะเพิ่มยอดขาย อยากเริ่มลงมือยิงแอด TikTok จริงจัง
มาอยากเรียนรู้จากคอร์สนี้ไปด้วยกัน เพราะจะสอนตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงแอดวานซ์ และ Update เนื้อหาใหม่ๆ ต่อเนื่อง!
.
สนใจ ทักไลน์ @digitalnookacademy ได้เลยนะครับ
LINE Ads Platform เพิ่ม กลุ่มเป้าหมายจากคนคลิกรูปโฆษณา ได้แล้ว!!
Update ใหม่สุดๆ!! LINE Ads Platform
เพิ่มกลุ่มเป้าหมายจากคนคลิกรูปโฆษณาได้แล้ว!!
.
คนยิงแอดในไลน์ หรือ LINE Ads Platform ต้องรู้ กับเทคนิคใหม่ ของการยิงแอด
เพราะตอนนี้ มีกลุ่มเป้าหมายใหม่ ให้ได้เลือกใช้กันแล้วครับ
.
เราเรียกกันว่า กลุ่มเป้าหมาย จากคนคลิกรูปโฆษณานั่นเอง
.
“ทำไมกลุ่มเป้าหมายนี้ ถึงน่าสนใจ?”
.
นั่นเป็นเพราะว่า ก่อนหน้านี้ หากเราต้องการคนที่มีส่วนร่วมกับโฆษณา ใน LAP เราจะทำจาก คนที่มีส่วนร่วมกับ วิดีโอ เป็นหลัก หรือ คนที่เข้าหน้า salepage ใช่มั้ยครับ?
.
แต่ตอนนี้ ใน LINE Ads Platform ให้เราสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมาย จากคนที่คลิกรูปโฆษณาได้แล้ว ซึ่งทำได้ง่าย และ สะดวกยิ่งขึ้น เพราะการทำภาพ นั้นรวดเร็วกว่าการทำวิดีโออยู่แล้ว
.
เป็นยังไง มาดูวิธีการทำได้เลย!!
.
- “กลุ่มเป้าหมายคนที่คลิกรูป” รองรับทุกวัตถุประสงค์ในการยิงโฆษณา
. - โดยรองรับเฉพาะแคมเปญที่ชิ้นงานโฆษณาเป็นรูปภาพเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, รูป (ขนาดเล็ก), ภาพสไลด์ ไม่รวมวิดีโอ
. - เลือกสร้างกลุ่มเป้าหมายคนที่คลิกรูปโฆษณา โดยกำหนดจาก “แคมเปญ ID”
. - ต้องมีคนคลิกโฆษณาต่อแคมเปญมากกว่า 100 คนขึ้นไป สถานะกลุ่มเป้าหมายจึงจะเปลี่ยนเป็น “พร้อมใช้งาน”
. - เก็บข้อมูลคนที่เคยคลิกรูปโฆษณาในระยะเวลาสุงสุด 180 วัน
. - หากเลือกแคมเปญ ID ที่ไม่มีโฆษณาแบบรูปภาพ ระบบจะขึ้น Error
. - สร้างได้ง่าย ๆ อัตโนมัติ โดยไม่ต้องติด LINE Tag
. - นำมาต่อยอด Lookalike หรือ Re-target ให้คนกลุ่มนี้กลับมาเพิ่มเพื่อน, เข้าเว็บไซต์ก็ได้
.
เพิ่ง Update กันแบบสดร้อนๆ ใครยิงแอดใน LINE ไปหาทำกันได้เลยจ้า
.
สนใจเรื่องราว การตลาดใหม่ๆ ติดตามผมได้เลยนะครับ ในช่องทางต่อไปนี้!!
.
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnookacademy
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
.
digitalnook #lineoa #LAP
จะทำยังไง ให้ ต้นทุนต่อการซื้อ ใน TikTok Ads ถูกลง
จะทำยังไง ให้ ต้นทุนต่อการซื้อ ใน TikTok Ads ถูกลง
.
มีนักเรียนที่ได้ลงเรียนคอร์ส TikTok Ads ผมได้สอบถามเข้ามา เกี่ยวกับการยิงแอด TikTok ว่า จะทำยังไง ให้ต้นทุนต่อการซื้อถูกลง
.
ผมเห็นว่า คำถามนี้ ดีนะครับ เพราะว่า หากเราทำได้ จะช่วยให้ธุรกิจของเราไปได้
.
