ความรู้สึกเคว้งคว้าง เมื่อผมต้องส่งกระดาษคำตอบเปล่า ในวันแข่งขันทักษะคอมพิวเตอร์
#เรื่องเล่าวัยเยาว์
ความรู้สึกเคว้งคว้าง
เมื่อผมต้องส่งกระดาษคำตอบเปล่า
ในวันแข่งขันทักษะคอมพิวเตอร์
.
หลายๆคนที่ติดตามเพจผมมาตั้งแต่เมื่อต้นปีก่อน
น่าจะได้รับฟังความรู้และบทความต่างๆเกี่ยวกับ Online Marketing กันพอสมควร
.
มีหลากหลายคำถามที่มากกว่าการใช้งาน Facebook
.
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมากับการทำงานในแวดวง ทำเว็บ ทำ Content
การทำงานเกี่ยวกับ Online Marketing
ทำให้ผมสามารถตอบคำถามเหล่านั้นได้.
ถ้าเป็นเรื่องไหนที่ผมเคยผ่านมาหรือมีประสบการณ์ผมก็จะตอบได้ทันที
.
แต่ก่อนหน้าที่ผมจะสามารถออกมาแบ่งปันเทคนิคต่างๆให้กับทุกคนได้แบบทุกวันนี้
.
เชื่อหรือไม่ว่าผม
เคยส่งกระดาษคำตอบตอบๆ ในวันแข่งขันทักษะคอมพิวเตอร์
เพราะผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
.
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น ในโรงเรียนประจำอำเภอ
โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนที่ห่างไกลจากตัวเมืองไป 100 กว่ากิโลเมตร
แต่ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องคอมพิวเตอร์ของผมนั้นเต็มเปี่ยม
.
แรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากจะเรียนรู้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องคอมพิวเตอร์
นั่นคือ วีดีโอเกมแฟมิคอม
ผมอยากรู้ว่าการที่ตัวละครออกมาโลดเล่น แล้วทำให้เรามีความสุขกับการเล่นเกมนั้น
เขาทำกันอย่างไร อยากรู้มากๆเลย
.
สมัยก่อนแค่การจะวาดรูปอะไรขึ้นมาสักอย่าง
ต้องใช้อักขระพิเศษมากมายยาวเป็นหน้ากระดาษ
ต่างจากสมัยนี้ที่มีเครื่องมืออำนวยความความสะดวก สามารถเนรมิตภาพออกมาได้อย่างรวดเร็วทันใจ
.
ผมพยายามศึกษาวิธีการเขียนโปรแกรมภาษาเบสิกด้วยตัวเอง
ผ่านคอลัมน์ ในนิตยสารรู้รอบตัว ผมรู้สึกว่าเขาเขียนออกมาแล้วชวนให้อยากลงมือทำตาม
ได้รับแรงบันดาลใจผ่านหนังสือคอมพิวเตอร์ทูเดย์ ที่แนะนำโปรแกรมเกมต่างๆ ที่อยากซื้อมาเล่นสุดๆ
.
ไม่ได้ออกไปหาหนังสือคู่มือเกี่ยวกับภาษา Basic มาเลย
เพราะไม่รู้ว่าจะต้องไปซื้อที่ไหน (สมัยนั้นเด็กมาก)
.
จนมาถึงวันหนึ่ง โรงเรียนมีการคัดเลือกนักเรียนเพื่อที่จะเข้าไปสอบแข่งขันทักษะคอมพิวเตอร์ ระดับจังหวัด แน่นอนว่ามีโรงเรียนที่เข้าร่วมมากมายเลยทีเดียว
.
ผมเลยขออาสาสมัครที่จะเข้าไปแข่งทักษะคอมพิวเตอร์ เพราะดูแล้วเขาพูดถึงภาษา Basic ที่ผมเคยอ่านมา (แต่ยังไม่ได้ทำเป็นชิ้นเป็นอัน ทำได้เพียงการแต่งเพลงด้วยภาษา Basic)
.
มีระยะเวลาเตรียมตัวประมาณ 2 สัปดาห์
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเตรียมตัวอย่างไร รู้แต่ว่ามีคุณครูสอนวิทยาศาสตร์ ที่แกเป็นคนหลงใหลและชื่นชอบเกี่ยวกับเรื่องคอมพิวเตอร์เหมือนกัน บอกว่า
.
“เมื่อดูทักษะของเธอในวันนี้แล้ว ครูคิดว่าเธอยังไม่น่าที่จะไปแข่งขัน”
.
แต่ความรั้นในวัยเด็ก ทำให้ผมมองผ่านถึงคำเตือนของครูท่านนั้น
แล้วผมก็เดินทางไปแข่งขันทักษะคอมพิวเตอร์
.
ภายในห้องแข่งขัน มีนักเรียนจับคู่กันเป็นกลุ่ม โรงเรียนละ 2 คน
ผมจับคู่กับเพื่อนอีกคนนึง ผมดูสีหน้าและแววตาของนักเรียนจากโรงเรียนอื่นๆมีความมุ่งมั่นและตั้งใจมาก
.
