3 เหตุผล ที่ลูกค้าจะไม่ซื้อของกับคุณ ถ้าลืมทำสิ่งนี้ในเพจ
3 เหตุผล ที่ลูกค้าจะไม่ซื้อของกับคุณ
ถ้าลืมทำสิ่งนี้ในเพจ
หลายคนมักจะบ่นว่า ยิงแอดแล้ว
ทำโฆษณาแล้ว ลูกค้ามาถึงหน้าเพจ
แต่ไม่ซื้อของเลย
เพราะอะไร?
ถ้าคุณกำลังเจอปัญหานี้
ลองอ่านเรื่องนี้ดูก่อนมั้ยครับ
เพราะมันน่าจะช่วยทำให้คุณ แก้ปัญหาคาใจ ที่ติดค้างมานานได้
กับ เรื่องนี้!!
“3 เหตุผล ที่ลูกค้าจะไม่ซื้อของกับคุณ
ถ้าลืมทำสิ่งนี้ในเพจ”
ก่อนเข้าเหตุผลที่ผมอยากกล่าวถึง ผมอยากให้คุณลองจินตนาการว่า
ตอนเราเปิดเฟสบุ๊คบนมือถือ แล้วสไลด์หน้าจอ ไปเจอโฆษณา สักตัวนึง
คุณทำยังไง
ถ้าไม่สนใจ ก็เลื่อนผ่านไป
แต่ถ้าสนใจ เราก็กดไปดูหน่อย
หลังจากนั้น ซื้อเลยมั้ย?
แน่นอนว่าไม่ได้ซื้อหรอก ณ ตอนนั้น
(ของที่จะซื้อเลย คือของที่เราเข้าใจ รู้จักมาก่อน หรือ เป็นสินค้าที่ไม่ต้องคิดเยอะ ซึ่งโอกาสยากมาก)
ก่อนเราจะซื้อ เราจะต้องเข้าไปดูในเพจเสียก่อน เพื่อดูว่า
เพจนี้ เปิดมานานหรือยัง
ทำอะไรมาก่อนบ้าง?
ขายอะไรกันแน่?
มีคนมาซื้อเท่าไรแล้ว?
ถ้าเราสำรวจดูแล้ว ไม่มีอะไร ตามที่กล่าวมา
เพจเพิ่งเปิด
หรือโพสต์ล่าสุด คือ เมื่อปีก่อน
แบบนี้เรายังอยากซื้ออยู่มั้ย?
คงไม่นะ
ลองกลับมาดูเพจเรากันครับ
ว่าเราลืมทำ 3 สิ่งนี้กันหรือเปล่า
มาเช็คกันเลย
1.ไม่ได้เขียน Content ให้คุณค่า
ให้ลองนึกภาพนะครับ ถ้าคุณขายอย่างเดียว
มีแต่ภาพสินค้า กับ สเป็ค และราคา โดยไม่ได้มี เนื้อหาที่บอกว่า สินค้าของเรา ช่วยแก้ปัญหา อะไรให้ใครได้บ้าง
มันก็ยากที่จะ ตัดสินใจซื้อนะครับ
เพราะขนาดเนื้อหาในโพสต์ เรายังไม่ตั้งใจทำเลย
ความเชื่อใจของลูกค้าที่ควรมีให้กับเรา คงไม่เกิด
Content คุณค่า คือ เนื้อหาที่มีประโยชน์ ซึ่งถ้าเราเขียนออกมาดี
มันหมายถึง ความเป็นผู้เชียวชาญ ในเรื่องที่ลูกค้ากำลังมองหาอยู่
เขาสามารถพี่งพาเราได้
นี่คือเหตุผล ที่ว่า ทำไมเราต้องทำ content ออกมาให้ลูกค้าได้อ่านกัน
ไม่ต้องทำทุกวันก็ได้ครับ
แต่ทุกโพสต์ที่ทำ ควรต้องมีคุณภาพ ให้คนอ่านได้รับประโยชน์เสมอ!
2.รีวิว หรือ โชว์ผลลัพธ์
การโชว์ผลลัพธ์ หรือ สิ่งที่เราตั้งใจทำแล้วมีคนชอบ คือ การสร้างความน่าเชื่อถือ ได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น เมื่อลูกค้าเก่า ที่ซื้อของ หรือ ใช้บริการของเราไป
สิ่งที่ต้องทำ คือ การขอ ภาพ หรือ video รีวิวการใช้งาน และ ขออนุญาตมาใช้ในเพจ
(จะนำมาขึ้นได้ เจ้าของต้องยินยอมเท่านั้นนะครับ ไม่ใช่ไปเอามาดื้อๆ)
และที่สำคัญ อย่า capture หน้าจอ chat ของ facebook หรือ instagram มาโพสต์
เพราะกฏเฟสบุ๊ค ถือว่าเป็นการอ้างอิงแพลตฟอร์มของ facebook มาโดยไม่ได้รับอนุญาติ
แต่ถ้า capture หน้าจอ line แบบนั้นได้นะ 😉
อีกอย่างก็คือปุ่ม review ในเพจ ถ้าคุณทำให้ลูกค้าประทับใจ เขาก็จะมารีวิวให้คุณอย่างดี
ซึ่งเป็นสิ่งที่ ทำให้คนกล้าตัดสินใจมากขึ้น ว่าจะซื้อของกับคุณหรือเปล่า
3.ความต่อเนื่อง สม่ำเสมอ
สิ่งนี้คือสิ่งที่พูดง่าย แต่ทำได้ยากเสมอ
เพราะ การจะทำเนื้อหาโพสต์ออกมา สักชิ้น มันช่างดูยากเหลือเกิน
แต่หากไม่ทำเลย คนที่เข้ามาดูในเพจ
พอไม่เห็นว่ามีการ update ก็จะพาลเข้าใจว่า คุณเลิกทำเพจไปแล้ว
แย่เลยคราวนี้!!
สรุป
ดังนั้น นอกจากจะมี เนื้อหาที่มีคุณค่า หรือ รีวิว ผลลัพธ์ดีๆ จากการใช้งาน
ความสม่ำเสมอ คือสิ่งที่ต้องมี
ลงมือทำครับ ฝืนให้เป็นนิสัย ต่อเนื่อง
จนกลายเป็นความเคยชิน ไม่ทำไม่ได้!!!
ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อธุรกิจของคุณเอง!!!