1. ทำโฆษณา ทำคลิปหลายๆแบบ
จุดเริ่มต้นของการสร้างความสนใจ ให้กับสินค้าของเรา ก็คือเนื้อหาของโฆษณา ควรทำเนื้อหาโฆษณาออกมาหลายๆ รูปแบบ โดยใช้ข้อมูลจากลูกค้าที่เคยซื้อ สินค้าของเราไปแล้ว มาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
.
เพราะ ทุกครั้งที่เราได้ขายสินค้าให้กับลูกค้ามากขึ้นเท่าไร เราจะได้เรียนรู้ลูกค้าเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น คำถามที่ลูกค้าคาใจ สิ่งที่ลูกค้าอยากได้ เราจะนำมาใช้พัฒนาสินค้าและบริการให้ดีมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการทำโฆษณา ที่โดนใจลูกค้ามากขึ้นด้วย
.
ดังนั้น ต้องทำโฆษณาหลายๆแบบ และหากพบแบบไหนที่ดีกว่า ให้ยึดเอารูปแบบของโฆษณานั้น มาเป็นหลักในการสร้างคลิปใหม่ๆ แบบไหนที่ไม่ดี ก็ปิดไป แล้วจดจำเอาไว้ว่า คนไม่ชอบ
.
2. ทำ โฆษณา Retarget
บางครั้งคนเรา ไม่ได้ตัดสินใจ ซื้อสินค้าตั้งแต่ครั้งแรก การที่ได้เห็นโฆษณาของเราบ่อยๆ จะเพิ่มโอกาส การขายได้มากขึ้นแม้ใช้งบน้อยลง
.
เพราะการ Retarget คือ การทำโฆษณาไปหาเฉพาะคนที่มีส่วนร่วม หรือ คนที่สนใจในโฆษณาของเรา เพียงแต่ครั้งแรก เขาอาจจะไม่ซื้อ ด้วยเหตผลหลายๆ อย่าง ยังไม่มีเงิน เงินเดือนไม่ออก ยังไม่พร้อม เป็นต้น
.
แต่การ Retarget ไม่ได้ส่งโฆษณาเดิมที่เขาเคยเห็น กลับไปหาเค้า แต่เป็นการส่งโฆษณา แบบอื่นๆ ให้เค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น เช่น รีวิว หรือ โปรโมชั่นต่างๆ
.
และหากเก็บข้อมูล กลับไปหาคนเก่าๆ ที่เคยเห็นคลิปแล้วเรา ซ้ำอีก โดยตัดคนที่ เคยซื้อสินค้าของเราไปแล้ว
.
3. ตรวจเช็ค salepage
ถ้าโฆษณาทำดี คนคลิกมาเยอะ แต่ว่า ไม่มีคนซื้อเลย อันนี้ ให้ลองมาเช็ค หรือ ปรับ salepage ของเรา ว่าสะดวกกับคนซื้อมากน้อยแค่ไหน
.
ไอเดีย ก็คือ เพิ่มตำแหน่ง ของปุ่มติดต่อ ปุ่ม line ให้มากขึ้น / ถ้าจะลองเพิ่มฟอร์มสั่งซื้อสองตำแหน่ง ข้างบน กับข้างล่าง ก็สามารถทำได้
.
หรือลอง เพิ่ม Call to action หลายๆ แบบมากขึ้น ทั้ง LINE Messenger และ การโทร ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นกับรูปแบบของสินค้าและบริการของคุณ
.
4. เพิ่มยอดขายต่อครั้งให้มากขึ้น
เมื่อลูกค้าติดต่อเข้ามาหาเรา แสดงว่าสนใจสินค้าหรือบริการของเราแล้ว ให้แอดมิน (หรือเราเองก็ได้) นำเสนอสินค้าเป็น Set หรือ โปรโมชั่น แทนที่จะซื้อชิ้นเดียว ก็ให้ซื้อ 2-3 ชิ้น แต่ราคาต่อชิ้นถูกลง แม้กำไรน้อยลง แต่ยอดขายต่อครั้ง นั้นเพื่มขึ้น
.
หรือจะนำเสนอสินค้าตัวอื่นๆ ที่มีความสอดคล้องกับสินค้าที่ลูกค้าต้องการไปด้วยก็ได้ เช่น ซื้อโทรศัพท์มือถือ ก็นำเสนอเคสมือถือ หรือ เสนอขายประกันตัวเครื่องเพิ่มเข้าไป
.
หากทำแบบนี้ได้ จะทำให้ต้นทุนต่อการซื้อของเรานั้นถูกลง
.
สรุป จะทำยังไง ให้ต้นทุนต่อการซื้อ ใน TikTok Ads ถูกลง
ทำโฆษณา ทำคลิปหลายๆแบบ
ทำ โฆษณา Retarget
ตรวจเช็ค salepage
เพิ่มยอดขายต่อครั้งให้มากขึ้น
.
ลองนำเทคนิคนี้ไปใช้กับการยิงแอด TikTok ของคุณดู ได้ผลอย่างไร มา Comment บอกกันด้วยนะครับ 😉
.
แต่สำคัญที่สุด เหนือสิ่งอื่นใดใน TikTok Marketing คือการทำ Content ให้คนสนใจครับ!
.
และสำหรับ ใครที่สนใจอยากจะลงลึก มากขึ้นในเรื่อง TikTok Ads อยากจะเรียนแบบตัวต่อตัว หรือ คอร์สออนไลน์
สามารถ inbox หรือ ทักไลน์มาได้นะครับ ที่ลิงก์นี้ @digitalnookacademy
.
สนใจเรื่องราว การตลาดใหม่ๆ ติดตามผมได้เลยนะครับ ในช่องทางต่อไปนี้!!
.
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnookacademy
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
.
digitalnook #tiktokads
6 เทรนด์ Digital Marketing ในปี 2022
6 เทรนด์ Digital Marketing ในปี 2022
ในภาวะโรคระบาดที่คนทั้งโลกต้องเจอกันอยู่ในทุกวันนี้ พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จนแทบจะตามไม่ทัน นักการตลาดก็ต้องทำงานกันเหนื่อยไปเลยทีเดียว เพราะมีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาให้ท้าทายความคิด และความสามารถอยู่ตลอดเวลา
เพื่อให้เราได้เท่าทันสถานการณ์ จึงควรต้องศึกษาเทรนด์ของ Digital Marketing ในปีหน้า ที่ใกล้จะมาถึง
นี่คือ 6 เทรนด์ Digital Marketing ในปี 2022 หรือ เทรนด์ การตลาด 2022 ที่คุณควรรู้ครับ
1.AI เติบโตขึ้นมาก
บริษัทในอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค้าปลีก ธนาคาร หรือ การดูแลสุขภาพ นั้นเริ่มต้นใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการทำการตลาดแล้ว แม้ว่าส่วนใหญ่จะใช้ใน Marketing Automation อย่างพวก การรายงานยอดคนเข้าเว็บไซต์ หรือ การแนะนำ Keyword คำค้นหาหลักๆ ที่จะทำให้ลูกค้ามาเจอกับธุรกิจของเราใน Search Engine แบบ Organic
ตอนนี้นักการตลาด ก็กำลังมองหา AI ที่จะทำหน้าที่ทำนาย ทายใจว่าลูกค้ามีแนวจะซื้ออะไรในอนาคต โดยอ้างอิงมาจากประวัติการเข้าชม และ การซื้อที่่ผ่านมาแล้ว!
และในปี 2022 นี้จะมีการใช้ AI ร่วมกับกลยุทธ SEO และกลยุทธทางการตลาดอื่นๆ อีกมากมายที่คุณจะต้องแปลกใจว่า ทำไม AI มันทำแบบนี้ได้!
2. Influencer Marketing จะมี AI มาช่วย
การทำการตลาดด้วย Influencer นั้นยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และนักการตลาดก็แบ่งงบตลาดมา 20% เพื่อนำมาใช้จ้าง Influencer
แต่ประเด็นก็คือ เราจะรู้ได้อย่างไร ว่า Influencer คนไหนที่เหมาะสมกับงานของคุณ?
ระบบ AI จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์ ว่า Influencer คนไหนที่จะเหมาะสม กับงานของคุณ นั่นหมายความว่า ต่อไปนี้ คุณไม่ต้องมาปวดหัวกับการจ่ายเงินแบบเสียเปล่าให้กับ “คนที่ไม่ใช่” คุณจะจ่ายเฉพาะกับ influencer ที่สร้างยอดขายให้กับคุณเท่านั้น
จะเป็นอย่างไร ต้องติดตามกันดู!!
3. ผู้ช่วยเสมือน
มีการประเมินกันว่า มูลค่าตลาดของการซื้อของด้วยการค้นหาด้วยเสียงนั้นจะถึง 4 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 2022 ในขณะที่การค้นหาด้วยเสียงนั้นจะเพิ่มขึ้น 18%
ซึ่งตอนนี้หลายๆ ธุรกิจก็ได้ใช้ ผู้ช่วยเสมือนในการให้บริการลูกค้าแบบอัตโนมัติไปแล้ว ผ่านช่องทาง Social Media ต่างๆ Email Marketing และแพลตฟอร์มต่างๆ
ถ้าให้เห็นภาพง่ายขึ้นมากกว่า เดิม ในบ้านเราเองตอนนี้ ก็คือการใช้ “แชทบอท” นั่นเอง และ AI จะทำให้การตอบคำถามลูกค้านั้นดีขึ้น ลื่นไหล มีความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้น สร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม
4. Hybrid Events
จากสถานการณ์โรคระบาดที่คนทั้งโลกได้เผชิญอยู่นี้ ทำให้เกิด New Normal ขึ้นมาหลายอย่าง การจัด Event ที่มีคนเยอะๆ ต้องเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นการถ่ายทอดสดผ่าน Zoom หรือผ่าน Live บ้างเพื่อรักษาระยะห่าง
แต่ตอนนี้คนส่วนใหญ่ เริ่มคลายความกังวลไปแล้ว นักการตลาดจึงต้องเผชิญหน้ากับการเลือกว่า จะจัด Event ในสถานที่จริงที่มีความสุ่มเสี่ยง หรือ จัด Event เสมือนให้คนเข้ามาดูแบบสบายๆ และปลอดภัย จากที่บ้านกันดีแน่?
ดังนั้นเพื่อให้ประสบการณ์ของ Event ในยุค New Normal นั้นดีขึ้น จะต้องมีการประยุกต์เอา เทคโนโลยี AR (augmented reality) และ VR (Virtual Reality) มาประยุกต์ใช้ร่วมด้วย
5. Content Marketing
หากต้องการให้ธุรกิจของคุณนั้นโดดเด่นขึ้นมา เหนือกว่าคนอื่น สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ จะต้องใส่ใจในเรื่องของการทำ PR ความเป็นผู้นำเทรนด์ และ การทำ SEO ให้มากขึ้น
อันดับแรก คุณต้องสร้าง Content ภายในสื่อที่คุณควบคุมได้เอง ถ้าดีที่สุด ขอแนะนำให้เป็นเว็บไซต์ เพราะสามารถทำ SEO ได้ (โดยเฉพาะ WordPress จะมีโครงสร้างที่เหมาะกับการทำ SEO)
อย่าลืมการทำ PR ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ มากยิ่งขึ้น จะเป็นสำนักพิมพ์ เว็บไซต์ต่างๆ บทความ สิ่งเหล่านี้ (เวลาคนจะตัดสินใจจ่ายเงิน มักดูรีวิว หาข้อมูลก่อนเสมอ ถ้ายิ่งเจอชื่อของคุณในสื่อมากเท่าไร ก็ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นได้มากขึ้นเท่านั้น)
และท้ายที่สุด ต้องทำให้คนสามารถลิงก์ไปหายัง Content ที่คุณสร้างเตรียมเอาไว้ในสื่อของคุณเอง หรือทำอย่างไรก็ได้ให้คน search แล้วเจอเว็บของคุณในหน้าแรก Google
6. Mobile First Marketing
ทุกวันนี้ คนใช้เวลาส่วนมากในชีวิตไปกับการจ้องหน้าจอมือถือ อยู่ตลอดเวลา สอดคล้องกับสถิติ การใช้งานเว็บผ่านสมาร์ทโฟน นั้นสูงถึง 80-90% เลยทีเดียว
ดังนั้น ประสบการณ์เข้าชมเว็บไซต์ของคุณนั้น จะต้องคำนึงเรื่องการออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายผ่านสมาร์ทโฟน หรือ แทบเล็ต เป็นอันดับแรกเลย ที่สำคัญยิ่งโหลดเร็ว ก็ยิ่งได้ใจลูกค้ามากขึ้นเท่านั้น
สรุป
หลายเรื่องที่เป็น เทรนด์ การตลาด 2022 หรือในปีหน้า ก็เป็นต่อยอดจากความรู้เดิมที่เราเคยศึกษามาก่อน อย่างเรื่อง Content Marketing SEO และ Mobile First Marketing
ดังนั้นปีหน้า SEO จะกลายเป็นเรื่องที่พูดถึงกันมากขึ้นในบ้านเรา เตรียมตัวกันให้พร้อมนะครับ เหลือเวลาอีกไม่เท่าไรแล้ว สำหรับปีหน้า!!
สำหรับคนที่สนใจเรื่อง SEO ผมจะมาแชร์ความรู้ และ เทคนิคต่างๆ มากขึ้น ผ่านช่องของผมดังต่อไปนี้นะครับ
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
แหล่งที่มาของบทความ
https://www.inc.com/john-hall/6-marketing-trends-to-prepare-for-in-2022.html
เตรียมตัว! การตลาดวันฮาโลวีน ใน TikTok ที่แบรนด์ควรรู้
เตรียมตัว! การตลาดวันฮาโลวีน ใน TikTok ที่แบรนด์ควรรู้
.
ตุลาคม เมื่อไร อีกกระแส ฮิตที่คนทำ Content จะต้องนึกถึง ก็คือ เทศกาลฮาโลวีนนั่นเอง รวมทั้งบ้านเราเองนั้น ก็ซีมซับวัฒนธรรมเกี่ยวกับเทศกาลนี้ มาตั้งแต่ไหน แต่ไรแล้ว
.
ทุกๆปีในช่วงฮาโลวีน จะมีอะไร แวะเวียน มาให้เราได้เลือกดู เลือกชม รวมทั้ง เลือกซื้อ กันเสมอ
.
หนังสยองขวัญ / เมนูสยอง / หน้ากาก / แฟชั่นแฟนซี / หมวกแม่มด และอื่นๆ อีกมากมาย สินค้าเหล่านี้ จะขายดีในช่วงเทศกาลนี้มากกว่าปกติ
.
จะดีกว่ามั้ย หากเราได้เตรียมตัว วางแผนทำ Content ก่อนที่เทศกาลนี้จะมาถึง? นี่จึงเป็นที่มาของบทความนี้ ที่ทุกคนจะได้เรียนรู้จากสถิติของวัน ฮาโลวีน จากปีก่อน ใน TikTok กันครับ
.
1.กระแส ฮาโลวีน จะมาตอนไหน ดูให้ดีๆ
.
ใครที่ทำ คลิปเกี่ยวกับฮาโลวีน แล้วจะนำขึ้นใน TikTok ความนิยมของกระแส ฮาโลวีนนั้นจะเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายเดือน สิงหาคม เป็นต้นไป แล้วก็เพิ่มขึ้นๆ จน peak สุดในวัน ฮาโลวีน แล้วหลังจากนั้น กระแสก็จะตกไปเรื่อยๆ จนถึงปลายปี
.
ดังนั้น หากจะเล่นกับกระแสนี้ ก็ให้เริ่มได้เลยนะครับ (ปีนี้ ฮาโลวีนวันที่ 31 ต.ค. 64)
.
ใครจะเล่น Content อะไร ต้องวางแผน ต้องคิดก่อนเสมอครับ อย่าไปทำล่วงหน้า 1-2 วันก่อน ฮาโลวีนนะครับ
.
2.คนใช้จ่ายในช่วงฮาโลวีนเยอะมากขึ้นทุกปี
.
จากสถิติ การจับจ่ายใช้สอยที่ผ่านมาในปี 2020 ที่ TikTok ได้สำรวจมาพบว่า มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เรื่อยๆ
.
และสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด ก็คือ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ตามมาด้วย อาหารและเครื่องดื่ม (ลองดูคลิปที่ขึ้นมาให้เห็นบ่อยๆ ก็จะไม่พ้นเรื่องเหล่านี้)
.
3. HashTag ยอดนิยม ที่ควรใช้ในช่วง ฮาโลวีน
.
ถ้าจะหา Hashtag ยอดนิยม เอาไปใช้กับโพสต์ของคุณในช่วง ฮาโลวีน ลองมาดูสถิติของ hashtag ยอดนิยม ในช่วงฮาโลวีน ปี 2021 กันดูครับ
.
#halloween = 20 พันล้าน
#halloweenlook = 4.5 พันล้าน
#halloweenmakeup = 1.2 พันล้าน
#halloweencostume = 723 ล้าน
#trickortreat = 336 ล้าน
#halloweenDIY = 119 ล้าน
.
4. ถ้าไม่ใส่ชุดผี แล้วทำคอนเทนต์แบบไหนได้บ้าง
.
ช่วงฮาโลวีน เป็นช่วงที่คนทำ Content มักจะนึกถึงการแต่งกาย เสื้อผ้าเป็นหลัก แต่จริงๆแล้ว Content แบบอื่นๆ ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพียงขอให้อิงกับ ความสนุกสนาน บันเทิง แฟนตาซี เป็นหลัก
.
มาดูหมวดอื่นๆ ที่น่าสนใจ ไม่แพ้เรื่องแฟชั่นกันครับ
.
📢 Acting & dialogue
🩰 Dance
📝 Diary/vlog
🎤 Lip sync singing
🎩 Comedy
🎬 Random shoot
🔴 Screen recording
.
อ่านบทความนี้แล้ว ก็อย่าลืมเตรียมตัวกันให้พร้อม ก่อนเทศกาลมาถึง
มีไอเดียอะไร มาบอกกันได้ในคอมเมนต์ของโพสต์นี้นะครับ 😉
.
สนใจเรื่องราว การตลาดใหม่ๆ ติดตามผมได้เลยนะครับ ในช่องทางต่อไปนี้!!
.
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
.
digitalnook #tiktok #tiktokads
TikTok Commerce Update! 6 รูปแบบใหม่!ที่คนทำออนไลน์ ต้องรู้ (Live สดแล้วช้อปได้ มาแน่!)
TikTok Commerce 6 รูปแบบใหม่!ที่คนทำออนไลน์ ต้องรู้ (Live สดแล้วช้อปได้ มาแน่!)
.
คนออนไลน์ ที่เน้นขายสินค้า ต้องรู้ TikTok เตรียมปล่อยเครื่องมือ ทำการตลาดแบบใหม่ เอาใจคนทำ e-commerce กับ 6 เครื่องมือที่น่าสนใจมากๆ
.
Feature ทั้งหมดนี้ มีการประกาศในเว็บไซต์ TikTok for Business ครับ จึงมีความน่าเชื่อถือสูง และจะเริ่มทะยอยให้ใช้งานกันครับ (ตอนนี้ มีบางแบรนด์เริ่มได้ใช้กันแล้ว!!)
.
และสำหรับ สาย Live ขายของ TikTok จะมี feature ใหม่ให้ลูกค้าซื้อของได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม แน่นอน อยากรู้ว่ามีอะไร ตามไปดูกันเลยครับ
.
1.TikTok Shopping
.
ถ้าใครใช้งาน Instagram บ่อยๆ น่าจะเคยเห็น feature Shopping กันมาบ้างแล้ว เร็วๆ นี้ใน TikTok ก็จะมี section สำหรับการ shopping ขึ้นมาเช่นกัน เป็นเมนูให้เห็นชัดๆ เลยครับ
.
โดยจะทำงานร่วมกับ Shopify, Square, Ecwid, PrestaShop รวมไปถึง Wix, SHOPLINE, OpenCart, และ BASE ด้วย (บทบาทของเว็บ จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการขายสินค้านะครับ)
.
และทาง TikTok จะมีการปล่อย API ให้ใช้ ในช่วงปลายปี 2021 นี้ นะครับ ติดตามกันให้ดี
.
2. Product Link
.
ถ้าตอนนี้ เราทำโฆษณาใน TikTok จะมีปุ่มขึ้นมาบอกว่า “ซื้อเลย” หรือกดปุ่ม “ติดต่อ” ก็จะเข้าไปในหน้าเว็บไซต์ หรือ Salepage
.
แต่ต่อไป จะมีสิ่งที่เรียกว่า Product Link เพิ่มขึ้นมา นั่นคือ ภายในคลิปนั้นๆ ที่เรากำลังรีวิวสินค้า จะมีกล่องแสดงภาพสินค้าขนาดเล็กขึ้นมา ซึ่งเราสามารถกดคลิกไปเลือกซื้อได้เลยทันที
.
อารมณ์จะต่างไปจาก salepage เพราะเป็นการทำภายใน App TikTok เอง (คาดว่าน่าจะง่ายขึ้น สำหรับคนขายของนะครับ)
.
3.Live Shopping
.
สายไลฟ์ขายของ น่าจะต้องชอบสิ่งนี้ครับ! เพราะ ปัจจุบัน การ Live ให้คนมาซื้อนั้น จะต้องไปใช้ช่องทางอื่นๆ ในการติดต่อ แทน
.
แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีภาพสินค้าให้เลือกกดซื้อ ได้เลยในตอนที่ Live!! อารมณ์ เหมือนกับ TikTok ที่ใช้ในประเทศจีนเลยทีเดียวครับ ถือว่าตื่นเต้นแทนคนขายเลย!!
.
รอติดตาม feature นี้กันให้ดีเลยครับ ซ้อม Live และปั้นยอดคนติดตามให้เยอะๆ ไว้เลยนะครับ
.
4.Collection Ads
.
อันนี้ เป็น feature โฆษณาแบบใหม่ ที่ทำให้คนเห็นสินค้าได้มากกว่า 1 ตัว เรียกว่ามากันทั้งเว็บได้เลยทีเดียว ซึ่ง ตอนนี้ ในเมืองไทยก็เริ่มมีปล่อยให้แบรนด์ในไทย เริ่มใช้งานแล้วครับ ที่ผมเห็นก็คือ Index Living Mall
.
การทำงานก็เหมือนโฆษณาใน Feed ทั่วไป เมื่อคลิกเข้าไปในปุ่ม สินค้า ก็จะเข้าไปสู่หน้าจอแสดง สินค้าหลากหลายตัว เรียงกันมาเป็น แคตตาล็อกสินค้าเลยครับ และเมื่อกดไปในสินค้าแต่ละตัว ก็จะเข้าสู่ เว็บไซต์ e-commerce ของ Index เพื่อกดสั่งซื้อได้เลย
.
5.Dynamic Showcase Ads (DSA)
.
feature นี้ จะเป็นการแสดงโฆษณาสินค้าของเรา เปลี่ยนไปตามพฤติกรรม หรือความชอบของลูกค้าแต่ละคนโดยอัตโนมัติ ซึ่งกลไกภายในนั้น จะคัดเลือกมาจากระบบ AI ของ TikTok เอง
.
มีการทดสอบการใช้งาน ในแบรนด์ต่างประเทศ พบว่ามี ROAS เพิ่มขึ้น 3 เท่าเลยทีเดียว
เข้าไปอ่านได้นะครับ ในลิงก์นี้ >> https://www.tiktok.com/business/en/inspiration/aerie-397
.
6. Lead Generation
.
ตัวนี้ เป็นการทำโฆษณา เพื่อหาผู้มุ่งหวัง เพื่อกรอกฟอร์มก่อน แล้วทางแบรนด์จะติดต่อกลับไปหา เพื่อประสานงานในลำดับต่อไป
.
ส่วนใหญ่จะพบในธุรกิจ อสังหาฯ รถยนต์ หรือ การสมัครแบบต่างๆ
.
ซึ่งเคสที่ทาง TikTok นำมาเสนอนั้น เป็น แคมเปญของ Lazada ที่ชวนคนไป shopping และ หาคนไปขายของในแพลตฟอร์มให้มากขึ้น ผ่านเครื่องมือ lead generation
.
เมื่อจบแคมเปญ ก็พบว่า มีคน 47% ที่กรอกฟอร์มใน lead generation กลายไปเป็นผู้ขายจริงใน Lazada! (ตัวเลขนี้ถือว่าเยอะมากเลยนะครับ)
.
เข้าไปอ่านเคสนี้ ได้เลยนะครับ >> https://www.tiktok.com/business/en-US/inspiration/lazada-295
.
สรุป Update! TikTok Commerce 6 รูปแบบที่คนทำออนไลน์ ต้องรู้
- TikTok Shopping
- Product Link
- Live Shopping
- Collection Ads
- Dynamic Showcase Ads (DSA)
- Lead Generation
.
เตรียมตัวกันให้พร้อมนะครับ เพราะเมื่อถึงเวลานั้น ทุกคนก็จะเข้ามาทำเหมือนกันหมด
ดังนั้น รู้ก่อน เตรียมก่อน พร้อมก่อน ปังก่อนครับ!!