ทำร้านอาหาร ให้อยู่รอด ด้วยออนไลน์ ในยุควิกฤติ ให้ทำแบบนี้
ทำร้านอาหาร ให้อยู่รอด ด้วยออนไลน์ ในยุควิกฤติ ให้ทำแบบนี้
นี่เป็นครั้งแรก
ที่ผมได้เจอกับเหตุการณ์ ที่บรรยายไม่ถูก
คุณ น่าจะรู้สึกเหมือนกันกับผม
เป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยได้เจอมาก่อนในชีวิต
ใครเล่าจะคิดว่า ทุกคนต้องอยู่กับบ้าน
ใส่หน้ากากเข้าหากัน เหมือนหนังวิทยาศาสตร์
เราอยู่ในภาวะปิดเมือง
และต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาวการณ์ใหม่ๆ ที่เข้ามา
ทุกธุรกิจต้องปรับตัว
โดยเฉพาะ ธุรกิจร้านอาหาร
คนมานั่งกินที่ร้านไม่ได้ แต่สั่งกลับบ้านได้
ยอดขายหดกว่าเดิมทันที
แต่อย่างไรก็ตาม คนขายอาหาร ยังมีทางรอด ในสถานการณ์แบบนี้ได้
หากเราใช้ แนวคิดทางการตลาด มาปรับใช้
ผมจึงอยากแชร์ สิ่งที่จะช่วยทำให้ คนทำร้านอาหารทั้งหลาย ได้ลองนำไปใช้กันครับ
ซึ่งเกิดจากการสังเกตุ หาข้อมูล และการลงมือทำ
ลองมาดูกันครับ
1. ทำโปรโมชั่น ขายคู่กัน แล้วลดราคา
สถานการณ์แบบนี้ คนจะเริ่มคิดเยอะขึ้นเกี่ยวกับการกิน การอยู่ ถ้าคุณยอมลดกำไรลง แต่ยังมีรายได้เข้ามา น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า
ดังนั้น หากลองทำโปรโมชั่นที่ ไม่เคยทำมาก่อน ลดราคา เพื่อช่วยกันในสถานการณ์แบบนี้ จึงดูเป็นทางออกที่ดี ในการสร้างยอดขาย ดีกว่าหยุด แล้วรายได้หดหาย!
2.ทำ Delivery
คนไทย กับ app สั่งอาหาร กลายเป็นเรื่องปกติ ไปแล้วในตอนนี้ ถ้าใครมีรายชื่อร้าน อยู่ใน app และคนใช้ประจำบ่อยๆ ก็ถือว่ามีโอกาส ได้รับยอดขายอยู่ตลอดเวลาครับ
แต่ถ้าคุณลองศึกษามาแล้ว แล้วเจอค่า GP ค่าส่วนแบ่งแพง จนรับไม่ได้ อันนี้ขึ้นกับการพิจารณาของเราแล้วครับ ว่าจะปรับอย่างไร
จะเลือกมีรายได้ เข้ามา หรือ ปิดเส้นทางรายได้ แล้วไม่มียอดขายเลย?
หรือถ้าคุณเป็นร้านในหมู่บ้าน อาจจะไม่ต้องไปใช้บริการ เหล่านี้ ก็ได้ พิมพ์โบรชัวร์ หรือ ไปถ่ายเอกสาร เขียนราคาข้าว แล้วเอาไปแจกให้กับคนในหมู่บ้าน ให้เขาได้โทร แล้วใช้มอเตอร์ไซค์ตัวเองไปส่ง เดินไปส่ง หรือ คุยกับพี่วินที่ อยากหารายได้เพิ่ม ก็เป็นไปได้นะครับ
3.ลองคิดทำประเภทอาหารแห้ง หรือ อาหารที่เก็บได้นาน
คนเราออกจากบ้านน้อยลง และ มีแนวโน้มทำอาหารกินเอง ดังนั้น อาหารที่เก็บไว้ได้นานๆ จึงมีความสำคัญมากขึ้น เบื่อๆ ก็เอามาทำกินเอง
หากร้านอาหาร สามารถผลิตอาหาร ที่เก็บไว้ได้นานๆ ออกมาขายได้ นี่คือโอกาสทำเงินของคุณแล้ว
เช่น แหนม กุนเชียง หมูกรอบ หมูหยอง หมูแผ่น กล้วยตาก กล้วยกวน
ลองพิจารณากันครับ
4.ผูกปิ่นโต ไว้ยาวๆ
อีกแนวคิด ที่หากลูกค้าของคุณ ชอบอาหารของคุณ กินอยู่เป็นประจำ ลองเสนอทางเลือก เป็นการผูกปิ่นโตเอาไว้ แล้วให้ส่วนลด แบบการสั่งระยาว
ถูกกว่าการกินเป็นครั้งๆ แต่ขอแลกเปลี่ยนกับการจ่ายเงินล่วงหน้ายาวๆ
5.โปรโมตโพสต์ ในเฟสบุ๊คง่ายๆ ให้คนในระยะใกล้ๆ เห็น
การใช้ social media ที่คนใช้เยอะที่สุด อย่างเฟสบุ๊ค คือทางออกที่ดี และง่าย สำหรับการประชาสัมพันธ์ร้านของเรา หากคุณคือเจ้าของร้าน การกดโปรโมทโฆษณา ให้คนที่อยู่รอบๆ ร้าน 5-10 กิโลเมตร ไม่ใช่เรื่องยากนัก
เพียงแต่ content ที่ควรจะนำเสนอ ไม่ใช่โฆษณาโต้งๆ แต่มันควรเป็น video ที่เห็นแล้วเกิดอารมณ์อยากกิน เห็นแล้วหิว จนอยากสั่ง (เคยเขียนถึงหลายครั้งนะครับ ไปย้อนดูกันได้)
6.ให้ลูกค้าแอดไลน์ ไว้สั่งอาหาร
ทุกครั้ง ที่ลูกค้าติดต่อมาหาเรา จะโทรหา หรือจะทักเฟสบุ๊ค หรือ มาที่ร้าน คนเหล่านี้คือคนคุณภาพ ที่จะซื้อซ้ำเราได้ในอนาคต ดังนั้น ช่องทางติดต่อที่ง่ายที่สุด คือ ไลน์นั่นเอง
แต่ถ้าคุณทำธุรกิจ อย่าแอดไลน์ส่วนตัวนะครับ ให้ทำ LINE Official Account เพราะว่า เราสามารถ ยิงข้อความกลับไปหาคนเหล่านี้ได้เสมอ หรือ มีแอดมินร่วมมาช่วยตอบ ช่วยดูเวลาที่ลูกค้าทักมา รวมทั้ง วิธีการเชื่อม Delivery lineman เพื่อให้คนสามารถสั่งอาหาร ง่ายๆ ผ่าน LINE ของเรา (ผมจะสอนเทคนิค การเชื่อม LINE MAN กับ LINE Official account ในลำดับต่อไปครับ)
7.ไปขายในเฟสบุ๊คกลุ่ม หรือ LINE OPEN CHAT
อีกหนึ่งที่ ที่คุณสามารถไปโปรโมต ฝากร้านได้ ก็คือ กลุ่มร้านอาหาร ทั้งในเฟสบุ๊คกลุ่ม หรืออย่างในไลน์ ก็คือ พวก LINE OPEN CHAT ที่เราสามารถ เข้าไปร่วม join และโพสต์แนะนำ ร้านของเราได้
แต่ให้ศึกษากฏ กติกา มารยาทของแต่ละกลุ่มให้ดี เพราะว่า ถ้านำเสนอมากเกินไป คุณอาจจะโดนเด้งออกมาได้
ทั้งหมดนี้ คือส่วนหนึ่งของแนวคิด การปรับตัวของร้านอาหาร
ซึ่งหากใคร ทำร้านอาหารอยู่
แนะนำ ให้ทำครับ ดีกว่าปล่อยให้สถานการณ์มาครอบงำเรา
แล้วไปต่อไม่ได้
สู้ไปด้วยกันครับ
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
เปิดร้านอาหาร อยากทำออนไลน์ เพิ่มยอดขาย! เริ่มต้นยังไงดี
แม้เศรษฐกิจ จะเป็นยังไง
แต่เรื่องการกิน มันต้องมี อย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง
ดังนั้น ต่อให้เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร
อาหารการกิน ก็ยังเป็นเรื่องจำเป็นอยู่ดี
ถ้าใครทำร้านอาหารอยู่ มาฟังแนวคิด การตลาดออนไลน์ เพื่อเพิ่มยอดขายกันทางนี้เลยครับ
(ใช้ได้ทั้งแบบ มีหน้าร้าน หรือไม่มีหน้าร้านนะครับ เลือกใช้ตามความเหมาะสม)
google my business
หรือแผนที่สำหรับร้านคุณ ใน Google maps
เวลาคนเราจะหาอะไรกินแล้วต่างถิ่นต่างที่ สิ่งที่ควรจะเปิดหาก่อนเลยก็คือ Google Map เพราะนอกเหนือจากการบอกเส้นทางไปร้านอย่างถูกต้องแล้ว มันสามารถจะบอกได้ว่าร้านอาหารไหนที่น่าสนใจมีคนไปกินมากน้อยแค่ไหน มีภาพให้เห็น มีข้อมูลเบอร์โทรให้เราได้ติดต่อไปสอบถามว่าเปิดหรือเปล่า
สิ่งที่จะทำให้คนตัดสินใจว่าจะไปกินหรือไม่ นั่นคือจำนวนรีวิวและจำนวนดาวที่แสดงไว้ ถ้าคนชมเยอะๆก็พร้อมจะไปกินทันที แต่ในทางกลับกันถ้าดาวน้อยๆก็ไม่อยากจะไป
ดังนั้นเจ้าของร้าน ต้องเอาใจใส่ให้ดีนะครับหากใครมีพิกัดอยู่ใน Google Map และจะดีไปมากยิ่งขึ้นหากคุณทำการยืนยันความเป็นเจ้าของ ให้เรียบร้อย (เรียกว่า verify google my business)
เพราะคุณจะเห็นว่าคนมาที่ร้านเวลาไหน แล้วค้นหาคำว่าอะไรถึงจะเจอร้านคุณ
location based application : wongnai / trip advisor
นอกเหนือจาก Google My Business แล้ว Application ที่คนใช้หาร้านอาหารก็คือ wongnai แต่หากเป็นนักท่องเที่ยวแล้ว จะเชื่อ tripadvisor มากกว่า
ดังนั้น การมีเนื้อหาที่ update การเข้าไปพุดคุยกับคนที่มารีวิวร้านผ่าน app wongnai จึงเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าอยากจะปรับเปลี่ยนข้อมูลของร้านคุณภายในนั้นด้วยตัวเอง จะต้องจัดการผ่านระบบ rms หรือ Restaurant management system ซึ่งเป็นของ wongnai เอง
ข้อดีก็คือ คุณสามารถปรับเปลี่ยนเมนู เพื่อใช้ร่วมกับ line man delivery ได้ด้วย
Delivery Application :
นี่คือทางรอดของร้านอาหารทุกร้าน เว้นแต่ว่าร้านคุณขายดีมากๆจนทำไม่ทัน
แต่อย่างไรก็ตามแม้แต่ร้านขายดีเขาก็ยังต้องใช้บริการเดลิเวอรี่อยู่เสมอ
เพราะลูกค้าไม่อยากมานั่งรอที่ร้าน ขอสั่งผ่าน App ดีกว่า
ขนาดร้านที่ขายดีๆเขายังใช้ แล้วร้านคุณทำไมถึงจะไม่ใช้บ้างล่ะ
ในบ้านเรามีเดลิเวอรี่อยู่มากมายหลายเจ้า แต่ละรายก็จะมีเงื่อนไขในการใช้งานแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น LINE MAN / get / food panda / grab food
แต่ถ้าพูดถึงความง่าย และ ความสะดวก ผมก็ยังยกให้ LINE MAN มาเป็นเจ้าแรก สำหรับ GET ตอนนี้ กำลังวุ่นวาย ยังไม่สามารถรับร้านค้าเข้าไปร่วมได้ ทั้งหมด ให้เวลาเค้าหน่อย / grab food ก็จะมีการเก็บค่า % ที่มากขึ้น แต่ข้อดีก็คือ ลูกค้าที่ไม่มีเงินสดเลย สามารถใช้ grab pay ที่ตัดเงินผ่านบัตรเครดิตสั่งอาหารได้ / ส่วน foodpanda นั้น คลาสสิกสุดๆ ต่างจังหวัดโดนยึดพื้นที่ไปเยอะแล้ว
ยังไม่นับรวมเจ้า delivery ท้องถิ่นในจังหวัดใหญ่ๆ อย่าง นครปฐม ชลบุรี หรือ ฉะเชิงเทรา (เท่าที่ทราบนะครับ) ก็น่าสนใจ น่าเข้าร่วมครับ
Line OA : Line Official Account
สำหรับร้านอาหารกรณีของการยิงบรอดแคสท์ อาจจะเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไปแล้ว เลยอยากให้มาโฟกัสฟังก์ชั่นที่เพิ่มยอดขายได้เต็มที่นั่นคือ
- บัตรสะสมแต้ม
สมัยนี้ ลูกค้าประจำ คือคนที่สร้างรายได้ให้กับเราอย่างสม่ำเสมอ อีกหนึ่งเทคนิคก็คือ การทำบัตรสะสมแต้ม จะทำให้ลูกค้าได้สนุกกับการสะสมคะแนน แล้วได้รับรางวัลกลับไป จะเล็กน้อย ก็ถือว่าได้มีส่วนร่วมกับร้านมากขึ้น คิดถึงร้านมากขึ้น ที่สำคัญไม่เปลืองกระดาษ เจ๋งตรงนี้ - คูปอง
หากต้องการหาลูกค้าใหม่เข้าร้าน การให้ promotion หรือส่วนลด เพื่อมากินครั้งแรก ถือว่าเป็นไอเดียที่น่าทำ ขอให้แค่มาลอง ถ้าชอบก็กินต่อได้ กลายเป็นลูกค้าประจำกันต่อไป ดังนั้น
หรือจะใช้ต่อยอดกับลูกค้าเก่าก็ได้ เช่นให้สิทธิ์ซื้ออาหารเพิ่มในราคาพิเศษ หากกินครบ xxx บาท สำหรับคนที่มีคูปองนี้ ถามว่า จะแจกในร้านก็ทำได้นะครับ แต่ถ้ามีคูปอง เราก็จะสามารถเรียกลูกค้า ที่อยู่ไกลๆ เดินทางมารับสิทธิ์ ที่ร้านเราได้ นี่แหละ คือความสำคัญของคูปอง
Facebook group
สมัยนี้ ถ้าคนจะคุยกัน ส่วนใหญ่ จะไม่ได้เข้า pantip แต่จะเลือกใช้ facebook group เพื่อคุยกันมากกว่า เพราะถูกจัดหมวด จัดกลุ่ม ได้ยิบย่อยตามความต้องการ
และกลุ่มอาหารการกิน เครื่องดื่ม ก็เป็นชุมชน ที่เราสามารถเอาร้านอาหารไปแนะนำ หรือ นำเสนอได้ แต่ต้องระวังเรื่องกฏในการโพสต์ให้ดีๆ โพสต์ถี่ นอกจากคนจะเบื่อ ก็ระวังจะโดนข้อหา spam เอาได้ง่ายๆ
Fanpage + Facebook ads
เครื่องมือที่ทรงพลัง และใช้งานง่ายที่สุด ในสมัยนี้ ก็คือ การเปิดเพจ เพราะ update ได้ง่ายผ่านมือถือ ถ่ายรูป ถ่ายคลิป โพสต์ข้อความ ทำกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
แต่ถ้าจะให้คนเห็นได้มากขึ้น ก็ต้องยิงแอด หรือ ทำโฆษณาโปรโมตโพสต์ นั่นเอง
สำหรับร้านอาหาร ถ้าทำง่ายๆ ก็คือ โปรโมตให้คนรอบๆ ร้านของเรา ได้เห็นว่าร้านเราอยู่ตรงไหน ขายอะไร แล้วอยากมากินนั่นเอง (ถือว่าง่ายที่สุดแล้ว)
twitter
สำหรับสายคาเฟ่ เครื่องมือที่ทรงพลังในการทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักมากที่สุด ก็คือ twitter นั่นเอง แต่ส่วนใหญ่พลังนี้จะไปอยู่กับ blogger และ influencer สาย twitter เพราะจะเข้าใจการสื่อสารกับคนวัยเดียวกันมากกว่า เพราะการพูด จะแตกต่างไปจาก facebook โดยสิ้นเชิง / แต่คำสั้นๆ เข้าใจง่ายๆ ภายใน 1 นาทีนี้แหละ ที่จะดึงให้คนมาหาร้านเราได้มากขึ้น
การใช้ twitter ทำให้คนรู้จัก จะต้องไปผูกสัมพันธ์ กับเหล่า influencer ไว้เยอะๆ เชิญมากิน หรือ จะจ้างมาถ่ายทำ ก็แล้วแต่พิจารณา
Instagram
สื่อที่สร้างอารมณ์ ให้คนเห็นแล้วอยากไปใช้บริการ ก็คือ Instagram นั่นเอง สื่อนี้ ถ้าร้านอาหาร มีความสามารถในการถ่ายทอดภาพ ก็ใช้เครื่องมือนี้ได้เลย
ถ้าภาพสื่ออารมณ์ให้คนอยากกิน อยากไปสัมผัส ก็จะทำให้คนมาใช้บริการมากขึ้นอย่างแน่นอน
TikTok
เครื่องมือใหม่ ที่เข้าใจง่ายๆ เพราะใช้เวลาไม่นาน เพลงประกอบก็สนุกสนาน และล้วนแต่เป็นเพลงดังๆ ยิ่งประกอบกับ ไอเดียของเหล่าคนสร้างเนื้อหาใน tiktok ยิ่งสนุกมากขึ้น
ถ้าร้านไหน เก่งเรื่องแบบนี้ จะลองสร้าง account tiktok แล้วถ่ายทอดความน่ากินของอาหารตัวเองได้ครับ แต่ถ้าไม่ถนัด ก็เชิญ influencer สาย twitter มากินอาหารที่ร้านได้
นี่คือไอเดียบางส่วน ของการใช้ Online Marketing มาช่วยทำให้ยอดขายร้านอาหารของคุณเพิ่มมากขึ้น
ลองนำไปใช้งานกันได้นะครับ
ถ้าใครอยากรู้ลึกๆ หรือละเอียดมากขึ้นกว่านี้
ผมจะนำเสนอในโอกาสต่อไป