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
6 ช่องทางหาไอเดีย เขียน content ไม่มีวันตัน
6 ช่องทางหาไอเดีย เขียน content ไม่มีวันตัน
.
ปัญหาคลาสสิก ของคนที่ทำ content ลงในเพจ
นั่นคือ การสร้างเนื้อหา ที่มีคุณค่าออกมาให้คนอื่นๆ
ได้อ่านกัน ได้ดูกันทุกวัน
.
เนื้อหาที่มีคุณค่า คือ เนื้อหาที่เขาอ่านแล้ว นำไปใช้ประโยชน์ได้
หรือ แก้ปัญหาให้เขาได้
.
เออ แล้วเราจะไปหาจากไหนดีล่ะ…?
.
ผมเองก็เจอปัญหานี้ บ่อยๆครับ
ก็เลยคิดว่า ที่ไหนมีปัญหาเยอะๆ ที่นั่นคือแหล่ง ทำ content ของเรา
.
ดังนั้น จึงขอแชร์แนวทาง
“6 ช่องทางหาไอเดีย เขียน content ไม่มีวันตัน” ให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ
มาดูกันเลย ว่ามีอะไรบ้าง!!
.
1.ไปดู pantip
นี่คือแหล่ง หาข้อมูลที่ดีงามแล้ว สำหรับคนไทย
เพราะเวลาติดอะไร ไม่ว่าเรื่องไหน ก็ตาม ก็มักจะเข้ามาพิมพ์ถามกันใน pantip เสมอ
.
ซึ่งการหาข้อมูลนั้น ก็ไม่ยากเลย แค่เราไปที่ ช่อง search ในด้านบนของเว็บ pantip
พิมพ์ เป็นคำกว้างๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เราอยากจะเจอปัญหา เช่น ปวดฟัน
ก็จะมีกระทู้ต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องปวดฟันต่างๆ นาๆ หลากแบบ
อันไหนคนถามเยอะ ก็ไปค้นคว้ามาเขียนได้เลย รับรองว่า คนสนใจ content แน่นอน
และถ้าเขียนเสร็จแล้ว จะเอามาชี้แนะแนวทางให้คนใน pantip ได้อ่าน ก็จะทำให้เขารู้จักเรามากขึ้นอีก
(อย่าเอาลิงค์มาแปะ เพื่อ drive traffic อย่างเดียวนะครับ ไม่ดีๆ)
2.ปัญหาจาก inbox ที่คนถามมา
คนมีปัญหาจริงๆ เขาจะ inbox มาถามเสมอ
เพราะ หาไม่เจอจริงๆ เลยต้องมาถาม
นี่คือแหล่งข้อมูลที่ทรงคุณค่า เพราะคนหาทางแก้ไม่เจอ เลยมาหาเรา
พยายามรวบรวม แล้วก็ไปค้นคว้าข้อมูลมาเขียน มาทำ content รับรองว่า คนจะอ่าน จะแชร์เรื่องนี้แน่นอน!!
3.ไปดู google suggestion
นี่คือ แหล่งหาไอเดีย ที่คนชอบหากัน ได้ง่ายที่สุด เพราะแค่พิมพ์ คำหลักๆ ลงไปในช่อง google
เราจะเห็น keyword ที่ตามมาเป็นพรวน
ซึ่งบางครั้ง เรานึกไม่ถึงด้วยซ้ำว่า คนกำลังค้นหาทางแก้ปัญหาเหล่านี้กันอยู่
และเพื่อความมั่นใจว่า คำค้นหา นั้น คนหากันเยอะ จริงๆ หรือเปล่า
ก็ให้ใช้ google trends และ ubersuggest ในการตรวจสอบอีกรอบ ยังได้
(ubersuggest ใช้ในการ ตรวจว่า keyword นั้น มีการค้นหาเดือนละกี่ครั้ง ถ้ามีมาก ก็แสดงว่า คนหากันเยอะ
เมื่อก่อนใช้ฟรี ตอนนี้ มีค่ารายเดือน เดือนละ 500 กว่าบาท)
4.ไปสิงที่ เฟสบุ๊คกลุ่ม
นี่คือ แหล่งสิงสถิตย์ ของคนที่มีความสนใจแบบเฉพาะทาง ยิ่งกลุ่มไหน ทำออกมาได้ดี จะมีความเหนียวแน่น และคุณภาพเสมอ
จะไม่เจอโฆษณา live สดมั่วๆ หรือส่งลิงค์เกม อะไรไม่รู้มาให้เล่น
เฟสบุ๊คกลุ่ม จะมีทั้งคนให้ความรู้ และ คนที่ถามเรื่องที่เขาไม่รู้จริงๆ เข้ามา
หากโพสต์ไหนถาม แล้วมีการต่อความกันเยอะ แสดงว่าเป็นประเด็นสำคัญน่าสนใจ ที่คนอยากรู้จริงๆ
ให้นำแนวคิดนั้นมาเขียน content
แต่อย่าไป copy มาใช้โดยไม่ขออนุญาต นะครับ เดี๋ยวดราม่าจะบังเกิด!!
5.มาจากกลุ่ม LINE openchat
LINE openchat คือกลุ่มคนที่สนใจเรื่องเดียวกัน
ให้ลองเข้ากลุ่ม ที่ไม่ขายของ ชีวิตจะดีขึ้นมาก
ถ้าเป็นกลุ่มที่พูดคุยเรื่องเดียวกันจริงๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการแชร์ความรู้ เทคนิค ต่างๆ มากมาย
ซึ่งจะมีทั้งคนถาม คนตอบ เราจะได้ทั้งปัญหาที่เจอบ่อยๆ หรือ ความรู้
ที่นำมาสร้าง content ได้ดีเลย!!
6.ไปดู youtube suggestion
อันนี้เป็นหลักการเดียวกับ google เหมือนกัน
แต่ความต่างคือ content ที่ปรากฏขึ้นมา ใน ผลการค้นหา เราจะเห็นว่า คนที่ทำ content แก้ปัญหามาก่อนหน้านั้น
เขาเล่าเรื่องไว้อย่างไร มีอะไรที่เขาทำได้ดี
มีจุดไหนที่เราจะทำให้ต่างไปจากเดิมได้
เพราะการมาทีหลัง ต้องทำให้แตกต่าง และน่าสนใจมากขึ้น
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
“ถ้าขายเนื้อย่าง อย่าขายเนื้อ แต่ให้ขายเสียงย่าง”
อยากขายอะไร อย่าขายสิ่งนั้น
“ถ้าขายเนื้อย่าง
อย่าขายเนื้อ
แต่ให้ขายเสียงย่าง”
(คำพูดนี้ ผมได้อ่าน และได้ฟังการถ่ายทอดมาจาก นักเขียนหลายท่าน จึงนำมาถ่ายทอดให้ทุกท่านได้อ่านอีกครั้ง ในความเข้าใจของผมครับ)
อีกหนึ่งปัญหา ที่หลายคนเคยถามผมว่า
ทำยังไง ถึงจะเขียนแล้วขายของได้
จากประสบการณ์ที่ผมได้อ่าน ได้เรียนรู้มาจากอาจารย์หลายๆท่าน
ทำให้พบว่า
ถ้าเราอยากขายอะไร
อย่าขายสิ่งนั้นตรงๆ
แต่ให้ขายสิ่งที่ทำให้คนอยากได้สิ่งนั้น จนคนอยากได้ และออกปากขอซื้อจากเราเอง
เรื่องนี้ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ จากการขายเนื้อย่างครับ
ปกติ เวลาเราไปร้านอาหาร
เอาเป็นร้านขายเนื้อย่างก็ได้
เวลาเราเห็นเขาย่างเนื้อ อยู่บนเตา
สีสันของเนื้อส่วนที่โดนไฟ มันช่างเย้ายวนเหลือเกิน
เสียงดังฉู่ฉี่ น้ำของเนื้อที่ไหลออกมา โดนไฟ
ส่งกลิ่นหอมรัญจวนใจจนเราแอบกลืนน้ำลาย
เอาแบบนี้เลย สองจาน ด่วนๆ เพราะฉันหิว!!
นี่คือ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด
ลูกค้าพร้อมจ่าย พร้อมโอนเงินมาให้
เมื่อได้เห็น ได้อ่าน หรือ สัมผัสได้ถึงความเย้ายวน หรือประโยชน์ ที่จะได้รับจากสิ่งนั้น
ลูกค้าจะรู้สึกเฉย ถ้าเรานำเสนอไม่ตรงจุด
ไม่โดนใจ เขาพร้อมจะไปเสมอ
ยิงเป็นออนไลน์ ยิ่งเป็นต้องทำให้
ลูกค้าสนใจด้วยเวลาที่รวดเร็วที่สุด
สำหรับเฟสบุ๊ค ลูกค้าให้ความสนใจกับเรา แค่ 16 วินาทีเท่านั้น
แล้วเทคนิคที่จะทำให้คนสนใจ หรือ อยากได้สิ่งที่เราอยากขายต้องทำยังไง
ผมมีแนวคิดง่ายๆ แบบนี้มาฝากครับ
ให้ขาย “คุณประโยชน์” ก่อนขาย “คุณลักษณะ”
เพราะหากเขาเห็นว่ามันมีประโยชน์ มากพอ
เขาจะสนใจ แล้วถามไปถึง รายละเอียดของสินค้า เพื่อตัดสินใจ ซื้อในที่สุด
เช่น ถ้าจะขายบ้าน
ก่อนจะบอกว่า มี กี่ห้องน้ำ กี่ห้องน้ำ กี่ตารางวา
ลองทำให้เขาเห็นว่า
ชีวิตเขาจะดีขึ้นได้อย่างไร เมื่อมาอยู่บ้านหลังนี้
- อยู่ใกล้อะไรที่เขาชื่นชอบ / อยู่ไกลจากอะไรที่เขาไม่ชอบ
- ลดเวลาการเดินทาง เมื่อได้อยู่บ้านหลังนี้
- คุณภาพชีวิตจะดีมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อได้อยู่บ้านหลังนี้
ลองคิดดูนะครับ
ว่าครั้งต่อไป ที่จะขาย
คุณจะเลือกขายอะไรก่อนกัน?
อยากขายอะไร อย่าขายสิ่งนั้น
ให้ขายสิ่งที่เร้าใจ จนคนอยากได้สิ่งนั้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
ด่วน!! ไม่อยากโดนปิดเพจ ปิดบัญชีโฆษณา (โดนจริง) อย่าใช้คำเหล่านี้
ด่วน!! ไม่อยากโดนปิดเพจ ปิดบัญชีโฆษณา (โดนจริง) อย่าใช้คำเหล่านี้
ในเมื่อเฟสบุ๊คคือสิ่งที่ กลายเป็นเครื่องมือทำการตลาด
ที่เข้าถึงคนได้ง่าย และรวดเร็วที่สุด
จึงทำให้การทำโฆษณาในเฟสบุ๊ค เป็นเครื่องมือยอดนิยม
แต่ถ้าบัญชีโฆษณาของเราโดนปิด
นั่นหมายถึงรายได้ที่หายไป
โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์แบบนี้ โอกาสโดนปิดสูงมาก! แม้ไม่ได้ตั้งใจ
“แม้แต่ผมจะเขียนถึง ผมยังเกรงเลยว่า จะโดนปิดบัญชีมั้ย!”
คำเหล่านี้ ก็คือ!!
1. ชื่อของเชื้อ… ที่เรารู้จักกันดี
ผมได้สอบถามเจ้าหน้าที่เฟสบุ๊คมาแล้ว ว่าหากเราจะกล่าวถึงชื่อของมัน แม้ ไม่ได้หาประโยชน์จากเนื้อหา หรือบทความเลยก็ตาม ก็มีสิทธิ์โดนปิดบัญชี ได้
แล้วคนที่ตั้งใจเขียนขึ้นมา เพื่อให้คนเกรงกลัวล่ะ จะร้ายแรงขนาดไหน?
2 ชื่อของอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ที่ ไม่ให้เชื้อ…มันมาทำร้ายเรา
ไม่ว่าจะหมวก หรือ น้ำ สิ่ง ที่ใส่แล้วป้องกันได้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ อยู่ในบริบทที่ ล้วนทำให้คิดได้ว่า เรากำลังขายให้คนอื่นๆ
AI จะมาปิดบัญชี ของเราแน่นอน
3 ชื่อ อุปกรณ์ทำความสะอาด ฆ่า…
แม้ เราไม่ได้สินค้ายอดฮิต ที่เขาขายกันจนขาดตลาด แต่เป็นสินค้า ทำความสะอาด ที่รู้กันอยู่ว่า ฆ่าได้
ก็ถือเป็นความสุ่มเสี่ยง ที่ไม่ควรทำ
โฆษณาแบบนี้โดน reject บ่อยมาก ถ้า reject บ่อยๆ แล้วเราไปแย้ง หรือ ฝ่าฝืน โอกาสโดนปิดบัญชีก็มีสูงมาก!
ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้
- นั่นเป็นเพราะว่า มีคนมองหาผลประโยชน์ จากการขายสินค้าป้องกัน จากเชื้อ ทำให้เกิดการโก่งราคา กันอย่างบ้าคลั่ง เกิดความเดือดร้อนในวงกว้าง เฟสบุ๊ค เลยหามาตรการยับยั้งพฤติกรรมเหล่านี้ ด้วยการ ปิดบัญชี ปิดเพจ คนที่ขายของเหล่านี้
เฟสบุ๊คใช้ AI ตรวจก่อน แล้วตามด้วยคนซ้ำอีกครั้ง
- เพราะคนใช้เฟสบุ๊คมีทั่วโลก แค่เมืองไทย ก็ปาเข้าไป 57 ล้านบัญชีแล้ว การให้คนมาตรวจ จึงทำได้ยาก การใช้ AI หรือ บอทมาตรวจจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ซึ่งบอทนั้น จะเช็คจากคำพูด ทั้งในบทความ ภาพ และ วิดีโอ รู้หมดเลย!!
รวมทั้งในเนื้อหาบนเว็บไซต์ ทีเราลิงค์ไป บอทก็ตามไปหาเจอนะครับ ไม่ใช่แค่หาใน Post บนเฟสบุ๊คเท่านั้น!!
และเมื่อใด ที่บอทจับว่าเราทำผิดกฏ จะทำการปิดบัญชี ไม่ให้เข้าถึงทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่แนะนำว่า ในสถานการณ์ แบบนี้ อย่าทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงเลย เพราะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของเฟสบุ๊คนั้น ทำงานไม่ทัน บางบัญชี อาจจะใช้เวลาตรวจสอบนานเป็นเดือน
แม้จะได้คืนมา แต่ก็เสียเวลาในการทำธุรกิจ
แล้วควรทำอย่างไร?
- ง่ายๆ คือ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะโดนปิดเพจ ปิดบัญชีครับ โดยไปศึกษาได้จากกฏของเฟสบุ๊ค ซึ่งมีเยอะพอสมควร
ผมเคย Live ไปเมื่อปลายปีก่อน เกี่ยวกับเลข tracking ขนส่งพัสดุ ถ้าไม่เคยดู ให้ไปย้อนดูได้นะครับ
เราต้องเข้าใจนะครับ ว่าอยู่บ้านเขา platform เขา
กฏเป็นอย่างไร เราต้องทำตาม
ถ้าทำตามไม่ได้ อย่าไปฝืน เพราะเราจะไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้
ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมอย่างไร หรือ สงสัยเพิ่มเติมเขียนมา comment กันได้นะครับ
หรือมีอะไร Update มากกว่านี้ ก็พูดคุยกันได้เลย
และหากเห็นว่า เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ก็ฝากแชร์ หรือ Tag เพื่อนมาอ่านกันได้
เพื่อเป็นกำลังใจให้ผม ได้อออกมาแชร์เรื่องราวดีๆ แบบนี้ในอนาคต
เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
ลูกค้าที่ทักแชทมาใน LINE OA แต่ไม่ได้เพิ่มเราเป็นเพื่อน จะคุยกันได้ 7 วัน หลังจากนั้น เราจะแชทไปหาไม่ได้
ด่วน! กฏใหม่!
ลูกค้าที่ทักแชทมาใน LINE OA
แต่ไม่ได้เพิ่มเราเป็นเพื่อน
จะคุยกันได้ 7 วัน หลังจากนั้น
เราจะแชทไปหาไม่ได้
ข่าวล่ามาแรง แซงทางโค้ง
กฏใหม่ล่าสุด จาก LINE OA
ลูกค้าที่ทักแชทมาใน LINE OA
แต่ไม่ได้เพิ่มเราเป็นเพื่อน เราจะส่งข้อความหาลูกค้าได้แค่ภายใน 7 วัน
หลังจากนั้น เราจะแชทไปหาไม่ได้
ตอนนี้หลายคน อาจจะเกิดปัญหา เพราะติดต่อ ประสานงานกับลูกค้าไม่ได้
ทางแก้ไขที่ทำได้ก่อนในตอนนี้
1. เมื่อลูกค้าทักแชทมาแล้ว เราจะเห็นสถานะว่า เพิ่มเป็นเพื่อนหรือยัง
2. ถ้าเพิ่มแล้ว ถือว่า ok เราสามารถคุยกับลูกค้าต่อได้ (จนกว่าเขาจะ block เราไปเอง)
3. ถ้ายัง และไม่อยากพลาดการติดต่อ ให้แจ้งลูกค้าเสมอว่า “เพื่อไม่ให้พลาดการติดต่อ รบกวนกดเพิ่มเพื่อน LINE นี้ด้วยนะคะ”
ทางป้องกันเพิ่มเติม
ให้ใช้ feature note user ก็คือ ขอเบอร์โทร กับรายละเอียด ที่เราสามารถจะติดต่อ ไปหาลูกค้าได้ เพื่อไม่ให้พลาดการสื่อสาร
Update
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ลูกค้า สามารถแชทมาหาเรา โดยที่ไม่ต้องเพิ่มเพื่อนได้ด้วยหรือ
ผมเลยไปหาหลักฐานมาให้ดูว่ากัน
เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ซึ่งในที่สุด ก็พบแล้ว!!!!
เหตุการณ์ ที่ลูกค้าสามารถ chat มาหาเราได้ แม้ไม่ได้เพิ่มเพื่อนก่อน
นั่นคือ “เวลาที่ลูกค้า search LINE ID ครับ”
เช่น @digitalnookacademy
พอคนค้นหามาปุ๊บ
ลูกค้าสามารถ เลือกได้ ว่าจะ จะ add เพื่อน หรือ chat
ถ้า chat เลย ก็สามารถ ทักได้ครับ
แต่ถ้าไปเจอ content ของเราในหน้า Timeline
แล้วกดเพิ่มเพื่อนมา แบบนั้น ไม่มีโอกาส ให้ได้แชทก่อนครับ
เข้าตาม flow การเพิ่มเพื่อนใน LINE OA ตามปกติ ก่อนแชท เหมือนที่เราเข้าใจกันมาตลอดครับ
หากใครมีวิธีที่แตกต่างไปจากนี้ สามารถ comment มาบอกกันได้นะครับ
และหากใครคิดว่า เรื่องนี้เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ
สามารถแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจ ให้ผมได้พัฒนาเนื้อหา เรื่องราวดีๆ มา Update กันในครั้งต่อไป นะครับ 😉
.
เปลี่ยนความรู้ เป็นเงินล้าน เขาทำกันอย่างไร?
เปลี่ยนความรู้ เป็นเงินล้าน เขาทำกันอย่างไร?
ถ้าวันนี้ คุณรู้ว่าต้องทำออนไลน์
ต้องขายออนไลน์
แต่ยังไม่รู้ จะหาอะไรมาขาย
อยากทำเป็นอาชีพเสริม
แต่เงินลงทุน ยังไม่มากนัก
แล้วถ้าผมบอกว่า ให้เอาความรู้ ที่คุณมีอยู่มาขาย
แล้วได้เงินหลักล้าน
คุณจะทำมั้ย
มาถึงประโยคนี้ บางคนก็คงบอกว่า
ผมขี้โม้ ไม่เชื่อหรอก
ไม่เป็นไรครับ ถ้าไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นจริง
ก็สามารถหยุดอ่าน แล้วเลื่อนไปดูโพสต์ต่อไปได้เลย
แต่ถ้าอยากรู้ ให้อ่านต่อได้ครับ
เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ในเมืองไทย
มีคนออกมาทำแล้ว
แต่ก็ยังมีช่องว่าง อีกมากมาย ที่ยังไม่มีคนนำเสนอ หรือ คนทำ
เพราะความรู้ ไม่ใช่แค่ เรื่องการทำการตลาดออนไลน์
ยิงแอด ขายของ ตัดต่อ video หรือ สอนใช้เครื่องมือต่างๆ
ยังมีเรื่องราว อีกมากมาย ที่เป็นช่องว่างให้เรา ได้นำเสนอ
ความรู้ที่ขายได้ คือ ความรู้ที่แก้ปัญหาให้กับคนอื่นๆได้
ไม่จำเป็นต้องเรื่องช่วยให้ขายของได้ดีขึ้นอย่างเดียวก็ได้
ความรู้ที่ขายได้ และ ขายดี
คือความรู้ ที่นำไปต่อยอด สร้างอาชีพได้
ผมเคยได้พูดคุยกับ คนที่ทำเว็บขายคอร์สออนไลน์ เว็บหนึ่ง เขาบอกว่า
คอร์สที่ขายดี และสร้างเงินมากติดอันดับต้นๆ
ไม่ใช่คอร์ส สอนยิงแอด ไม่ใช่คอร์สสอนยิง IG
แต่เป็นคอร์ส สอนทำสบู่ทำมือ
คนซื้อไป เพราะอยากไปต่อยอดอาชีพให้ตัวเอง
หรือ ซื้อไป เพราะอยากจะลองทำอะไรเล่นๆ เป็นงานอดิเรก
คอร์สนี้ สร้างรายได้ 7 หลัก ในเวลา 1 ปี
ไม่ธรรมดาเลยใช่มั้ยครับ
คนส่วนใหญ่ อาจจะบอกว่า
ความรู้พวกนี้ เขามีให้ดูกันฟรีๆ ใน youtube เพียบ
จะมาเสียเงินทำไมวะ!
ที่เขาเสียเงิน เพราะความแตกต่าง
เพราะคอร์สนี้ สามารถสอบถาม สอบถามเพิ่มเติมกับผู้สอนได้
และ สามารถกลับเข้ามาดูได้ตลอดเวลา
เป็นระบบ ระเบียบ ไม่ต้องไป search หาทีหลังได้
แต่ถ้าคุณไม่ติดใจในความแตกต่างต่างนี้ ก็สามารถใช้วิธีการ search ใน youtube ได้ครับ
ไม่มีปัญหาอะไร
แล้วอะไร ถึงทำให้คอร์สนี้ ประสบความสำเร็จ
นั่นเป็นเพราะ
1.มีความต้องการของตลาด
ทุกวันนี้ ลองไปค้นหาดู ใน Google Trends คำว่า ทำสบู่ เป็นคำที่คนค้นหาอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยตก ไม่เคยพุ่งสูง
ดังนั้นความต้องการของตลาด ยังมีเรื่อยๆ
2. สามารถไปต่อยอดสร้างอาชีพได้
การทำสบู่ด้วยตัวเอง แล้วทำให้มีเอกลักษณ์ ที่ไม่เหมือนใคร สามารถนำไปต่อยอดสร้างอาชีพให้กับตัวเองได้ มีรายได้เพิ่มขึ้น
คนเลยสนใจ จ่ายเงิน เพื่อเรียนรู้ แล้วไปทำเอง
3. โฆษณาในสื่อที่เหมาะสม
ถ้าคอร์สนี้ ทำมาแล้ว หยุดอยู่นิ่ง ไม่ได้โปรโมท ก็คงไม่มียอดขาย การโปรโมทผ่านทางเฟสบุ๊ค และ Google คือประตูที่จะหาคนมีปัญหา ต้องการทางแก้ไข มาเจอคอร์สนี้ แล้วทำเงิน
นี่เป็นเพียง ตัวอย่างเริ่มต้น ที่ผมอยากให้ทุกคนได้เห็นว่า
ความรู้ที่คุณมีอยู่ ก็สามารถนำมาสร้างรายได้ เสมอ
ถ้าความรู้นั้น เป็นสิ่งที่แก้ปัญหาให้กับคนอื่นๆ ได้
สิ่งนั้น จะมีคุณค่า ให้กับเขา!
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
6 เรื่องที่คุณควรรู้ ก่อนทำโฆษณาใน TikTok
6 เรื่องที่คุณควรรู้ ก่อนทำโฆษณาใน TikTok
กระแสที่มาแรงสุดๆของ TikTok ในช่วงกักตัวอยู่บ้าน ทำให้นักการตลาดออนไลน์แทบทุกคน
หันมาสนใจการลงโฆษณาในแพลตฟอร์มนี้
เพราะทุกคนรู้ดีว่า
แพลตฟอร์มไหนที่คนลงโฆษณาแต่ไม่เยอะ
ค่าโฆษณามักจะถูกเป็นพิเศษ
วันนี้ผมขอแนะนำสิ่งที่คุณจะต้องรู้
ก่อนไปเปิดบัญชีโฆษณา TikTok กันครับ
1. ต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมาย และสินค้าก่อน
ก่อนที่คุณจะไปทำการตลาดในแพลตฟอร์มในตาม คุณควรจะต้องรู้ว่าจะขายอะไรให้กับใคร
คนส่วนใหญ่ใน TikTok ตอนนี้เริ่มมีอายุเพิ่มมากขึ้น
แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มเด็กๆ
สินค้าที่นำไปขาย ควรเป็นสินค้าที่เข้ากับช่วงอายุกลุ่มเป้าหมาย
สินค้าที่มีความหวือหวา ดูแล้วน่าสนใจแปลกตา
นำเสนอด้วยวีดีโอความยาว 15 วินาทีแล้วอยากได้ทันที
แบบนี้มีโอกาสขายได้
2. ต้องมี salepage
การทำโฆษณาใน TikTok นั้น
ต้องมี salepage อยู่เสมอ
เพราะไม่มีการให้คนกดทักข้อความ มาคุยกับคนขายโดยตรงเหมือนใน Facebook หรือ instagram
จะมีเพียงปุ่มให้กดแล้วเข้าไปในเว็บไซต์ ซึ่งอาศัยนั้นก็คือ salepage นั่นเอง
salepage จะประกอบด้วยภาพนิ่ง คำบรรยาย รีวิว พร้อมราคาที่ผู้ใช้อาจแล้วสนใจอยากจะซื้อ
ก่อนจะลงท้ายด้วยฟอร์มสั่งซื้อ
หรือง่ายที่สุดก็คือมีปุ่มให้กดติดต่อ ไม่ว่าจะเป็น LINE หรือ Facebook Messenger
หากใครมีเว็บไซต์แล้วก็นำมาใช้ได้เช่นกัน
แต่หน้านั้น จะต้องเข้าได้รวดเร็ว ไม่ต้องมีปุ่มเมนูมากมายให้คนสับสน
มีทางเลือกเดียวก็คือ “ซื้อ”หรือไม่ก็ “ออกจากหน้านี้ไปเลย”
(แต่ทำการตลาดทั้งที ใครๆ ก็ต้องทำให้คนซื้ออยู่แล้วครับ)
3.บัญชีโฆษณา คือ โฆษณาอย่างเดียว
ใน TikTok นั้น การทำโฆษณากับการทำช่องใน TikTok นั้นแยกส่วนกันโดยเด็ดขาด
การทำโฆษณา ก็จะขายของอย่างเดียว
ไม่มีการเชื่อมโยงกับโพสต์ที่ขึ้นในช่อง
ดังนั้น ถ้าจะทำโฆษณา ก็ควรทำช่องควบคู่ไปด้วย หรือ มีช่องทางให้คนได้ติดตามใน platform อื่นๆ ของเรา ไม่ว่าจะเป็น LINE / เฟสบุ๊ค / เว็บไซต์ / youtube / instagram
4.ต้องจ่ายเงินก่อนทำโฆษณา
การจ่ายค่าโฆษณาในระบบ ads TikTok นั้น จะเป็นการซื้อเครดิตไว้ล่วงหน้าเสมอ
ไม่ได้เป็นระบบที่ลงโฆษณาแล้วมาตัดเงินภายหลัง เหมือนเฟสบุ๊ค
สามารถเติมเงินลงระบบได้ผ่าน Visa หรือ Master card เท่านั้น ในตอนนี้
5.วัตุประสงค์โฆษณา ใน TikTok คือ Traffic กับ conversion
ตอนเราทำโฆษณาในเฟสบุ๊ค จะมีวัตถุประสงค์ ให้เลือกมากมายถึง 13 วัตถุประสงค์
แต่ใน TikTok จะมี วัตถุประสงค์หลักๆ อยู่ 2 แบบ นั่นคือ
Traffic และ Conversion
นั่นหมายถึง เราสามารถติด Pixel ในเว็บไซต์ หรือ Salepage ได้ด้วยครับ
ใครที่ทำโฆษณาประเภทคลิกแล้วเข้าหน้าเว็บ หรือ ทำ Conversion บ่อยๆ จะไม่มีปัญหา
แต่สำหรับมือใหม่ หัดทำโฆษณา
ต้องให้เวลา ในการความเข้าใจกับเรื่องนี้สักหน่อย
6. มีกฏกติการมารยาทในการลงโฆษณาเหมือน platform อื่น
การโฆษณาใน TikTok ก็เหมือนกับการลงโฆษณาใน เฟสบุ๊ค หรือ LINE หรือ twitter
นั่นคือ เนื้อหาต้องไม่ผิดต่อศีลธรรม และ กฏหมายบ้านเมือง
กฏกติการมารยาท เหมือนกับ platform อื่นๆ ทุกอย่าง
สายเทา สายดาร์ค อย่าเสี่ยงเลยนะครับ
และนี่คือ 6 เรื่องที่คุณควรรู้ ก่อนลงโฆษณา TikTok นะครับ
หากมี เรื่องไหนที่น่าสนใจ Update เพิ่มเติม ผมจะนำมาใส่ไว้ใน comment ของโพสต์นี้ให้นะครับ
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
TikTok : https://www.tiktok.com/@digitalnook
จ่ายค่าแอดเท่าเดิม แต่ได้เงินเยอะขึ้น ให้ทำแบบนี้
จ่ายค่าแอดเท่าเดิม
แต่ได้เงินเยอะขึ้น
ให้ทำแบบนี้
สำหรับคนยิงแอดโฆษณา
เวลาขายสินค้า หรือ ขาย Service
หากเป็นคนขายที่เพิ่งเข้าวงการ
สิ่งที่เราเลือกทำกัน ก็คือ ทักมา 1 ชิ้น ก็ขายไป 1 ชิ้น
ไม่ผิดนะครับ ลูกค้าซื้อเท่าไร ก็ขายเท่านั้น
แต่จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราลองเสนอขายเพิ่มไปอีก
เพื่อทำให้การ ต้นทุนต่อการได้คนมาทักนั้น คุ้มค่ายิ่งขึ้น
นึกภาพง่ายๆ เหมือนเราเข้าไปใน 7-11
แล้วซื้อของ ตามปกติ
พอจะจ่ายเงิน
“รับขนมจีบซาลาเปา เพิ่มมั้ยคะ”
คนส่วนใหญ่ จะงง และ สงสัยว่า เออ ไม่ได้หิว
ก็เลยไม่สั่ง
แต่มีคนจำนวนมาก เมื่อได้ยินคำนี้ ก็จะสั่ง ตามคำบอกของน้องๆ ใน 7-11
การถาม ว่ารับซาลาเปา มั้ย แล้วลูกค้าไม่รับ ลูกค้าก็จ่ายเงินเหมือนเดิม
แต่ถ้า ลูกค้ารับซาลาเปา นั่นหมายถึง รายได้ที่เพิ่มขึ้น
การยิงแอดของเราก็เหมือนกัน
เมื่อลูกค้าทักเข้ามาถาม จนสนใจซื้อสินค้าของเรา
ต้นทุนในการทักถาม เกิดขึ้นเหมือนกัน
แต่หากเรา เสนอ สินค้า ให้เขาเพิ่มขึ้น แต่ลดราคาลงไป
กำไรอาจจะลดลง แต่รายได้เพิ่มขึ้น
เวลาไปส่งของ ก็ต้นทุนค่าส่งใกล้เคียงกัน
แต่ได้เงินมากกว่า
ถ้าเขาเซย์เยส ก็ได้เงินเพิ่ม
ถ้าเขาไม่เอา เราก็ได้เงิน
ไม่มีอะไรเสียเลย
แล้วเหตุผลอะไร ที่เราจะไม่ทำล่ะครับ?
ดังนั้น การขายครั้งต่อไปของคุณก็คือ
- ลองเสนอขาย ของด้วยการจัด set ที่ยิ่งซื้อ ยิ่งคุ้ม
- ถ้าลองเสนอ เขาไม่ซื้อ คุณก็ยังได้เงินเหมือนเดิม
- ถ้าลูกค้าซื้อ คุณได้เงินเพิ่ม ต้นทุนเท่าเดิม แต่กำไรมากกว่าเดิม
ลองเลือกดูนะครับ
ลงโฆษณาใน TIKTOK ทางเลือกใหม่ ของคนทำออนไลน์!
ลงโฆษณาใน TIKTOK ทางเลือกใหม่ ของคนทำออนไลน์!
หลายคน คงจะเคยเห็นคลิปวิดิโอสั้นๆ ไม่ถึง 15 วินาที
เล่นวนไปมา ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นคลิปฮาๆ เต้นๆ ตลกๆ
ดูแล้วสนุก คลายเครียด สนุกสนาน
นี่คือสิ่งที่เรียกกันว่า TOKTOK
เป็นแอพพลิเคชั่น ที่โด่งดังมาจากเมืองจีน
เมื่อสักปีก่อน
User ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเด็กๆ ที่เล่นกัน
เวลาผมเข้าไปดู comment ส่วนใหญ่ คือ เด็กๆ น้องๆ หนูๆ เต็มไปหมด
ก็เลยยังมองว่า กลุ่มสินค้าที่ หากไปทำการตลาด หรือ โฆษณา น่าจะเป็น ของวัยรุ่น
หรือ สินค้าที่ราคาสัมผัสได้ ซื้อง่ายขายคล่อง
การทำการตลาดใน TIKTOK ตอนนี้ จะใกล้เคียงกับ Twitter
นั่นคือ จ้างคนดังที่มีผู้ติดตามเยอะ มาช่วย post ช่วย Promote จะได้ผลมากกว่า
ถ้าลงแอดไปตรงๆ คนจะไม่สนใจ
ดังนั้น ต้องทำ content มาในรูปแบบของ การทำโฆษณาแฝง Tie-in
ยิ่งตอนนี้ ดาราลงมาเล่น TIK TOK เพิ่มมากขึ้น
ทำให้แอพนี้ มีความน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม
(เหมือนช่วงแรกๆ ที่ ดาราเล่น IG คนก็จะสนใจ IG มากขึ้น)
ล่าสุด มีกระแสเพลง นุ่น เจน โบว์
ที่มาดังชั่วข้ามคืน (เพลงนี้ มีมีตั้งแต่ปี 2558 แต่กลับมาดัง เพราะมีน้อง youtuber เอามานำเต้น cover ในช่วงนี้ คนอยู่แต่บ้าน ก็ดูและแชร์กระหึ่ม จนมีคนเต้นตาม สร้างสีสันแบบสุดๆ)
ก็ยิ่งทำให้คนรู้จัก TIK TOK มากขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว
สถิติของ TIKTOK ที่น่าสนใจก็คือ (ข้อมูลปี 2019)
- มีคนสมัครใช้งาน = 500 ล้านคนทั่วโลก
- ใช้งานเฉลี่ยวันละ 52 นาที (IG วันละ 53 นาที)
- 41% คือ User ที่มีช่วงอายุ 16-24 ปี
- 55% ของ User คือผู้ชาย
- เวลาในการใช้งาน 68% คือการดู video ของคนอื่น
เป็นตัวเลขที่เยอะมากนะครับ!!
และข้อดีของการทำ content ใน TIKTOK ที่ผมเห็นอย่างชัดเจนคือ
- เพลงประกอบ ไม่ติดลิขสิทธิ์ เพลงดังๆ ทั้งนั้น!
- ดูได้ไว เข้าใจง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ
- เป็นสะพานบุญ สร้างแบรนด์ ให้คนไปตามในช่องทางอื่นๆ ได้ดี
- ขายของได้
เมื่อ content
ที่สำคัญ ตอนนี้ ค่าตัว influencer ตอนนี้ ยังไม่แพงมาก
ซึ่งก็มี agency ที่รับดูแลน้องๆ เหล่านี้ขึ้นมาแล้ว
หรือถ้าขยันๆหน่อย ไปติดต่อกับน้องๆ ด้วยตัวเอง ก็ได้นะครับ
ราคาตอนนี้ กำลังดีอยู่
และสำหรับคนขายออนไลน์
ตอนนี้ TIK TOK มีระบบ ads manager ให้เราไปขายของได้ด้วย
ผมไปลงทะเบียนไว้แล้วครับ
รอการติดต่อกลับอยู่
ถ้ามีความคืบหน้ายังไง จะมาแชร์ให้ฟังกันนะครับ 😉
platform ไหนคนเยอะ ยังมีคนลงโฆษณาไม่มาก
ค่าโฆษณาจะยังน่ารักอยู่นะครับ ;
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.thumbsup.in.th/tiktok-statistics-2019
คอร์สยิงแอด TikTok by Digitalnook
สอนละเอียดแบบจับมือทำ เรียนเป็นคลิปวิดีโอ เป็นบทๆ ย้อนหลังได้ ไม่มีจำกัด!!
สิ่งที่คน ยอมจ่าย ในช่วงวิกฤติ คือ..
แม้โรคระบาด จะเกิดขึ้นในโลกเรา
คนต้องเปลี่ยนวิถีชีวิต ไปจากเดิม
หลายคนคิดว่า คนหยุดจ่ายเงินแล้ว
แต่จริงๆ แล้ว คนก็ยังกิน ยังใช้
ยังมีใช้จ่าย อยู่เสมอ
เพียงแต่เปลี่ยนวิธีการ จากเดิมไปเท่านั้นเอง
ผมเลยขอเสนอ ข้อสังเกตเกี่ยวกับสินค้า ที่คน “มองหา” ในตอนนี้กันครับ
เพื่อเป็นไอเดีย ไปต่อยอดกัน
อาหาร Delivery
แม้จะไม่ได้ออกไปนอกบ้าน แต่ความอร่อยต้องมาเยือนถึงที่ นี่คือโอกาสดีงาม ของคนทำร้านอาหารแล้ว แม้ร้านจะโดนปิด แต่ให้สั่งกลับบ้านได้ ตอนนี้คนมาเฝ้าหน้าร้าน คือเหล่า Delivery man หลากยี่ห้อ
กลยุทธที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจสั่งซื้อง่ายๆ คือ ลด แถม หรือ ส่งฟรี เท่านั้น / “อย่า-งก” จะเอารายได้เหมือนเดิม เพราะตอนนี้ ขอให้อยู่รอด และช่วยกัน เป็นดีที่สุด!
อาหารเก็บนาน อยู่กับบ้านกินตลอด
น้ำพริก กุนเชียง แหนม เนื้อแดดเดียว หมูกรอบ หมูหยอง เหล่านี้ สามารถเก็บไว้ได้นาน สะดวกต่อการนำมากิน หรือ ปรุงต่อ เหมาะกับ การใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากๆ
เฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้
คนเราอยู่บ้านมากขึ้น ที่ทำงาน กับบ้านกลายเป็นเรื่องเดียวกัน ดังนั้น โต๊ะเก้าอี้ ที่ทำงานได้นานๆ เหมือน office จึงน่าสนใจขึ้นมาทันที เลือกให้ดี เพื่อจะไม่ไม่ต้องเมื่อย เพราะเมื่อย ตอนนี้ ก็ไม่มีที่นวดแล้ว!
เครื่องออกกำลังกาย ที่บ้าน
เมื่อฟิตเนสปิด สวนสาธารณะ ก็ไม่เปิด แต่การออกกำลังกาย ยังต้องมี เครื่องออกกำลังกายที่บ้าน คือทางออกที่ลงตัว ตอนนี้ ราคาก็ไม่แพงนัก จึงเหมาะที่จะเอามาขาย อยู่บ้านเฉยๆ อย่าปล่อยให้กล้ามเนื้อลีบ มาๆๆ จัดไป
ทำความสะอาดบ้าน ดูดฝุ่น เช็ดบ้าน ถูบ้าน
คนอยู่บ้านมากขึ้น ดังนั้น งานบ้านก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าทำ ฆ่าเวลา อุปกรณ์ทำความสะอาด จึงน่าสนใจ และ ถือเป็นการออกกำลังกายแบบหนึ่งเลยก็ว่าได้
คอร์สออนไลน์ เรียนรู้ด้วยตัวเอง ไปทำอาชีพ ประกอบสัมมาอาชีพ
หลังจากที่หายช็อคกับ ภาวะให้ขังตัวเองอยู่กับบ้าน คนที่ดู netflix ไปสักพัก ก็น่าจะเริ่มมองหาความมั่นคง ให้กับตัวเอง ดังนั้น การเรียนรู้ เพื่อพัฒนาตัวเอง ไม่ว่าจะสายงานใดๆ ก็ตาม ช่วงนี้ คือช่วงที่ดีมาก เพราะจะไม่มี คำพูดมาอ้างว่า “ไม่มีเวลา เพราะ…..”
เล่นเกมส์ : เพราะว่าแก้เหงา
วิธีแก้เซ็งอีกแบบ ของคน ก็คือการเล่นเกมส์ แม้จะดูไร้สาระ แต่มันก็ทำให้หลุดจากภาวะความเป็นจริงไปได้ระยะหนึ่ง ดังนั้น เกมส์จึงเป็นทางออกที่ดี และมีความต้องการเพิ่มขึ้น เพราะมันช่วยให้เรา สนุกได้ ในบ้านของเราเอง
ขนมที่ให้เด็กๆ ไปทำเล่นที่บ้านได้
เด็กๆ พลังเหลือล้น การจะเล่นเกมส์ อย่างเดียว อาจจะไม่ค่อยดีนัก จะพาไปทำกิจกรรมนอกบ้านก็ดูเสี่ยงไป (ตอนนี้เขาก็ไม่เปิด ว่างั้นเถอะ) กิจกรรมภายในบ้านง่ายๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดี อย่างให้น้องๆ หนูๆ ทำขนมเล่น ประเภท cupcake หรือ แต่งหน้า cookie ก็เพลินดี แถมอร่อยด้วย สนุกกันทั้งบ้าน
ประกันชีวิต
คนจะตระหนักถึง ความปลอดภัย ความเสี่ยงของชีวิตมากขึ้น การทำประกัน จึงเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ โหยหา ชนิดที่เปิดจอง ประกัน”น้องโค” server ถึงกับล่มเลยครับ
จ่ายหลักร้อย แต่ได้ความคุ้มครองหลักแสน / พี่ๆประกัน ไม่ต้องพูดอะไรมาก คนก็แห่ไปทำกันหมดราวกับแจกฟรีครับ!
และทั้งหมดนั้น คือ สิ่งที่ผมเห็นว่าเกิดขึ้น และเป็นไป ในสังคมบ้านเรา
ใครมีอะไรที่เห็น แล้วน่าสนใจ comment กันมาได้นะครับ
comment ของคุณมีความหมาย
เพราะว่ามันอาจจะส่องประกาย ให้เพื่อนๆ ของเรา ไปต่อยอด ทำธุรกิจกันได้ ในภาวะแบบนี้!!
นี่เป็นจังหวะที่ต้องเร่งแล้ว!!
ลงมือครับ!