บททดสอบแรก เป็นข้อเขียนที่เกี่ยวกับทักษะคอมพิวเตอร์ตามปกติ
ในบทนี้ไม่มีปัญหาเพราะผมสามารถที่จะตอบได้ทุกข้อ
ผมก็เลยรู้สึกว่าไม่เห็นจะยากอะไรเลยนี่หว่า และมีความลำพองอยู่ในตัว
.
แต่บททดสอบที่ 2
นี่แหละครับคือที่สุดของที่สุดในวัยเด็กของผม
.
โจทย์มีอยู่ว่าให้เราสร้างโปรแกรมวนลูปอะไรสักอย่าง ที่ผมไม่เคยพบเคยเจอมาก่อนในชีวิตนี้
สิ่งที่ทำได้ก็คือมองตาปิดไปยังนักเรียนกลุ่มอื่น ซึ่งพวกเขาก็ปรึกษาหารือกันว่าจะแก้โจทย์นี้ได้อย่างไรภายในเวลาอันจำกัด
.
ตัดมาที่ผม
ผมไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรด้วยซ้ำ
.
ภาพที่คุณครูได้เตือนเอาไว้ก่อนสมัครแข่งขัน พุ่งขึ้นมาอยู่ในหัว
ผมรู้สึกเคว้งคว้าง แล้วคิดในใจอยู่ประโยคหนึ่งว่า “กูมาทำอะไรที่นี่” (ตอนนั้นเพลงพี่เบิร์ดยังไม่ออกมานะครับ)
.
สิ่งเดียวที่พอจะเข้าเวลาและทำให้รู้สึกความขัดเขินมันลดลงไป
นั่นคือการแต่งเพลงลอยกระทง ด้วยภาษา Basic
ก่อนจะลุกออกจากห้องไป แบบไม่บอกกล่าว
.
เพื่อนที่มาด้วยกัน ก็ยังงงเลยว่าเกิดอะไรขึ้น
ได้แต่ถามว่า “จะเดินไปไหน ยังแข่งขันไม่จบเลยนะ”
.
สำหรับผมการแข่งขันมันได้จบลงไปแล้ว
ไม่สิ ผมไม่ได้เข้ามาแข่งขันด้วยซ้ำ ผมเป็นเพียงแค่ คนที่หลงเข้ามาในห้องนี้แบบงงๆมากกว่า
.
ตลอดบ่ายนั้นผมรู้สึกเคว้งคว้าง
ไม่มีความรู้สึกมั่นใจ รู้สึกสูญเสียกำลังใจไปแบบสุดๆ
.
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงเย็น
ช่วงที่เราเดินทางปรับตัวอำเภอของเรา
สิ่งที่ผมคิดขึ้นมาในใจอีกอย่างนึงแทนที่จะต้องมานั่งคร่ำครวญ
.
นั่นก็คือ
“ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในวันนี้ เกิดขึ้นจากความประมาทของตัวเราเอง เราจะต้องฝึกฝนตัวเองให้มากขึ้นกว่านี้ เราจะไม่ทนว่าเรารู้ทุกอย่าง เพราะเมื่อใดที่เราคิดว่าตัวเองรู้ไปหมด
เราจะหยุดการเรียนรู้ ปิดกั้นความคิด ปิดกั้นการเติบโต”
.
หลังจากนั้นผมได้กลับไป ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานคอมพิวเตอร์
การเรียนต้นเขียนโปรแกรม ด้วยภาษา pascal โดยศึกษาจากหนังสือคู่มือที่ซื้อมาในร้าน
.
ซึ่งเมื่อเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ในชั้นปีที่ 1
มีวิชาคอมพิวเตอร์ 101 ที่ว่าด้วยเรื่องการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา pascal
.
ทุกบทเรียนที่ อาจารย์ได้สอน
คือสิ่งที่ผมได้อ่าน และฝึกทดลองเขียนโปรแกรมมาแล้วก่อนหน้า 1 ปี
ผลที่เกิดขึ้นก็คือ ผมได้ A ในวิชานี้
.
เป็นความภูมิใจเล็กๆ ที่ได้พัฒนาตัวเองขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง
เมื่อเทียบกับวันนั้นที่ผมต้องส่งกระดาษคำตอบเปล่า ในการแข่งขันทักษะคอมพิวเตอร์
.
เรื่องนี้บอกอะไรกับพวกเรา
.
สิ่งที่ผมอยากจะฝากเอาไว้ให้กับทุกคนในบทความนี้ นั่นคือ
อย่าหยุดการเรียนรู้ เพราะเมื่อไหร่ที่เราคิดว่าเราเก่งที่สุดแล้ว นี่คือจุดเริ่มต้นของหายนะทางความคิด
.
ใครๆก็ย่อมเริ่มต้นจากศูนย์ทั้งนั้น
แต่ถ้าเราไม่ขยับตัวหรือพัฒนาตัวเอง เราก็ยังจะอยู่ณจุดนั้นเสมอ
.
อย่ากลัวที่จะออกไปพบกับความล้มเหลว
อย่ากลัวที่จะถูกคนมองอย่างไร
.
เหมือนกับการทำโฆษณาทุกวันนี้ของเราครับ
ผิดพลาดให้เยอะๆเข้าไว้ เราจะได้เรียนรู้และเติบโตจากความผิดพลาดเหล่านั้น
.
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ
#digitalnook
.
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt