3 เหตุผล ที่ลูกค้าจะไม่ซื้อของกับคุณ ถ้าลืมทำสิ่งนี้ในเพจ
3 เหตุผล ที่ลูกค้าจะไม่ซื้อของกับคุณ
ถ้าลืมทำสิ่งนี้ในเพจ
หลายคนมักจะบ่นว่า ยิงแอดแล้ว
ทำโฆษณาแล้ว ลูกค้ามาถึงหน้าเพจ
แต่ไม่ซื้อของเลย
เพราะอะไร?
ถ้าคุณกำลังเจอปัญหานี้
ลองอ่านเรื่องนี้ดูก่อนมั้ยครับ
เพราะมันน่าจะช่วยทำให้คุณ แก้ปัญหาคาใจ ที่ติดค้างมานานได้
กับ เรื่องนี้!!
“3 เหตุผล ที่ลูกค้าจะไม่ซื้อของกับคุณ
ถ้าลืมทำสิ่งนี้ในเพจ”
ก่อนเข้าเหตุผลที่ผมอยากกล่าวถึง ผมอยากให้คุณลองจินตนาการว่า
ตอนเราเปิดเฟสบุ๊คบนมือถือ แล้วสไลด์หน้าจอ ไปเจอโฆษณา สักตัวนึง
คุณทำยังไง
ถ้าไม่สนใจ ก็เลื่อนผ่านไป
แต่ถ้าสนใจ เราก็กดไปดูหน่อย
หลังจากนั้น ซื้อเลยมั้ย?
แน่นอนว่าไม่ได้ซื้อหรอก ณ ตอนนั้น
(ของที่จะซื้อเลย คือของที่เราเข้าใจ รู้จักมาก่อน หรือ เป็นสินค้าที่ไม่ต้องคิดเยอะ ซึ่งโอกาสยากมาก)
ก่อนเราจะซื้อ เราจะต้องเข้าไปดูในเพจเสียก่อน เพื่อดูว่า
เพจนี้ เปิดมานานหรือยัง
ทำอะไรมาก่อนบ้าง?
ขายอะไรกันแน่?
มีคนมาซื้อเท่าไรแล้ว?
ถ้าเราสำรวจดูแล้ว ไม่มีอะไร ตามที่กล่าวมา
เพจเพิ่งเปิด
หรือโพสต์ล่าสุด คือ เมื่อปีก่อน
แบบนี้เรายังอยากซื้ออยู่มั้ย?
คงไม่นะ
ลองกลับมาดูเพจเรากันครับ
ว่าเราลืมทำ 3 สิ่งนี้กันหรือเปล่า
มาเช็คกันเลย
1.ไม่ได้เขียน Content ให้คุณค่า
ให้ลองนึกภาพนะครับ ถ้าคุณขายอย่างเดียว
มีแต่ภาพสินค้า กับ สเป็ค และราคา โดยไม่ได้มี เนื้อหาที่บอกว่า สินค้าของเรา ช่วยแก้ปัญหา อะไรให้ใครได้บ้าง
มันก็ยากที่จะ ตัดสินใจซื้อนะครับ
เพราะขนาดเนื้อหาในโพสต์ เรายังไม่ตั้งใจทำเลย
ความเชื่อใจของลูกค้าที่ควรมีให้กับเรา คงไม่เกิด
Content คุณค่า คือ เนื้อหาที่มีประโยชน์ ซึ่งถ้าเราเขียนออกมาดี
มันหมายถึง ความเป็นผู้เชียวชาญ ในเรื่องที่ลูกค้ากำลังมองหาอยู่
เขาสามารถพี่งพาเราได้
นี่คือเหตุผล ที่ว่า ทำไมเราต้องทำ content ออกมาให้ลูกค้าได้อ่านกัน
ไม่ต้องทำทุกวันก็ได้ครับ
แต่ทุกโพสต์ที่ทำ ควรต้องมีคุณภาพ ให้คนอ่านได้รับประโยชน์เสมอ!
2.รีวิว หรือ โชว์ผลลัพธ์
การโชว์ผลลัพธ์ หรือ สิ่งที่เราตั้งใจทำแล้วมีคนชอบ คือ การสร้างความน่าเชื่อถือ ได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น เมื่อลูกค้าเก่า ที่ซื้อของ หรือ ใช้บริการของเราไป
สิ่งที่ต้องทำ คือ การขอ ภาพ หรือ video รีวิวการใช้งาน และ ขออนุญาตมาใช้ในเพจ
(จะนำมาขึ้นได้ เจ้าของต้องยินยอมเท่านั้นนะครับ ไม่ใช่ไปเอามาดื้อๆ)
และที่สำคัญ อย่า capture หน้าจอ chat ของ facebook หรือ instagram มาโพสต์
เพราะกฏเฟสบุ๊ค ถือว่าเป็นการอ้างอิงแพลตฟอร์มของ facebook มาโดยไม่ได้รับอนุญาติ
แต่ถ้า capture หน้าจอ line แบบนั้นได้นะ 😉
อีกอย่างก็คือปุ่ม review ในเพจ ถ้าคุณทำให้ลูกค้าประทับใจ เขาก็จะมารีวิวให้คุณอย่างดี
ซึ่งเป็นสิ่งที่ ทำให้คนกล้าตัดสินใจมากขึ้น ว่าจะซื้อของกับคุณหรือเปล่า
3.ความต่อเนื่อง สม่ำเสมอ
สิ่งนี้คือสิ่งที่พูดง่าย แต่ทำได้ยากเสมอ
เพราะ การจะทำเนื้อหาโพสต์ออกมา สักชิ้น มันช่างดูยากเหลือเกิน
แต่หากไม่ทำเลย คนที่เข้ามาดูในเพจ
พอไม่เห็นว่ามีการ update ก็จะพาลเข้าใจว่า คุณเลิกทำเพจไปแล้ว
แย่เลยคราวนี้!!
สรุป
ดังนั้น นอกจากจะมี เนื้อหาที่มีคุณค่า หรือ รีวิว ผลลัพธ์ดีๆ จากการใช้งาน
ความสม่ำเสมอ คือสิ่งที่ต้องมี
ลงมือทำครับ ฝืนให้เป็นนิสัย ต่อเนื่อง
จนกลายเป็นความเคยชิน ไม่ทำไม่ได้!!!
ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อธุรกิจของคุณเอง!!!
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
6 ช่องทางหาไอเดีย เขียน content ไม่มีวันตัน
6 ช่องทางหาไอเดีย เขียน content ไม่มีวันตัน
.
ปัญหาคลาสสิก ของคนที่ทำ content ลงในเพจ
นั่นคือ การสร้างเนื้อหา ที่มีคุณค่าออกมาให้คนอื่นๆ
ได้อ่านกัน ได้ดูกันทุกวัน
.
เนื้อหาที่มีคุณค่า คือ เนื้อหาที่เขาอ่านแล้ว นำไปใช้ประโยชน์ได้
หรือ แก้ปัญหาให้เขาได้
.
เออ แล้วเราจะไปหาจากไหนดีล่ะ…?
.
ผมเองก็เจอปัญหานี้ บ่อยๆครับ
ก็เลยคิดว่า ที่ไหนมีปัญหาเยอะๆ ที่นั่นคือแหล่ง ทำ content ของเรา
.
ดังนั้น จึงขอแชร์แนวทาง
“6 ช่องทางหาไอเดีย เขียน content ไม่มีวันตัน” ให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ
มาดูกันเลย ว่ามีอะไรบ้าง!!
.
1.ไปดู pantip
นี่คือแหล่ง หาข้อมูลที่ดีงามแล้ว สำหรับคนไทย
เพราะเวลาติดอะไร ไม่ว่าเรื่องไหน ก็ตาม ก็มักจะเข้ามาพิมพ์ถามกันใน pantip เสมอ
.
ซึ่งการหาข้อมูลนั้น ก็ไม่ยากเลย แค่เราไปที่ ช่อง search ในด้านบนของเว็บ pantip
พิมพ์ เป็นคำกว้างๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เราอยากจะเจอปัญหา เช่น ปวดฟัน
ก็จะมีกระทู้ต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องปวดฟันต่างๆ นาๆ หลากแบบ
อันไหนคนถามเยอะ ก็ไปค้นคว้ามาเขียนได้เลย รับรองว่า คนสนใจ content แน่นอน
และถ้าเขียนเสร็จแล้ว จะเอามาชี้แนะแนวทางให้คนใน pantip ได้อ่าน ก็จะทำให้เขารู้จักเรามากขึ้นอีก
(อย่าเอาลิงค์มาแปะ เพื่อ drive traffic อย่างเดียวนะครับ ไม่ดีๆ)
2.ปัญหาจาก inbox ที่คนถามมา
คนมีปัญหาจริงๆ เขาจะ inbox มาถามเสมอ
เพราะ หาไม่เจอจริงๆ เลยต้องมาถาม
นี่คือแหล่งข้อมูลที่ทรงคุณค่า เพราะคนหาทางแก้ไม่เจอ เลยมาหาเรา
พยายามรวบรวม แล้วก็ไปค้นคว้าข้อมูลมาเขียน มาทำ content รับรองว่า คนจะอ่าน จะแชร์เรื่องนี้แน่นอน!!
3.ไปดู google suggestion
นี่คือ แหล่งหาไอเดีย ที่คนชอบหากัน ได้ง่ายที่สุด เพราะแค่พิมพ์ คำหลักๆ ลงไปในช่อง google
เราจะเห็น keyword ที่ตามมาเป็นพรวน
ซึ่งบางครั้ง เรานึกไม่ถึงด้วยซ้ำว่า คนกำลังค้นหาทางแก้ปัญหาเหล่านี้กันอยู่
และเพื่อความมั่นใจว่า คำค้นหา นั้น คนหากันเยอะ จริงๆ หรือเปล่า
ก็ให้ใช้ google trends และ ubersuggest ในการตรวจสอบอีกรอบ ยังได้
(ubersuggest ใช้ในการ ตรวจว่า keyword นั้น มีการค้นหาเดือนละกี่ครั้ง ถ้ามีมาก ก็แสดงว่า คนหากันเยอะ
เมื่อก่อนใช้ฟรี ตอนนี้ มีค่ารายเดือน เดือนละ 500 กว่าบาท)
4.ไปสิงที่ เฟสบุ๊คกลุ่ม
นี่คือ แหล่งสิงสถิตย์ ของคนที่มีความสนใจแบบเฉพาะทาง ยิ่งกลุ่มไหน ทำออกมาได้ดี จะมีความเหนียวแน่น และคุณภาพเสมอ
จะไม่เจอโฆษณา live สดมั่วๆ หรือส่งลิงค์เกม อะไรไม่รู้มาให้เล่น
เฟสบุ๊คกลุ่ม จะมีทั้งคนให้ความรู้ และ คนที่ถามเรื่องที่เขาไม่รู้จริงๆ เข้ามา
หากโพสต์ไหนถาม แล้วมีการต่อความกันเยอะ แสดงว่าเป็นประเด็นสำคัญน่าสนใจ ที่คนอยากรู้จริงๆ
ให้นำแนวคิดนั้นมาเขียน content
แต่อย่าไป copy มาใช้โดยไม่ขออนุญาต นะครับ เดี๋ยวดราม่าจะบังเกิด!!
5.มาจากกลุ่ม LINE openchat
LINE openchat คือกลุ่มคนที่สนใจเรื่องเดียวกัน
ให้ลองเข้ากลุ่ม ที่ไม่ขายของ ชีวิตจะดีขึ้นมาก
ถ้าเป็นกลุ่มที่พูดคุยเรื่องเดียวกันจริงๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการแชร์ความรู้ เทคนิค ต่างๆ มากมาย
ซึ่งจะมีทั้งคนถาม คนตอบ เราจะได้ทั้งปัญหาที่เจอบ่อยๆ หรือ ความรู้
ที่นำมาสร้าง content ได้ดีเลย!!
6.ไปดู youtube suggestion
อันนี้เป็นหลักการเดียวกับ google เหมือนกัน
แต่ความต่างคือ content ที่ปรากฏขึ้นมา ใน ผลการค้นหา เราจะเห็นว่า คนที่ทำ content แก้ปัญหามาก่อนหน้านั้น
เขาเล่าเรื่องไว้อย่างไร มีอะไรที่เขาทำได้ดี
มีจุดไหนที่เราจะทำให้ต่างไปจากเดิมได้
เพราะการมาทีหลัง ต้องทำให้แตกต่าง และน่าสนใจมากขึ้น
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
“ถ้าขายเนื้อย่าง อย่าขายเนื้อ แต่ให้ขายเสียงย่าง”
อยากขายอะไร อย่าขายสิ่งนั้น
“ถ้าขายเนื้อย่าง
อย่าขายเนื้อ
แต่ให้ขายเสียงย่าง”
(คำพูดนี้ ผมได้อ่าน และได้ฟังการถ่ายทอดมาจาก นักเขียนหลายท่าน จึงนำมาถ่ายทอดให้ทุกท่านได้อ่านอีกครั้ง ในความเข้าใจของผมครับ)
อีกหนึ่งปัญหา ที่หลายคนเคยถามผมว่า
ทำยังไง ถึงจะเขียนแล้วขายของได้
จากประสบการณ์ที่ผมได้อ่าน ได้เรียนรู้มาจากอาจารย์หลายๆท่าน
ทำให้พบว่า
ถ้าเราอยากขายอะไร
อย่าขายสิ่งนั้นตรงๆ
แต่ให้ขายสิ่งที่ทำให้คนอยากได้สิ่งนั้น จนคนอยากได้ และออกปากขอซื้อจากเราเอง
เรื่องนี้ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ จากการขายเนื้อย่างครับ
ปกติ เวลาเราไปร้านอาหาร
เอาเป็นร้านขายเนื้อย่างก็ได้
เวลาเราเห็นเขาย่างเนื้อ อยู่บนเตา
สีสันของเนื้อส่วนที่โดนไฟ มันช่างเย้ายวนเหลือเกิน
เสียงดังฉู่ฉี่ น้ำของเนื้อที่ไหลออกมา โดนไฟ
ส่งกลิ่นหอมรัญจวนใจจนเราแอบกลืนน้ำลาย
เอาแบบนี้เลย สองจาน ด่วนๆ เพราะฉันหิว!!
นี่คือ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด
ลูกค้าพร้อมจ่าย พร้อมโอนเงินมาให้
เมื่อได้เห็น ได้อ่าน หรือ สัมผัสได้ถึงความเย้ายวน หรือประโยชน์ ที่จะได้รับจากสิ่งนั้น
ลูกค้าจะรู้สึกเฉย ถ้าเรานำเสนอไม่ตรงจุด
ไม่โดนใจ เขาพร้อมจะไปเสมอ
ยิงเป็นออนไลน์ ยิ่งเป็นต้องทำให้
ลูกค้าสนใจด้วยเวลาที่รวดเร็วที่สุด
สำหรับเฟสบุ๊ค ลูกค้าให้ความสนใจกับเรา แค่ 16 วินาทีเท่านั้น
แล้วเทคนิคที่จะทำให้คนสนใจ หรือ อยากได้สิ่งที่เราอยากขายต้องทำยังไง
ผมมีแนวคิดง่ายๆ แบบนี้มาฝากครับ
ให้ขาย “คุณประโยชน์” ก่อนขาย “คุณลักษณะ”
เพราะหากเขาเห็นว่ามันมีประโยชน์ มากพอ
เขาจะสนใจ แล้วถามไปถึง รายละเอียดของสินค้า เพื่อตัดสินใจ ซื้อในที่สุด
เช่น ถ้าจะขายบ้าน
ก่อนจะบอกว่า มี กี่ห้องน้ำ กี่ห้องน้ำ กี่ตารางวา
ลองทำให้เขาเห็นว่า
ชีวิตเขาจะดีขึ้นได้อย่างไร เมื่อมาอยู่บ้านหลังนี้
- อยู่ใกล้อะไรที่เขาชื่นชอบ / อยู่ไกลจากอะไรที่เขาไม่ชอบ
- ลดเวลาการเดินทาง เมื่อได้อยู่บ้านหลังนี้
- คุณภาพชีวิตจะดีมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อได้อยู่บ้านหลังนี้
ลองคิดดูนะครับ
ว่าครั้งต่อไป ที่จะขาย
คุณจะเลือกขายอะไรก่อนกัน?
อยากขายอะไร อย่าขายสิ่งนั้น
ให้ขายสิ่งที่เร้าใจ จนคนอยากได้สิ่งนั้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
Update ข้อมูล DIGITAL 2020: THAILAND มาแล้วจ้า
Update ข้อมูล DIGITAL 2020: THAILAND มาแล้วจ้า
.
ขอสรุปประเด็นที่น่าสนใจ เกี่ยวกับการใช้งาน internet ในบ้านเรา ประจำรอบ JAN 2020
ซึ่งเป็นเก็บรวบรวมข้อมูล ล่าสุดมาให้อ่านกัน
.
ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นตัวที่ทำให้เรา ได้ตัดสินใจ หรือ คิดวางแผนได้ล่วงหน้าว่า
จะต้องปรับตัวอย่างไร ให้ทันกับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน internet จริงๆ
ข้อมูลบางอย่าง อาจจะเหมือนเดิม
ข้อมูลบางอย่าง อาจจะทำให้แปลกใจ
.
เอาล่ะ
จะเป็นอย่างไรนั้น อย่ารอช้า มาดูกันเลย
.
ข้อมูลโดยรวม!
คนไทยทั้งหมด 69.71 ล้านคน มีมือถือทั้งหมด 93.39 ล้านคน ใช้ internet 52 ล้านคน
.
คนไทยใช้สมาร์ทโฟนแทบจะ 100% ไปแล้ว
.
เวลาทั้งหมดของการใช้ internet ของคนไทย หมดไปกับการดู หนัง แชท และ ฟังเพลง ชอบความบันเทิงไง!!
.
ความเร็วเฉลี่ย internet มือถือเร็วขึ้น 48% ส่วน internet บ้านเพิ่มขึ้น 117% (สำรวจจากคนส่วนใหญ่ ใครเน็ทช้า ลองเช็คว่าเราใช้ pakage ไหนด้วยนะ)
.
สมัยก่อนเราเข้าใจว่า traffic เข้าเว็บมาจากมือถือ แต่ตอนนี้ต้องบอกว่า มาจาก computer มากกว่า (อันนี้เปลี่ยนความคิดคนทำเว็บไปพอสมควร)
.
เว็บยอดนิยม ยังเป็น google เฟสบุ๊คและ youtube แต่เว็บโป๊ก็ยังติดอันดับ 9 ที่คนดูเยอะสุด ใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 16 นาทีต่อครั้ง! (อืม…)
.
คำค้นหาของคนไทย ยังวนเวียน กับเรื่อง บอล หวย หนัง เหมือนเดิม (คลาสสิกสุดๆ)
.
กิจกรรมยอดนิยมของคนไทยก็ยังเป็นการดูคลิป ดู VLOG แต่ที่น่าสนใจคือการฟัง podcast ที่ติดอันดับมาด้วย!
.
คนไทยใช้ voice search เพิ่มขึ้น จ่ายเงินรายเดือนเพื่อดูหนังเพิ่มมากขึ้น (netflix เป็นต้น)
.
การใช้ social media ของคนไทย อยู่ที่ช่วงวัย 25-34 มากที่สุด รองลงมาคือ 18-24
.
ที่ผ่านมา social media น้องใหม่อย่าง tiktok มาแรงมากๆ รองจาก twitter และ instagram ใครอยากหาตลาดใหม่ ที่เป็นกลุ่มวัยรุ่น ต้องไปศึกษา (ไปสร้างให้คนพูดถึงแบรนด์ แต่จะมี account หรือไม่มีก็ได้ ถ้านึกไม่ออก ให้ดูการตลาดของเพลง วิบวับ ที่ดังมาจาก วิบวับชาเลนจ์)
.
instagram คืออาณาจักรของสาวน้อย เพราะมีผู้หญิงใช้งาน 63% จากทั้งหมด 12 ล้านคน
.
twitter คืออาณาจักรของสาวน้อยยิ่งกว่า instagram เพราะมีผู้หญิงใช้งานมากถึง 78% จาก 6.55 ล้านคน (พฤติกรรมส่วนใหญ่ คือ การติดตามข่าวสารที่ไวมากๆ ส่วนวิธีการพูด การสื่อสาร จะต้องเป็นกันเอง ไม่ต้องเยิ่นเย้อ เพราะคำพูดที่เขียนได้มีจำกัด แค่ 280 ตัวอักษร และใส่ภาพได้สูงสุด 4 ภาพ)
.
llinkedin มีคนใช้งาน 2.7 ล้านคน แต่ส่วนใหญ่ เป็นผู้ชายใช้งานมากกว่า (วัยทำงานด้วย)
.
คนซื้ออะไรในออนไลน์
มากที่สุดคือ ท่องเที่ยว 6.12 พันล้าน USD เสื้อผ้า 1.03 พันล้านเหรียญ USD แต่ที่น่าสนใจ คือตลาดเกมส์ 227 ล้านเหรียญ USD
.
ธุรกิจอะไรเติบโตก้าวกระโดดในอีคอมเมิร์ซ บ้านเรา
ธุรกิจอาหาร และ การดูแลสุขภาพ มาเป็นอันดับ 1 22% รองลงมาคือ ของเล่น งาน DIY โต 19% ส่วนเสื้อผ้า และ เฟอร์มาไล่ๆกัน
.
ลูกค้าเจอแบรนด์ใหม่ๆ ผ่านช่องทางไหน?
ที่น่าสนใจก็คือ ลูกค้าไปหาเจอใน search engine ถึง 41% คาดว่าน่าจะมาจาก Google Maps ใครอยากเพิ่มลูกค้าหน้าใหม่ๆ ให้ไปเรียนรู้เรื่อง google my business ครับ รองลงมายังเป็นทีวีนะจ๊ะ
.
ทั้งหมดนี้ คือสรุป การใช้งาน Thailand internet 2020 ที่สรุปมาจาก weare social และ hoot suit ซึ่งจะทำออกมาเป็นประจำ
.
ถือเป็นข้อมูลเพื่อนำมาใช้งานกันนะครับ
แต่หน้างานจริงๆ ก็ให้ยึดจากข้อมูล ที่เราเจอจริงๆ
อาจจะแตกต่างไปจากที่เขาสรุปมาให้ก็ได้
.
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ 😉
ที่มาของข้อมูล
https://datareportal.com/reports/digital-2020-thailand
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
คัมภีร์ 7 วิถี สู้ปัญหา เฟสบุ๊ค ลด Reach
เป็นที่รู้กันดีอยู่ว่า Social Media ที่คนไทยใช้กันมากที่สุด
คือ Facebook
แต่ทุกๆปี Facebook จะทำการลดสปีดหรือการเข้าถึงให้น้อยลงไปเรื่อยๆ
จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่
เมื่อเราอยู่บ้านหลังนี้เขาวางกฏเอาไว้อย่างไร
เราก็คงต้องปฏิบัติตาม
ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า Facebook จะลดการเข้าถึง ให้น้อยลงไปอีก
ผมเลยขออาสาเขียนวิธี 7 วิธีสู้ปัญหา Facebook ลด Reach
มาให้ทุกคนได้ไปปรับใช้กับเพจ Facebook ของตัวเอง
1.เลี่ยง keyword ที่ขาย เพราะ Facebook รู้ว่าเรากำลังขาย
โดยปกติแล้วถ้ามีคำพูดอะไรที่เกี่ยวข้องกับการขายของ Facebook จะมองว่านี่คือโฆษณา ล่าสุดลามมาถึงระดับ Facebook ส่วนตัว หากเขียนคำว่าขายหรือราคา จะมีปุ่มให้กดทักแชทขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
ถ้าไม่อยากให้โพสต์คุณ เป็นการขายของ ให้ลด หรือ งด คำว่าราคา ขาย เช่า ไปบ้าง
(แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็เขียนเป็นไปเถอะครับ)
2.งด การทำ Before After แม้จะไม่ได้โฆษณา
หากใครเป็นสายสุขภาพสกินแคร์ สิ่งที่พยายามจะเลี่ยงก็คือเรื่องของ Before After บางคนเลี่ยงมีโฆษณา แต่ว่าโพสต์ตามปกติแทน แล้วคิดว่ามันไม่ผิด
แต่อันที่จริงแล้ว Facebook เขามองทั้งหมดแหละครับ ทั้งแบบโฆษณาและไม่โฆษณา ถ้าใครยังทำอยู่ Facebook มองว่านี่คือ Landing Page ที่สร้างประสบการณ์ไม่ดี
3.ใช้สูตร content 80/15/5
เรื่องนี้ ผมขอเขียนสั้นๆ นะครับ เพราะใครอยากอ่านละเอียด ผมขอส่ง link ให้ไปอ่านต่อครับ
80 = การเขียน content ให้คุณค่า
15 = การโชว์ผลงาน testimonial ต่างๆ
5 = การขายแบบไม่ขาย
ไปอ่านได้เลยครับ >> https://www.digitalnook.co/388/
4. งดการ capture chat inbox มาโพสต์
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ facebook เข้มข้นมากๆ เหตุผลไม่เกี่ยวกับเรื่องของ privacy แต่เป็นเรื่องของการอ้างอิง platform ของ Facebook มาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
ถ้าใครอยากรู้เพิ่มเติมไปที่บทความนี่เลยครับ
https://www.digitalnook.co/369/
5.เพิ่มคนคุณภาพ เข้ามาในเพจ ด้วย content คุณภาพ
ฐานแฟนที่มีคุณภาพ คือ asset หรือสินทรัพย์ ที่คุณต้องระลึกถึงเสมอ เพราะเราไม่สามารถจะโฆษณาได้อยู่ตลอดเวลา และอีกหน่อยการโฆษณาก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ
การหาคนคุณภาพเข้ามาอยู่เป็นฐานแฟน คือสิ่งที่ต้องทำ
อยากรู้ว่าทำอย่างไร แนะนำให้ดูคลิปนี้นะครับ
>> https://www.digitalnook.co/522/
6. เปลี่ยนรูปแบบของโพสต์บ้าง อย่าทำรูปแบบเดิมๆ โดยเฉพาะ Live
การโพสรูปแบบเดิมๆซ้ำๆบ่อยๆ Facebook จะไม่ชอบ โดยเฉพาะการออกมาไลฟ์ ถ้าคุณทำถี่เกินไป คุณจะโดน Facebook ปรับการมองเห็นให้ลดลงแบบสุดๆ
บางคนถึงขั้นกับขึ้นป้ายสีแดงที่หน้าเพจ ซึ่งทำให้โพสต์อะไรคนก็จะไม่เห็น
ทางแก้อย่างเดียวก็คือ กด appeal แจ้งเหตุผลไปแจ้ง facebook ว่า ทำไมเพจเราถึงไม่ควรโดนปิดกั้นการมองเห็น
แย่น้อยที่สุด คือ โดนปิดการมองเห็นไว้ 7 วัน แต่ถ้าแย่มากๆ อาจจะไม่กลับมาเลย ก็เป็นได้
(ขอบอกว่า การติดต่อกับเจ้าหน้าที่ Facebook ขอให้คุยแบบภาษาธุรกิจนะครับอย่าไปเหวี่ยงใส่!!)
7. 5 โพสต์ที่ได้รับ Reach สูงสุดในเพจของคุณ คือแนวทางที่คุณต้องทำ
หลายคนพยายามนำเสนอสิ่งที่เราอยากจะบอก อยากจะเล่า แต่บางครั้งอาจจะไม่ถูกจริตคนติดตามเพจ ดังนั้น ให้ดูจากข้อมูล 5 โพสต์ในเพจของคุณที่ได้รับยอด Reach สูงๆ
ดูว่าคนชอบ Content เหล่านั้นเพราะอะไร ให้นำเอาแนวทางนั้นมาพัฒนาต่อ
นี่คือสิ่งที่คุณต้องทำ
ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนฝ่าฟันและอยู่ร่วมกับ Facebook อย่างมีความสุขในปี 2020
และในปีต่อไปตราบใดที่ยังมี Facebook ใช้งานกันอยู่
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
เทคนิคเปลี่ยนข้อความ เปลี่ยนภาพของโพสต์เฟสบุ๊ค ที่โฆษณาไปแล้ว ทำได้แบบนี้นี่เอง
เทคนิคเปลี่ยนข้อความ เปลี่ยนภาพของโพสต์เฟสบุ๊ค ที่โฆษณาไปแล้ว ทำได้แบบนี้นี่เอง
.
ปัญหาอีกอย่าง ที่หลายๆ คนสงสัย
นั่นคือ ทำโพสต์บนเพจ แล้วทำการโฆษณาจนผ่านการ approve จากเฟสบุ๊คแล้ว
แต่เผอิญว่า มีบางอย่างต้องแก้ไขเล็กน้อยแล้วค่อย boost ต่อ
.
พอจะกด edit ก็หาที่ edit ไม่เจอ
ซึ่งอันนั้น เป็นเรื่องปกติที่เฟสบุ๊คกำหนดไว้อยู่แล้ว
.
แล้วทำยังไงดีล่ะ
.
อันที่จริง เทคนิคนี้ ไม่ใช่เทคนิคที่ยุ่งยาก หรือ ล้ำสมัยแต่อย่างใด
แต่หากใครไม่เคยทำ อาจจะต้องเสียเวลา กับการปรับแต่งด้วยตัวเอง
.
ถ้าอยากหาทางลัด ก็ให้อ่านตามคำแนะนำในโพสต์นี้ได้เลยครับ
(ย้ำว่า เทคนิคนี้ สำหรับการทำโฆษณาจาก existing post ครับ ถ้าเป็นแบบ create ads ขึ้นมาใหม่ วิธีนี้ไม่จำเป็นเลย)
.
1.ไปที่ campaign ที่เราต้องการปรับ
เลือก campaign ที่เราโฆษณาผ่านแล้ว แต่อยากปรับเนื้อหา หรือ เปลี่ยนภาพ
แล้วไปคลิกไป edit ad
2.เปลี่ยน ad ที่กำลังแสดงผล เป็นโพสต์อื่นในเพจแทน
ทำการ edit ad ที่แสดงผลตอนนี้ โดยเลือกโพสต์อื่นๆ มาโฆษณาแทนชั่วคราว
ด้วยการกดปุ่ม change post
3.ทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เราต้องการเปลี่ยน
เมื่อเราเลือกโพสต์อื่น มาโฆษณาแทนแล้ว ตอนนี้ เมื่อคลิกขวาที่โพสต์ เราก็สามารถแก้ไข ข้อความ แก้ไขภาพ ได้ตามปกติ แล้วครับ เปลี่ยนเลย!
4.กลับไปที่ campaign เดิมเพื่อเลือกโพสต์ที่ได้รับการแก้ไขแล้วมาโฆษณาต่อ
แก้ไขจนพอใจ ไม่มีอะไรติดค้างแล้ว ก็ให้ไปที่ campaign โฆษณาเดิม แล้ว เลือกไปถึงระดับของ ad
เลือกโพสต์ที่เราแก้ไขไปเรียบร้อยแล้ว ให้มาเป็น ad ของ campaign เหมือนเดิม
ถือเป็นอันจบ
อ้อ หลายๆ ท่านที่เพจ มีโพสต์เยอะ
จนบางครั้ง เลื่อนมองหาโพสต์ไม่เจอ
ให้ไปจด ID ของ post ไว้นะครับ เราใช้เลข ID ของโพสต์มาระบุเลย
จะได้โพสต์นั้นขึ้นอย่างรวดเร็ว
.
ถ้าแอดนี้ วิ่งไปจนจบแล้ว
จะไม่สามารถแก้ไขได้
ทางเลือก ก็คือ กดเพิ่มวันแสดงผลโฆษณา
หรือ ลบไปเลย (ถ้าไม่มีปัญหา เรื่องการเก็บ report ไปให้ใครดู)
.
หากคิดว่าเทคนิคนี้ น่าจะได้นำไปใช้ในอนาคต
หรือว่า อยากให้เพื่อนๆ ได้อ่าน
แชร์ได้เลยนะครับ 😉
ไม่เก็บเงิน 555
.
#digitalnook
7 เทคนิค เสกโพสต์ ให้ขายดี มีอยู่จริง เพียงทำสิ่งนี้!
7 เทคนิค เสกโพสต์ ให้ขายดี มีอยู่จริง เพียงทำสิ่งนี้!
อยากขายดีในออนไลน์
ก็ลอกตัวอย่างร้านขายดีในโลกแห่งความจริง
.
อยากให้โพสต์ขายของน่าสนใจ
ต้องสร้างบรรยากาศให้คนมุง
เหมือนร้านที่ขายดี ในห้างต่างๆ
เหมือน้รานอาหารอร่อย ที่เขาขายดี เป็นเทน้ำเทท่า
.
ว่าแต่จะทำยังไงดีล่ะ
อยากรู้มาอ่านกันเลย!!
.
ก่อนอื่น ถ้าอยากจะมี โพสต์ขายดี
ดูดี แบบนี้ได้ ต้องเตรียมการ เตรียมใจ
และเพียรทำสิ่งนี้ อยู่เป็นประจำนะครับ
.
1.ภาพและเนื้อหาในเพจ ต้องดีก่อน
หากจะลงโพสต์ หรือ โฆษณาให้คนเข้ามาเห็นสินค้า หรือบริการของเราเยอะๆ
ภาพ และ เนื้อหาต่างๆ ที่อยู่ในเพจของเรา จะต้องดูดี
อ่านเข้าใจง่าย และ สอดคล้องกับสิ่งที่เรานำเสนออยู่
.
ถ้าคลิกโพสต์โฆษณาเข้ามา แล้วเจอแต่เพจโล่งๆ
ก็น่าจะลดความน่าเชื่อถือไปได้เยอะเลย
.
ดังนั้น ทำ Content ขึ้นไว้ในเพจสัก 4-5 โพสต์ ให้คนรู้ว่า เราทำอะไร เพื่ออะไร หรือ แก้ปัญหาให้ใครได้บ้าง
ด้วยนะครับ
2. รีวิวในเพจ มีหรือยัง?
การจะตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่างในเพจ คนอ่าน คนเข้ามา ก็อยากเห็นผลลัพธ์ ก่อนเสมอ
เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ
.
ถ้ามี content รีวิว โชว์ความสำเร็จของลูกค้า หรือ ผู้ใช้ก่อนหน้านี้
จะทำให้คนเข้ามาดูเพจของเรา อยากทดลอง อยากซื้อเร็วมากขึ้นกว่าเดิม
.
อันนี้ หมายรวมถึงรีวิวของเพจ ด้วยนะครับ
หากมีมากเท่าไร ก็หมายถึงคนที่ใช้บริการ คนที่ซื้อสินค้าของเราเยอะด้วย
.
พลังดาวรีวิวนั้นสำคัญนักแล!!
.
3. คนคอมเมนต์ในโพสต์ คึกคักขนาดไหน
บรรยากาศ ร้านขายดี หรือ ที่เที่ยวน่าไปในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น เป็นอย่างไร
บรรยากาศ คนสอบถาม คนพูดคุยกันในโพสต์ขายของนั้น ก็ควรจะเป็นในแนวทางเดียวกัน
.
คนถามไถ่ แล้วมีคนตอบ
ทักถาม แล้วไม่เงียบ
.
มีคนมากมาย เข้ามาให้กำลังใจ ให้ทัศนคติที่แตกต่างกันไป
ล้วนแต่ทำให้เราอยากรู้ว่า สินค้าของเรานั่นดีแค่ไหน
.
ลองให้คนทักทาย หรือ สอบถามใต้คอมเมนต์ เพื่อทำให้กลไกของเฟสบุ๊คนั้นทำงานได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
ไม่เชื่อ ก็ลองเทียบกัน ระหว่าง โพสต์ที่เมนต์เยอะ กับ โพสต์ไร้เมนต์
อันไหน reach เยอะกว่ากัน
.
เพราะว่า เมื่อเราเมนต์ใต้โพสต์ เพื่อนของเรา ก็จะเห็นโพสต์นั้นด้วย
.
นั่นแหละครับ คือประโยชน์ของการคอมเมนต์ใต้โพสต์
.
4.ภาพกระแทกตา
เพราะ เฟสบุ๊คเป็นการตลาดแบบสไลด์ content ขึ้นลงบนสมาร์ทโฟน
หากภาพไม่เจ๋งจริง ก็ยากจะหยุดสายตาของคน
.
ภาพที่หยุดสายตาคนเรานั้น
มันควรต้องเด็ด ความเด็ด ก็คือ
– แปลก unseen ไม่เคยเห็นมาก่อน หรือ โดดเด่น ชัดเจน แจ่มแจ้ง
– ตรงไป ตรงมา
– ภาพที่ไม่ได้รับการปรุงแต่ง หรือ ภาพที่ไม่เคยซ้ำใครมาก่อน เฟสบุ๊คจะชอบเป็นพิเศษ (อย่าว่าแต่เฟสบุ๊คเลย คนเรายังชอบภาพใหม่ๆ เล้ย)
5.แคปชั่นกระแทกใจมั้ย?
คำพูด คำโปรย ที่หว่านลงไปในโพสต์นั้น คือสิ่งที่คนจะเห็นตามมาจากภาพ
หากประโยคแรก มันรวบตึงทุกปัญหา หรือ ทุกสิ่งที่เขาอยากรู้
ทำไมเขาจะไม่อ่าน?
.
แต่ทุกวันนี้ สิ่งที่เราทำ มันตรงกันข้ามหรือเปล่า
เอาสิ่งที่คนควรได้อ่านก่อนไปอยู่หลังๆ ไปอยู่ท้ายๆ
.
ดังนั้นจึงพึงระลึกเสมอว่า
คนเรา จะสนใจในสิ่งที่เกี่ยวกับตัวเอง
และสิ่งที่สนใจจะฟัง จะอ่านเท่านั้น
.
ไม่ได้สนใจสิ่งที่เราอยากบอก
.
ไม่ใช่ว่าทุกคนเกลียดโฆษณา
เพียงแต่เขาไม่ชอบโฆษณา ที่ไม่ชอบเท่านั้น!
.
6.ข้อเสนอโดนๆ มีหรือยัง?
การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการ
บางครั้ง ก็อยากจะขอต่อรองราคา เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่าเสมอ
.
แต่หากข้อเสนอจากผู้ขาย หรือ ผู้ให้บริการนั้นมันน่าสนใจมากพอ
การคลิกเข้ามาทัก หรือ เขียนคอมเมนต์สอบถาม ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
.
เมื่อเขามีความพยายาม ในการทักทายมาหาเรา
แสดงว่าเขาชื่นชอบ สนใจ และอยากจะซื้อขายกับเราแล้ว
.
ลองหาข้อเสนอดีๆ ที่คนอยากได้
มาไว้ในโพสต์ของเรา เพื่อกระตุ้นความอยากของลูกค้า ให้มากที่สุด
ผมคิดว่า ไม่ยากเกินความสามารถของทุกคนหรอกครับ
.
7.ข้อความเร่งเร้า มีหรือเปล่า
ตัวอย่างที่ดี ของข้อความเร่งเร้า เพื่อปิดการขายได้อย่างดีนั้น
คุณสามารถไป ดูได้ จากรายการทีวีไดเร็คต์ หรือ ควอนตั้มเทเลวิชั่น
หรือรายการนำเสนอสินค้า ที่ยิงกันจนพรุนในทีวี
.
ต้นแบบของการนำเสนอสินค้า ทางทีวี แบบนี้
ถ้าใครอยากรู้ ให้ไปหาหนังเรื่องนี้ดูกันครับ
“JOY จอย เธอสู้เพื่อฝัน (2016)”
.
ข้อความเร่งเร้า ที่เราเห็นกันบ่อยๆ ก็คือ
– สำหรับ 20 คนแรกเท่านั้น
– เฉพาะคนที่เห็นโฆษณานี้เท่านั้น
– ซื้อไปแล้ว 3234 ราย
– ก่อนวันที่ xx นี้เท่านั้น
– ภายในวันนี้ วันเดียว
.
เอาล่ะครับ ลองไปทำกันนะครับ
ได้ผลอย่างไร ลองมาดูกันจ้า
.
ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์
ขอบคุณมากครับผม 😉
.
website : https://www.digitalnook.co/
blog : https://medium.com/digitalnook
line : @digitalnook
5 เทคนิค เพิ่มยอด like เพจ แบบมีคุณภาพ ทำได้แบบนี้นี่เอง
5 เทคนิค เพิ่มยอด like เพจ แบบมีคุณภาพ ทำได้แบบนี้นี่เอง
ถ้าวันนี้ เราจะทำเพจขึ้นมาสักเพจ
แน่นอน แม้มันจะเป็นบ้านเช่า แต่นี่คือ บ้านเช่าที่เราจะทำธุรกิจ
ดังนั้น มันจะต้องมีคุณภาพ และ สื่อสารข้อมูลไปยังกลุ่มเป้าหมายตัวจริง ที่จะซื้อสินค้า และ บริการจากเรา
จะดีกว่ามั้ย หากคนที่ติดตามเพจของเรานั้น คือลูกค้าที่แท้จริง
และ มีคุณภาพ ไม่ได้เป็นชาวต่างชาติ ที่มาติดตามเพราะ ไปซื้อไลค์เถื่อน!!
เอาล่ะ ถ้าจุดมุ่งหมายของคุณคือ เพิ่มยอด like เพจ สร้างคนติดตามคุณภาพ
ก็มาเริ่มต้นอ่านกันได้เลย!!
1.ตั้งมั่น วางแนวทางของเพจ ให้มีเพียงแค่ 1 เดียวเท่านั้น
อย่าทำให้คนอื่นๆ สับสนหลงทางว่า คุณทำอะไร เพราะว่าการสร้างเพจในเฟสบุ๊ค ไม่ใช่ร้านขายของชำ ที่มีทุกอย่างให้เลือกสรร ควรมีแกนหลักๆ ในการนำเสนอเพียง 1 เดียวเท่านั้น เช่นเรานำเสนอเรื่อง กาแฟ ก็ควรจะมีแต่เรื่องของกาแฟ เท่านั้น ถ้ามีสิ่งอื่นๆ ที่ต่างไป คนก็จะให้ความสนใจน้อยมาก และ รำพึงในใจว่า “นี่มันเพจอะไรกันแน่”
บางเพจเป็นเพจการเกษตร แต่เอาข่าวดาราเลิกกัน มานำเสนอ
คนก็ถามว่า “ขอความรู้เรื่องเกษตรๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่เอาข่าวดารา”
ผู้บริโภค เขามีหัวใจนะครับ 😉
2. สร้าง Content ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของคุณเป็นหลัก เพื่อสร้างตัวตนที่ชัดเจน
การสร้างเนื้อหาใหม่ๆ ขึ้นมา จะต้องเกี่ยวกับแกนการนำเสนอหลักของคุณเท่านั้น แม้จะมีกระแสสังคมอะไรที่โด่งดังขึ้นมา ถ้าอยากเขียน ก็ให้ผูกโยงและลงท้ายด้วยความเป็นเพจของคุณเสมอ เช่น คุณขายเค้กออนไลน์ วันตรุษจีน ก็ให้เอาเรื่องของส้มที่เป็นสัญลักษณ์ ของความโชคดี มาเป็นตัวนำ แล้วตามท้ายด้วยเค้กส้มของคุณ
3. เรื่องไหนที่ Engagement ที่ดีที่สุด ให้จำไว้ นั่นคือหัวใจสำคัญที่สุดของการทำโฆษณา
เรื่องไหน โพสต์ไหนที่มีการตอบรับจากคนดู คนอ่านมากที่สุด แสดงว่า คนชอบ และ ถูกจริตเป็นอย่างมาก ให้บันทึก และ วิเคราะห์ไว้ว่า ทำไมถึงดี แล้วให้ลองทำตามแนวทางนี้ไปเรื่อยๆ ถ้ามันได้ผลทุกครั้ง แสดงว่า มันคือหมัดเด็ด ที่คุณจะเอาไปทำ content ต่อในอนาคต
4. ทำโฆษณาด้วย Content ที่ได้รับ engagement ดีที่สุด
– ยิ่งเป็น VDO ยิ่งดี เพราะตอนนี้ Facebook สนับสนุนให้ทำ เพราะเขาต้องการแข่งขันกับ Youtube แต่เนื้อหาต้องเจ๋งมากพอนะ ไม่ใช่เป็น video ที่เอาภาพมาต่อๆๆ กัน แล้วไม่ได้ให้คุณค่าอะไร กับคนอ่านเลย
– วัดผลการทำโฆษณาในหลายกลุ่มเป้าหมาย เป้าหมายไหนดี ใช้กลุ่มนั้นเลย กลุ่มไหนไม่ ok เราก็ไม่ต้องทำต่อ
5. Invite คนจากกลุ่มที่ชื่นชอบเรื่องนั้นๆ มาเป็นแฟนเพจ
– ทำเรื่องรถ ลองเชิญชวนคนที่อยู่ในกลุ่มมากด Like เพจเรา เขาจะมีโอกาสที่จะ ส่วนเทคนิคพิเศษ อันนี้แล้วแต่ความสามารถเฉพาะตัวแล้วครับ
ทำเงินในโลกออนไลน์ ด้วยมือถือแค่เครื่องเดียวกับ 4 ความจริงที่เขาไม่ได้บอก
ทำเงินในโลกออนไลน์
ด้วยมือถือแค่เครื่องเดียว
กับ 4 ความจริงที่เขาไม่ได้บอก
.
มีครับ
เป็นเรื่องจริง
และใครๆ ก็ทำได้กันเยอะเลย
.
ฟังแล้วเหมือนจะขี้โม้ และจะขายอะไรสักอย่างให้เรา
ทว่ามันเป็นเรื่องจริงครับ
.
แต่เป็นความจริงอยู่ประมาณ 10% นะครับ
ใครเห็นโฆษณาประเภทนี้ แบบนี้ เขาไม่ได้มาโกหกเราครับ
แค่อาจจะยังไม่ได้บอก
.
เหมือนวันนี้ เราเห็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งแค่ส่วนปลายยอด
แต่ด้านล่างของภูเขาน้ำแข็งนั้น มีอะไรซ่อนอยู่มากมาย
.
หากจะเรียบเรียงมาให้ว่า มีอะไรบ้างที่เขายังไม่บอก
ผมมีความเห็นดังนี้ครับ
อะ มาดูกัน…
.
ทำเงินในโลกออนไลน์
ด้วยการใช้มือถือแค่เครื่องเดียว
มีอยู่จริง แต่สิ่งที่ไม่ได้บอก ว่าต้องมีด้วย คือ
.
1. ความรู้ ความเข้าใจ ในการทำสิ่งนั้นๆ
เวลาจะทำอะไรสักอย่าง คุณเข้าใจหรือยัง ว่ากำลังทำอะไร
ทำเพื่อใคร แก้ปัญหาให้ใคร
หากเป็นการแก้ปัญหาให้ตัวเอง ต้องถามว่า เราจะยกระดับความสุขของคนที่เราจะแก้ปัญหานั้น
ไปได้ไกล มากน้อยแค่ไหน
.
ถ้าแก้ปัญหาให้คนอื่น ต้องรู้ว่า ปัญหา
2. ความใส่ใจ ความพยายาม การทำอย่างต่อเนื่อง
เมื่อตัดสินใจ ลงมือทำอะไรแล้ว ก็ต้องทำให้เต็มที่ โฟกัส อย่างต่อเนื่อง
เกาะติด เมื่อมีปัญหา ก็ต้องแก้ไข ให้ได้ อย่าละทิ้งปัญหาไป
มันง่ายที่จะเดินหนี ปัญหา
แต่ให้นึกถึงวันแรก ที่เราตัดสินใจ ลงมือทำสิ่งนี้
ความรู้สึก ที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังของเรา วันนั้นอยู่ไหน?
.
การทำอย่างต่อเนื่อง คือการเรียนรู้ ดีๆ นี่เอง
เพราะจะเจอสถานการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่มีเขียนไว้ในหนังสือคู่มือ
พร้อมทางแก้ไข ที่กำหนดขึ้นมาเอง โดยตัวเรา
.
3. แนวคิดกล้าลงทุน กล้าล้มเหลว
ถ้ารักจะทำเงินบนโลกออนไลน์ ให้ลืมไปได้เลยว่า มันคือ การได้มาฟรีๆ
แม้โลกออนไลน์ จะมีความรู้ฟรีๆ ให้ทำตาม
แม้โลกออนไลน์ จะสามารถหยิบ ภาพ เพลง วิดิโอ มาผสมรวมกันได้ง่ายๆ
.
แต่การจะสร้างเงินขึ้นมาให้เห็นเป็นชิ้น เป็นอัน
การใช้เงินเพื่อการลงทุน จึงเป็นเรื่องปกติ
.
ถ้าเป็นการทำโฆษณา ออนไลน์บางครั้ง เราอาจจะหวัง ได้คน ได้ยอด ตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่ลงโฆษณาไป ซึ่งความจริง มันไม่ใช่แบบนั้น
.
เพราะมีอีกหลายปัจจัย ที่เรายังมองไม่เห็น
.
หากวันไหน ที่เราใช้เงินเยอะ แต่ยอดไม่เยอะ
ให้สังเกต ว่าทำไม ยอดน้อย หรือไม่มียอด
อย่าเพิ่งหยุดโฆษณา
.
มองว่านี่คือการลงทุน
.
4. ปรับปรุง เพื่อสู่ความสำเร็จ
แน่นอน เมื่อลงมือทำแล้ว เราจะเห็นทั้งสิ่งที่ work และสิ่งที่ไม่ work
อันไหนดี เราพัฒนาต่อยอด ไปจากเดิมให้ดียิ่งขึ้น
อันไหนล้มเหลว เรานำมาคิดต่อ ดูว่า ทำไม ถึงไม่ดี
แล้วปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อผลลัพธ์ที่มากกว่า
.
เพราะความสำเร็จ หากสำเร็จได้ภายในชั่วโมงเดียว
คงไม่ใช่ความสำเร็จ ที่แท้จริง
.
และนั่น คือ ความจริง 4 ข้อ ที่หลายๆคนไม่ได้บอกเอาไว้
เกี่ยวกับ “ทำเงินในโลกออนไลน์ ด้วยมือถือแค่เครื่องเดียว”
.
.ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ กันนะครับ
.
.
Facebook
facebook.com/digitalnook
.
line @digitalnook
https://line.me/R/ti/p/%40digitalnook
.
inbox
https://m.me/digitalnook
3 สิ่งที่ควรจำ เวลาทำโฆษณาเฟสบุ๊ค
3 สิ่งที่ควรจำ เวลาทำโฆษณาเฟสบุ๊ค
ทำโฆษณาเฟสบุ๊ค ไม่ใช่แค่ยิงแอด แล้วจบ!
.
ในยุคสมัย ที่ใครๆก็หันมาขายของออนไลน์กัน
เมื่อ 4-5 ปีก่อน ในเฟสบุ๊ค
โพสต์ทิ้งๆ ขว้างๆ ก็มีคนสนใจ ซื้อของกัน
.
หลังๆ คนเริ่มเยอะ โพสต์ธรรมดา โลกไม่จำ
จึงต้องมาใช้เงินฟาดหัว เพื่อให้คนเห็นมากขึ้น
ปรากฏว่าดี วุ้ย ขายของได้ สบายเลยสิเรา
.
ต่อมา คนเห็นว่าดีวุ้ย เอาบ้าง
ลุยบ้าง เสียเงินบ้างซิ จะได้รวยกับเขา
ก็แห่มาลงเงิน เสียเงินให้พี่มาร์ค
.
จากตลาดที่เคยมีกันอยู่แบบ อุดมสมบูรณ์
ก็กลายเป็นทะเลแดงเดือด แก่งแย่งกันมากกว่าเดิม
.
ราคาค่า ads ก็เพิ่มสูงขึ้นๆๆ ไปเรื่อยๆ
เจ้าใหญ่ๆในท้องตลาด ก็ลงมาฟาดฟัน ในมหาสมุทรสีเลือดด้วย
ราคาก็ไปกันใหญ่จ้า!!
.
เออ แล้วไงดี
.
แต่หากคุณเชื่อว่า ลูกค้ายังอยู่ที่นี่
ยังมีอะไรให้ได้เก็บเกี่ยวอยู่
ยังมีความหวังอยู่
.
เราก็พอมี แนวทางให้เลือกเดินกันครับ
กับ 3 สิ่งที่ควรระลึกถึง เมื่อคิดจะทำโฆษณาเฟสบุ๊ค
เพราะนี่เป็นสิ่งที่ควรจะคิดให้มากๆ มากกว่าวิธียิงแอด กันนะครับ 😉
.
ว่าแล้ว ก็มาทำความเข้าใจกันเลยครับ
.
1. คำพูดกระแทกตา
ทุกวันนี้ สิ่งที่ทำให้คนเราหยุดสายตา หยุดมองอะไรบ้าง
มักเกิดจากประโยค ที่มันเกี่ยวกับเรามากๆ
ปัญหาของเรา สิ่งที่เรากำลังมองหา เช่น
“ลดกลิ่นแก่ คืนความหนุ่มให้มากกว่าเดิม 2 เท่า ด้วยxxxx”
“ฝ้ากระจุย สาวขึ้นกว่าเดิม เพียงเติม…”
.
ด้วยประโยคแรก ที่มันเกี่ยวกับเรา
ก็จะดึงให้เราไปอ่าน ประโยคอื่นๆ ต่อเลย
หาก สิ่งที่ตามมา แฝงไว้ด้วย ข้อเสนอดีๆ มีราคาดีๆ
และ ข้อจำกัดทางเวลา เพื่อเร่งให้ตัดสินใจ
โอกาส ที่จะคล้อยตาม และ ซื้อของเราเร็วขึ้น
ก็มากกว่า
.
พยายามนึกถึง ปัญหาของ คนที่จะเป็นลูกค้าของเราไว้เยอะๆ ครับ
แล้วประโยคทองมันจะมาเอง
.
2. ภาพโดนใจ
นอกจากเรื่องราว ที่เกี่ยวกับเราแบบสุดๆ แล้ว
ภาพ หรือ วิดิโอ ที่เห็นแว้บเดียวก็ต้องหยุดนิ้วโป้ง
คือ อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ โฆษณาของเรา
เป็นที่สนใจของกลุ่มเป้าหมายนะ
.
ภาพที่สื่อให้เข้าใจง่าย
จะเข้าถึงคนได้มากกว่า
เปรียบเทียบให้เห็นง่ายๆ
ที่สำคัญ หากมีหน้าคนอยู่ในนั้น คนจะสนใจมองมากกว่าปกติ
.
3. กลุ่มเป้าหมายที่ใช่
อีกเรื่องที่สำคัญมากๆ นั่นคือ คนที่เราจะเอาสารไปส่งให้เค้า
ข้อความดี ภาพเลิศ แต่กลุ่มคนที่เราส่งไปหา ไม่ใช่
มันก็เน่านะ
.
เช่น เอาเรื่อง น้ำมันเครื่อง สำหรับรถสิบล้อ ส่งไปให้เด็กประถม
ก็อาจจะแค่ดูผ่านๆ แล้วเลื่อนไป
หรือ ไม่ได้มองเสียด้วยซ้ำ
.
เปลืองค่าแอดเปล่าๆ จ้า
.
ดังนั้น 3 สิ่งที่ควรจำ เวลาทำโฆษณาเฟสบุ๊ค คือสิ่งนี้เลย
.
คิดให้เยอะๆ ว่า ปัญหาของลูกค้าเราคืออะไร
ตอบปัญหาให้ได้ เสนอสิ่งดีให้เค้า
ทำภาพให้ชัดเจน ให้เค้านึกออกว่าเรากำลังคุยกับเค้า
จับมัดรวม แล้วส่งมอบมันไปยังมือถือ ของเค้าเลย
.
แล้วชีวิตจะดีขึ้น
.
อ้อ อีกอย่างหนึ่งที่ลองทำแล้ว ใช้งานได้ดี
Content ไหนที่ มันดีมากๆ
แทบไม่ต้องตั้งกลุ่มเป้าหมายเลย ก็ยังปังนะ
.
แต่ content แบบนี้ จะเหมาะกับ สินค้า หรือ บริการที่
ไม่ต้องคิดมาก
.
อาทิเช่น ร้านวิวป่า ขนมน่ากิน ส้มตำสุดแซบ มะม่วงสุดซี๊ด คลิปขำโคตรๆ คลิปสะเทือนใจ เรื่องดราม่า
.
ถ้า content เรา ไม่ตรงกับอะไรแบบนี้
ลองไปหาทาง ให้มันเข้ากับแนวทางเหล่านี้ให้ได้นะ
.
ชีวิตจะสบายขึ้น
.ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ กันนะครับ
.
.
Facebook
facebook.com/digitalnook
.
line @digitalnook
https://line.me/R/ti/p/%40digitalnook
.
inbox
https://m.me/digitalnook