3 ข้อต้องเช็ค ไม่อยากเผาเงิน ค่าโฆษณาเฟสบุ๊คฟรีๆ ต้องระวังสิ่งนี้! (เจ็บมาแล้ว เลยมาบอก)
3 ข้อต้องเช็ค ไม่อยากเผาเงิน ค่าโฆษณาเฟสบุ๊คฟรีๆ ต้องระวังสิ่งนี้!
(เจ็บมาแล้ว เลยมาบอก)
3 ข้อต้องเช็ค ไม่อยากเผาเงิน
ค่าโฆษณาเฟสบุ๊คฟรีๆ ต้องระวังสิ่งนี้!
(เจ็บมาแล้ว เลยมาบอก)
การทำโฆษณาเฟสบุ๊ค สำหรับมือใหม่
สิ่งที่หลายคนกลัว ก็คือ เรื่องค่าใช้จ่าย
กลัวไปหมด ว่า ถ้าเริ่มยิงแอดไปแล้ว
จะโดนหักเงินไปแล้วมั้ย
ผมเองก็เป็นครับ
จำได้เลยว่า ครั้งแรกของการทำโฆษณาเฟสบุ๊ค
ผมทำให้กับบริษัทเก่า
มือไม้สั่นไปหมด ผิดพลาดไปนี่
ความบรรลัยมันเกิดขึ้นกับตัวเราแน่นอน
ต้องเอาเงินไปคืนบริษัทแหงๆ
ก็เลยต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ
โชคดี ที่เราค่อยๆ ทำโฆษณา
ใช้เงินแบบพอดีๆ พอเริ่มรู้มากขึ้น คราวนี้จะหลักหมื่น หลักแสน ก็สบายๆ
แต่แม้จะผ่านการทำโฆษณามามากมายแค่ไหน
ถ้าเราประมาท หรือ ดูไม่ดี
ก็มีวันพลาดได้ ดังนั้น เลยขอนำประสบการณ์ มาเล่าสู่กันฟัง ในบทความนี้ครับ
3 ข้อต้องเช็ค ไม่อยากเผาเงิน
ค่าโฆษณาเฟสบุ๊คฟรีๆ ต้องระวังสิ่งนี้!
(เจ็บมาแล้ว เลยมาบอก)
1.ดูวัตถุประสงค์ ให้ถูกต้อง
หน้าแรก ของการเริ่มทำโฆษณา มันคือ วัตถุประสงค์ นั่นเอง
หน้านี้ เลือกให้ดีๆ นะครับ ว่าคุณต้องการอะไรกันแน่
บางคนอยากให้เกิดการทัก แต่ดันไปเลือก การเข้าถึง
ก็ได้แต่สงสัยว่า ทำไมคนไม่ทักมาสักที
หรืออยากให้คนดู video เยอะๆ แต่ก็ไปเลือก Engagement แทน
ยอด view ก็ขึ้นน้อยกว่าที่เป็น
ดังนั้น ควรหยุดนิ่ง แล้วพิจารณาดีๆ ว่าเราเลือก วัตถุประสงค์ ถูกต้องมั้ย
ก่อนไปสู่กระบวนการต่อไป
2.เลข 0 ใครว่าไม่สำคัญ
เลขศูนย์ ใครๆ ก็มองว่าไร้ค่า
ยกเว้นว่า มันมาเรียงกัน อยู่หลังตัวเลข ในช่องงบประมาณ
เรื่องการใส่เงินทำโฆษณาเฟสบุ๊ค ก็เป็นอีกเรื่องที่พลาดกันบ่อย
เพราะ เราสามารถเลือกได้ว่า จะทำเป็นแบบ งบประมาณรายวัน หรือ ตลอดช่วงเวลาการทำโฆษณา
หลายครั้งที่เราอาจจะใส่ตัวเลขเพลินๆ แล้วเติมเลขศูนย์ เกินไป 1-2 ตัว
เช่นงบประมาณ วันละ 300 บาท แต่ใส่เป็น 30,000 บาท
ไม่ทันดู โฆษณาวิ่ง เออ ทำไมวันนี้ มันวิ่งดีจัง
หารู้ไม่ว่า เงินโดนกินไปแล้ว มากกว่า 300 บาท
พลาดแบบนี้ มันน่าเจ็บใจตัวเองครับ
ดังนั้น ต้องระวังการใส่เลข 0 ในช่องงบประมาณครับ
3.กำหนดวันเวลาเริ่มต้นสิ้นสุด
เคยคุยกับน้องคนนึง ขายของออนไลน์
ขายดีมาก จนของหมด
แต่ดันลืมกำหนด วันสุดท้าย ของการโฆษณา
ไปใส่งบประมาณโฆษณาต่อเนื่อง
มารู้อีกที ในวันที่บัตรเครดิตแจ้งเตือนตัดเงิน
อ้าว เงินค่าเฟสบุ๊คแอดนี่หว่า!!
ตกใจ รีบมาปิดโฆษณาแทบไม่ทัน
ดังนั้น ในหน้างบประมาณ ให้เราพิจารณา และตรวจหลายๆรอบว่า
งบประมาณทั้งหมด ของโฆษณาเรานั้น อยู่ภายใต้งบ ที่เราควบคุมอยู่
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
ทำไม ต้องทำ Business Facebook มีไว้ ทำไม? กับคำตอบ 5 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับมัน
ทำไม ต้องทำ Business Facebook มีไว้ ทำไม?
กับคำตอบ 5 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับมัน
เมื่อ 5-6 ปีก่อน คนที่เข้ามาขายของบนเฟสบุ๊ค
สิ่งที่ต้องทำ ก็คือ การเปิดเพจ และ ยิงแอด
ซึ่งใช้บัตรเครดิตของตัวเองในการทำงาน
ถ้าทำกิจการคนเดียว ก็ไม่มีปัญหาอะไร
เพราะเราดำเนินการได้เพียงลำพัง
แต่หากธุรกิจของเรา ใหญ่ขึ้น ต้องมีคนมาช่วยมากขึ้น
ตั้งแต่คนตอบคำถาม ไปกระทั่งคนมาช่วยยิงแอด
เฟสบุ๊คเลยพัฒนาระบบการทำงานร่วมกัน ที่เรียกว่า Business Facebook
ถึงแม้จะเปิดมานานแล้ว
หลายๆ คน ก็ยังไม่เคยใช้ หรือ ยังไม่รู้ว่าจะใช้ไปทำไม
เพราะ facebook profile ก็ ทำงานได้ดีอยู่แล้ว
ดังนั้น ผมเลยขอเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้อ่านกันอีกครั้งครับ
เน้นเอาที่ ใช้งานเอง แล้วเห็นข้อดี เลยขอแชร์ครับ
(ปล. ในบทความ จะมีเนื้อหาเชิงเทคนิคพอสมควร หากสงสัยตรงไหน สามารถ comment มาถามได้นะครับ)
1.เพิ่มคนเข้ามาร่วมทำงานใน Business เดียวกันได้
ก่อนหน้าที่จะรู้จัก Business Facebook เราคุ้นเคยกับการทำงานร่วมกันหลายๆ คนในเพจ
ถ้าจะทำโฆษณาในเพจ เราก็ต้องใช้บัตรเครดิตของใครของมัน เข้ามาทำการโฆษณาด้วยตัวเอง
เรียกว่าบัญชีโฆษณา ส่วนตัว
ถ้าสร้างเพจใหม่ ก็จะต้องเชิญใหม่ ทุกครั้งตลอดเวลา
แต่สำหรับ Business Facebook เราสามารถให้คนเข้ามาร่วมใน Business แค่ครั้งแรก แล้วใช้งานเพจร่วมกัน ใช้บัญชีโฆษณาร่วมกัน ได้เลยทันที ไม่ต้องเชิญมาหลายๆ ครั้ง
2.มีบัตรเครดิตใบเดียว ก็ใช้งานร่วมกันได้หลายคน
สมัยก่อน ถ้ายิงแอด Facebook ก็จะใช้บัตรเครดิตส่วนตัวในการยิงแอด
ถ้าใครทำงานบริษัท อาจจะต้องเจอกับปัญหา วันไหน ที่คนยิงแอด ไม่มา งานอาจจะไม่เดิน
เพราะต้อง login เฟสบุ๊คของคนยิงแอด
แก้ปัญหามาได้อีกหน่อย ก็ทำ เฟสบุ๊คส่วนตัว เป็นส่วนกลางของบริษัทเอาไว้ เพื่อเป็นตัวแทนของคนทั้งกลุ่ม แต่ก็ต้องสลับ account ไปมาอยู่ดี
แต่สำหรับ Business ทุกคน ที่เชิญเข้ามาทำงาน
ก็จะสามารถใช้บัตรเครดิตกลาง ของบริษัท ใบเดียวกันได้ เห็นรายงานโฆษณาเหมือนกันได้ โดยไม่ต้องสลับบัญชีไปมา
ลดปัญหา การเบิกค่ายิงแอดซ้ำซ้อน หรือ บางบริษัทคิดมาก ก็จะคิดว่า พนักงานพยายามรูดบัตรเพื่อเอาแต้มในบัตรไปแลกของใช้เองส่วนตัว (เรื่องจริง)
3.มีบัญชีโฆษณา ได้ 5 ตัว
โดยปกติแล้ว การทำบัญชีโฆษณาเฟสบุ๊ค 1 คนจะสร้างได้แค่ 1 ตัวเท่านั้น
แต่ถ้าเป็น Business Facebook เราสามารถ ทำเพิ่มได้มากสุดถึง 5 ตัวด้วยกัน
ทำไมต้องมี 5 ตัว
นั่นเป็นเพราะบัญชีโฆษณาแต่ละตัว ควรได้เรียนรู้ หรือ ทำโฆษณาในธุรกิจแบบเดียวกัน หรือ ประเภทเดียวกัน ไม่ควรแตกต่างกัน
เช่น ธุรกิจอาหาร ก็ควรใช้กับบัญชีโฆษณา ที่เป็นเรื่องอาหารเท่านั้น
ธุรกิจ อาหารเสริม ก็ควรใช้แต่บัญชีโฆษณา ที่เป็นเรื่องอาหารเสริมเท่านั้น
ไม่ควรนำมาปนกัน
4.แชร์ audience ภายใน business เดียวกันได้
เมื่อเรามี บัญชีโฆษณาหลายๆ ตัวใน Business เดียวกัน แล้ว
ข้อดีอีอย่างก็คือ เราสามารถ แชร์ Audience ของแต่ละ บัญชีโฆษณา ให้กันและกัน ไปใช้งานได้
Audience ที่ว่านี้ Custom Audience และ Look A like Audience
ประโยชน์ของการทำแบบนี้ ก็คือ
เวลาจะขยายงบโฆษณา ตัวที่สร้างรายได้ให้กับเราเยอะๆ
เราจะไม่เพิ่มเงินในลง โฆษณาตัวเดิมโดยตรง แต่จะ สร้างใหม่ แล้วให้มันทำงานไปพร้อมกับของเดิม ในบัญชีโฆษณาเดิม หรือ ไปสร้างใหม่ในบัญชีโฆษณาตัวใหม่
5.1 คนสร้างได้แค่ 2 Business
ข้อเท็จจริง อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ 1 Facebook Profile สร้าง Business Facebook ได้เพียงคนละ 2 Business เท่านั้น
ทำมากกว่านั้น ไม่ได้ (แม้ใจอยากจะทำ)
ถ้าอยากได้มากกว่านั้น ก็ต้องมี Facebook Profile เอาไว้มากกว่า 1 ตัวละครับ
อยากได้มากเท่าไร ก็คูณ 2 เข้าไป
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
ยกระดับ Up Skill ออนไลน์ ปรับตัวยังไงให้อยู่รอด ช่วงปิดเมือง
ในภาวะที่ทุกประเทศ ต้องปิดเมือง
นั่งทำงานที่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยง ในการติดเชื้อ
.
ทุกคนต้องใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปจากเดิม
หลายๆอาชีพ ไม่มีงานทันที ด้วยสิ่งที่ไม่คาดฝัน
แต่หลายๆคนยังอยู่ได้ ในวิกฤตินี้
เพราะมีวิถีทางบนโลกออนไลน์ รองรับอยู่
.
ทุกคนจึงหันหน้ามาทางออนไลน์
เพราะมันสามารถ ตอบโจทย์ได้
การสอน งานสอน ก็ผ่านระบออนไลน์
ซื้อของ ก็ผ่านออนไลน์
ซื้ออาหาร ก็ผ่านออนไลน์
ออกกำลังกาย ฟิตเนส ปิด ก็ดู live ผ่านออนไลน์
.
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดี ที่เราจะใช้เวลาที่ว่างมากขึ้นนี้ มาใช้ในการ Upgrade ตัวเอง
.
ผมเลยมองออกเป็นสองมุมครับ
มุมแรกคือ สำหรับมือใหม่ กับ มือเก่า
ดังนี้ครับ
.
Up skill สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยทำออนไลน์
1. มองให้ออก ว่าเรามีความถนัดเรื่องอะไร
ถ้าวันนี้ จะเริ่มต้นทำออนไลน์ อาจจะยังรู้สึกสับสน และพร้อมไปตามที่คนอื่นๆ บอกให้ทำ ไปขายอันนั้น อันนู้นสิ ดี รวย ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้ชอบ
ถ้าแบบนี้ คุณจะทำได้แป๊บเดียว แล้วก็ หยุด แล้วก็เลิกทันที เพราะคุณไม่ชอบ ไม่ถนัด มันฝืน
ดังนั้นควรคิดให้ออกว่า เราชอบอะไร ทำอะไร
เราจะทำได้แบบ คล่องแคล่ว เป็นธรรมชาติ
เวลานำเสนออะไร หรือขายอะไรไปแล้ว คนจะเชื่อคุณเพราะความเป็นธรรมชาติของคุณ
2.มองให้ออกว่าใครมีปัญหาและต้องการการแก้ปัญหาจากเรา
มีคนจำนวนมากที่มีปัญหา และรอการแก้ปัญหาจากสิ่งที่เราถนัดเสมอ
แต่ต้องมองให้ออกว่า คนเหล่านั้นคือใคร อยู่ที่ไหน ใช้ชีวิตอย่างไร
เพราะหากเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้
คุณจะสามารถ ถ่ายทอดสิ่งที่เขาต้องการ ได้อย่างแท้จริง
เพราะหากเข้าใจปัญหาของเขา
คุณจะถ่ายทอดในเรื่องที่เขาอยากรู้ ได้เสมอ
3.จะสื่อสารยังไง ให้คนเหล่านั้นรู้ว่าเราแก้ปัญหาให้เขาได้
หลังจากที่เรารู้ว่า เขาต้องการอะไร ขั้นตอนต่อไป คือการหาเครื่องมือสื่อสาร ไปยังกลุ่มคนเหล่านี้
เพราะคนแต่ละกลุ่ม ไม่ได้ใช้ facebook แค่อย่างเดียว
แต่เลือกใช้สื่อหลายแบบ
คนส่วนใหญ่ทั่วไป ยังใช้ facebook
ถ้าเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น ตอนนี้จะใช้ twitter instagram เป็นหลัก
คนที่พยายามแก้ปัญหา จะดูผ่าน google youtube
ลูกค้าที่เคยซื้อของเราแล้ว มักจะกลับมาซื้อผ่านช่องทาง LINE OA
เครื่องมือสื่อสาร ที่เราเลือกใช้ ในโลกออนไลน์ มีมากกว่า facebook
เพียงแต่จะเลือกใช้ตอนไหน
Up skill สำหรับมือใหม่ที่ทำออนไลน์มาแล้ว
1. ทำความเข้าใจเรื่องของ funnel ให้แน่นขึ้น
สำหรับคนที่ทำออนไลน์มาแล้วระยะหนึ่ง อยากให้ทำความเข้าใจ เรื่องของ funnel มากขึ้น เพราะจะทำให้เรา เข้าใจเรื่องการขายมากขึ้น
คนไม่ตัดสินใจซื้อตั้งแต่ครั้งแรก
แต่ต้องผ่านขั้นตอนเปลี่ยน จากคนแปลกหน้า มาเป็นลูกค้า หรือสาวก อันนี้ เราเรียกกันว่า sale funnel
ซึ่งการเปลี่ยนแต่ละขั้นตอนนั้น จะมีวิธีการที่แตกต่างกันไป
ไปอ่านแบบละเอียดได้นะครับที่ >> https://www.digitalnook.co/590/
2.มาทำความเข้าใจการยิง ads ให้แน่นกว่าเดิม
สำหรับการยิงแอด ที่เข้าใจง่ายที่สุด ณ ตอนนี้ ก็ยังต้องยกให้ เฟสบุ๊คเสมอ
บางครั้ง เราอาจจะใจร้อน และรีบทำแอด ยิงแอด
จนไม่ได้ลงรายละเอียด เพราะรีบขาย
.
ตอนนี้ มีเวลาแล้ว ลองย้อนกลับมาดู เกี่ยวกับโครงสร้าง
เกี่ยวกับพื้นฐาน ให้แน่นอีกครั้ง เพื่อให้รู้ถึงที่มา ที่ไป ของจุดประสงค์ต่างๆ
.
วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่เราไม่ค่อยได้ใช้ ก็ถึงเวลาแล้ว ที่จะลองใช้
เช่น
- reach ที่อาจจะละเลยไป ก็สามารถใช้ได้ เพื่อทำให้คนไม่ลืมเรา ในราคาที่ประหยัด
- conversion ถ้าไม่เคยทำ ก็ให้ไปลองทำ
- audience insight ตัวเช็ค interest ที่ดี ลองกลับมานั่งดู ว่าใช้งานยังไง
3. ทำหน้าบ้านดีแล้ว หลังบ้านต้องดีด้วย
บางคนที่ทำหน้าบ้าน ยิงแอด ได้ดีแล้วก็ควรจะมาใส่ใจ เรื่องของ ตัวเพจ ให้ดี
เพราะยิงแอดไป แล้วเข้ามาในเพจ ไม่มีอะไรที่ทำให้เขาเชื่อถือได้
- ขายอย่างเดียว ไม่ได้ให้ความรู้ ไม่ได้ให้คุณค่า
- ไม่มีตัวอย่าง ไม่มีรีวิว ที่สร้างความมั่นใจ
- ไม่มีอะไรที่บ่งบอกถึงความ เชี่ยวชาญ ของเราในสายงาน
และนี่คือ แนวคิดหลักๆ ที่อยากให้ได้ลองปรับใช้กัน
ถ้าวันนี้ ยังไม่ได้ปรับปรุง ได้เวลาแล้วครับ ที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้น
ไม่สายเกินไป สำหรับคำว่า การพัฒนาให้ตัวเองดีขึ้น
เป็นกำลังใจให้กัน ในวันที่ต้องอยู่บ้าน
Audience Insight : ยิงแอดตรงจุดมากขึ้น เพราะใช้ Audience Insight ทำได้แบบนี้นี่เอง
Audience Insight : ยิงแอดตรงจุดมากขึ้น เพราะใช้ Audience Insight ทำได้แบบนี้นี่เอง
.
เชื่อว่าทุกคนที่ ทำโฆษณาบนเฟสบุ๊ค
จะต้องประสบกับปัญหา เรื่องการหาความกลุ่มสนใจ ที่ใช่จริงๆ
ว่าเขาเหล่านั้น อยู่ตรงไหน?
.
มันเป็นความคลาสสิก นิรันดร์กาลจริงๆครับ
ถ้าจะให้เริ่มต้นกันง่ายๆ โดยยังไม่ต้องไปใช้เทคนิค เรื่อง Custom Audience หรือ Look a Like
ก็ขอแนะนำ เครื่องมือการตรวจสอบ interest หรือความสนใจ ที่เฟสบุ๊ค มีให้ใช้กัน
.
เครื่องมือนี้ เราเรียกว่า Audience Insight ครับ
.
มันเป็นเครื่องมือ ช่วยเราประเมินความสัมพันธ์ ความเกี่ยวข้องของ interst ที่เราคาดว่า
จะเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราจริงๆ
.
สมัยก่อน เราอาจจะมโนไปเอง
มโนได้ถูกต้อง ก็ ปัง ก็ลดค่าแอดได้
มโนผิดก็ไม่ปัง อืด ไปเลย ค่าแอดแรง!!
.
การใช้ Audience Insight มาเช็ค Interest จึงสมควรเป็นอย่างยิ่ง ก่อนจะทดสอบทำแอดเฟสบุ๊คครับ
.
มาทำความรู้จักกันเลย!!
.
วิธีการใช้งาน ก็ไม่ยุ่งยากครับ
ลองปล่อยใจ ไปกับแนวทางของเฟสบุ๊คกันเนาะ
.
เริ่มจากเข้าไปที่ หน้า ads manager ของเฟสบุ๊คก่อน แล้วทำการเลือกที่เมนู Audience Insight
.
เมื่อเข้าไปแล้ว ก็จะเจอหน้าตาสวยๆ และกราฟมากมาย หลายแท่งจ้า
ให้เราสนใจ ตรงด้านซ้ายมือเป็นหลักนะครับ
สิ่งแรกที่เราจะทำก็คือ การเลือกกลุ่มเป้าหมาย ที่เราสนใจ
นั่นคือ
– location / age and gender
สมมุติว่า เรากำลังขายของเล่นเด็ก ความสนใจของคนที่จะซื้อ ต้องเป็นกลุ่มคนที่เป็นพ่อแม่เด็ก ใช่มั้ยครับ
.
เราก็เลือกพื้นที่ก่อนเลยว่าเป็น thailand (อ้อ ขั้นตอนนี้ อย่าลืมลบ United states ที่เป็นค่า Default ก่อนนะครับ)
.
ส่วนอายุ ก็เลือกเป็น 30-45 (สมมุติว่าเป็นแบบนี้นะครับ)
เพศก็เลือกทั้งหญิง และ ชายไปเลย
.
อันดับต่อไป ก็คือ ใส่ interests ที่เราสนใจจะเลือกครับ
ใช้ทีละ 1 ก็พอครับ
.
เช่นเราจะใช้คำว่า “Pampers” ในการทดสอบ
หัวใจสำคัญที่เราจะใช้เช็ค ก็คือ ให้ดูตรงด้านขวา ที่เป็นคำว่า “Page Likes”
.
แล้วเลื่อนลงมาด้านล่าง
จะเห็นว่า นี่คือบรรดาเพจต่างๆ ที่กลุ่มเป้าหมายที่เราเลือกตามเงื่อนไขจากทางด้านซ้ายมือ
เขาชอบดูกัน
ลองดูครับ ว่า 10 เพจแรกที่เขาดูกันนั้น
มีความเกี่ยวข้องกับ สินค้า หรือ เนื้อหาที่เราต้องการให้เขาเห็นมั้ย?
ถ้ามีมากกว่า 5 ใน 10 เพจ
แสดงว่า interest นี่แหละ ใช่เลย!!
เก็บไว้
.
หรือถ้าจะดูข้อมูลอื่นๆ เพิ่มขึ้น เราก็จะเห็นในมุมอื่นๆ เพิ่มขึ้น
เช่น
– Demographic : จะบ่งบอกว่า กลุ่มคนเหล่านี้ เป็นเพศอะไร อยู่ช่วงวัยไหนเป็นพิเศษ ระดับการศึกษา ความสัมพันธ์ เป็นแบบไหน
– อาชีพการงาน : บ่งบอกหมดเลยว่า อยู่ในกลุ่มอาชีพใด มากกว่ากัน
Activity
กิจกรรมต่างๆ ของกลุ่มคนเหล่านี้ เขาทำอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็น
– การกดไลค์เพจ
– การคอมเมนท์เพจ
– การกดไลค์โพสต์ต่างๆ
– และที่สำคัญคือการกดคลิกดูโฆษณา
การใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ
– ใช้มือถืออย่างเดียว – มือกับเดสก์ทอปร่วมกัน หรือ ใช้มือถืออย่างเดียว ทั้งนี้เพื่อเอาไว้พิจารณาว่า เราจะเลือก placement แบบไหนดี
ประเภทของ Device ว่าเป็นรุ่นไหน แบบไหน
– iPhone android คนกลุ่มนี้ชอบใช้อะไร เราจะได้เลือก placement ได้โดนใจ ประหยัดค่า ads ไปอีก
โอย รู้เยอะได้ขนาดนี้ ก็เป็นไอเดียแจ่มๆ ในการที่จะลงมือทำโฆษณาในครั้งต่อไป ให้ดีกว่าเดิม!!
.
จะรออะไรล่ะ
ลุยเลย!!
.
สำคัญสุดๆ ณ จุดนี้ครับ
หากชอบบทความนี้ อยากให้ช่วยกันกดไลค์ กดแชร์ กดคอมเมนต์กันนะคร้าบ 😉
.
ติดตาม เฟสบุ๊ค
https://www.facebook.com/digitalnook
.
line @digitalnook
http://bit.ly/digitalnook-line
Look a like Audience โคลนนิ่งกลุ่มเป้าหมาย ได้ลูกค้าใหม่ เหมือนคนที่เราต้องการ
Look a like Audience โคลนนิ่งกลุ่มเป้าหมาย ได้ลูกค้าใหม่ เหมือนคนที่เราต้องการ
ผ่านกันไปแล้ว สำหรับ การเรียนรู้ เรื่องกลุ่มเป้าหมาย แบบ Core Audience และ Custom Audience
ใครที่ยังไม่ได้ผ่านหู ผ่านตามาแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้ไปอ่านกันนะครับ
เพราะว่าทั้งสองกลุ่มเป้าหมายที่ว่านั้น คือต้นกำเนิด ของกลุ่มเป้าหมายแบบนี้ นั่นเอง
สมัยก่อน เมื่อย้อนไปสัก 10 ปี
มีวิทยาการที่เรา ตื่นตาตื่นใจ กันแบบสุดๆ นั่นคือ การโคลนนิ่ง
เคยเห็นข่าวมั้ย ที่เขาโคลนนิ่งแกะ ออกมา เป็นข่าวฮือฮา
จนมีคนสร้างหนังแอ็คชั่นสุดมันส์ ออกมาหลายเรื่อง เกี่ยวกับการโคลนนิ่ง
พระเอกมีสองคน ซึ่งคนที่โดนโคลนนิ่งออกมา ดันมีนิส้ยเป็นตัวร้าย
เลยกลายเป็นหนังแอคชั่นมันส์ๆ ให้เราดูกัน
แต่นั่นคือเรื่องของจินตนาการ
เพราะการโคลนนิ่งในวันนี้ มีอยู่จริง และจัดให้โดย Facebook
Facebook ไม่ได้ทดลองสร้างแกะ หรือ มนุษย์ โคลนนิ่ง ให้ออกมาเหมือนต้นฉบับ
แต่ได้ โคลนนิ่ง กลุ่มเป้าหมาย ที่มีพฤติกรรม หรือ ความชอบ เหมือนกับกลุ่มเป้าหมายประเภท Custom Audience ครับ
อย่างที่ได้อธิบายไปว่า Custom Audience มาจากฐานข้อมูล และ พฤติกรรมของเขา
ซึ่งพฤติกรรมที่ดีงามสุดๆ นั่นคือ คนที่เข้ามาซื้อของจากเรา
ถ้าเราโคลนนิ่งกลุ่มเป้าหมาย ที่ชอบซื้อสินค้า หรือ บริการของเรา ได้
เวลายิงแอดออกไป ก็จะประหยัดลง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แต่กลุ่มเป้าหมายที่เราจะนำมาโคลนนิ่งนั้น ต้องดีด้วยนะเออ
ถ้ามาแบบมั่วๆ เราก็จะได้ ผลลัพธ์มั่วๆ เช่นกัน
การโคลนนิ่งนี้แหละ ที่เราเรียกว่า กลุ่มเป้าหมายแบบ Look a like Audience
(ที่มาของชื่อ ก็คือแบบนี้นั่นแล)
การโคลนนิ่ง กลุ่มเป้าหมาย ที่ดี จะสร้างจากกลุ่มเป้าหมายแบบ custom audience ประมาณ 1000 คนขึ้นไป
ซึ่งเราสามารถขยายออกมาได้เป็น 530,000 คน!
กำลังดีเลยนะครับเนี่ย!!
ดังนั้นครั้งต่อไป ถ้าเราจะยิงแอด ก็อยากให้ใช้เครื่องมือ กลุ่มเป้าหมายให้ครบครัน
เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้ว ล้วนดีเสมอ
หลักคิดที่ต้องจำไว้อย่างเดียว นั่นคือ
เราจะมีผลลัพธ์ที่ดีได้ ต้องเริ่มมาจากกลุ่มเป้าหมายตั้งต้นที่ดี เท่านั้น
หวังว่าบทความนี้ จะเป็นไอเดียให้เรา ไปทดลองทำกลุ่มเป้าหมายทั้งสามแบบ ให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี ต่อโฆษณาและกิจการของเรากันนะครับ
และที่สำคัญที่สุด
ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์
แล้วเจอกันครั้งต่อไป นะ 😉
Facebook
facebook.com/digitalnook
line @digitalnook
inbox
https://m.me/digitalnook
Youtube
https://www.youtube.com/channel/UCyQ_MC0JA3CYoA1bgkDpFow?sub_confirmation=1
custom audience กลุ่มเป้าหมาย กำหนดเอง ตามความพอใจ ทำได้แบบนี้นี่เอง
custom audience กลุ่มเป้าหมาย กำหนดเอง ตามความพอใจ ทำได้แบบนี้นี่เอง
หลังจากที่เราได้เรียนรู้ ทำความรู้จัก กับกลุ่มเป้าหมายหลักของ Facebook หรือ Core Audience ที่ได้กล่าวไปเมื่อวาน
ถ้าสนใจอยากเรียนรู้ ก็เข้าไปอ่านย้อนหลังกันได้นะครับ
เพราะเขียนให้เข้าใจกันแบบง่ายๆ
หากกลุ่มเป้าหมายหลัก หรือ core audience คือสิ่งที่ facebook จัดสรรมาให้ จากพฤติกรรมของคนใช้งาน facebook
กลุ่มเป้าหมายที่เรากำลังพูดถึงตอนนี้ ก็คือ
Custom Audience หรือกลุ่มลูกค้าที่ เราสร้างขึ้นมาเอง จากข้อมูลของลูกค้า
กำหนดเอง อยากทำอะไร ก็จัดไปเอง
ข้อมูลลูกค้า มีอะไรบ้าง ที่เราเอามาทำ Custom Audience ได้?
ข้อมูลที่เรานำมาทำ Custom Audience นั้นมีหลายแบบ ตั้งแต่
– การมีส่วนร่วมกับเพจของเรา
ไม่ว่าคนติตดามเพจของเรา จะทำอะไร จะคลิก จะดู จะกดอะไรก็ตามในเพจของเรา หรือแม้แต่การ inbox มาพูดคุยกับเรา
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นกิจกรรม ที่ทำให้รู้ว่าเขาชื่นชอบเรา หรือ มี engagement ร่วมกับเรา
หากใครมีกิจกรรมแบบนี้ ถือว่าเขาคือ Warm Market ที่สามารถ เปลี่ยนเป็นลูกค้าได้ไม่ยากแล้วจ้า!!
– อีเมล์ : อีเมล์ลูกค้า
จะดีแค่ไหน ถ้าเราเอาอีเมล์ของลูกค้ามาเป็นทำเป็นกลุ่มเป้าหมาย เพื่อยิงโฆษณาไปหาเขาได้
เพราะเรารู้แล้วว่า เขาชื่นชอบเรา การยื่นข้อเสนอ หรือ ทำให้เขาเห็นเราบ่อยๆ จึงทำให้มีโอกาส จะปิดการขายได้ง่ายขึ้น
เหมือนเพลง “น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันกร่อน”
เห็นบ่อยๆ เจอบ่อยๆ ถ้าไม่รำคาญกันไปเสียก่อน ก็จะ ซื้อเราเข้าสักวันแน่ๆ
แล้วทำไมอีเมล์ถึง ทำได้ล่ะ?
นั่นเป็นเพราะว่า การสมัครใช้ facebook ทุกคนจะต้องมี อีเมล์ หรือ เบอร์โทร อยู่เสมอ นั่นเอง
ถ้าข้อมูลอีเมล์ลูกค้า ตรงกับ facebook ละก็
เราก็จะได้กลุ่มเป้าหมายจากอีเมล์นั้นมาเลยจ้า!
(ถ้าเป็นเมล์องค์กร ไม่น่าจะทำได้นะ เพราะไม่ค่อยจะเห็นใครเอาเมล์องค์กรมาสมัครเล่น facebook!!)
– เบอร์โทร
เบอร์โทร ก็เป็นหลักการเดียวกับ อีเมล์ครับ ดังนั้นจึงเข้าใจได้ไม่ยาก
– การรับชม video
วิธีนี้ เป็นการไปรวบรวม เอาคนที่เคยดู video ของเรา ซึ่งยังแบ่งไปอีกว่า ดู 3 วินาที 5 วินาที หรือ 10% 20% ของเวลาทั้งหมดออกมาด้วย / คนที่ดู video ของเรานานๆ แสดงว่าเขาชอบ สิ่งที่เรานำเสนอ ดังนั้น จึงถือว่า เป็นการทำกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำมากขึ้น
ลองจินตนาการว่า ถ้าเราทำคลิปไก่ชนขึ้นมา คนที่ดูคลิปไก่ชนนานๆ แสดงว่าเขาต้องชอบมันจริงๆ
ถ้าเราทำโฆษณา ยาชูกำลังไก่ชน หรือ อะไรที่เกี่ยวข้องกับไก่ชน ไปหาคนกลุ่มนี้
เขาย่อมตอบรับสิ่งที่เราส่งไปให้ มากกว่าคนอื่นๆ
เห็นภาพมั้ยครับ?
– คนที่ inbox มาหาเรา
ถ้าเรามีคน inbox มาสักพันคน แล้วเราทำโฆษณาไปหาคนเหล่านี้อีกครั้งได้
เขาก็ย่อมมีโอกาส ที่จะซื้อของๆ เรามากขึ้นกว่าคนอื่นๆ จริงมั้ยครับ
แต่เด็ดกว่านั้น หากเพจของใคร ฟังก์ชันบรอดแคสท์ หรือยิงข้อความไปหาลูกเพจได้ละก็
ทำเลยจ้า!! อันนี้ ตรงๆ เนื้อๆ เน้นๆ
แต่อาจจะรำคาญได้ ถ้าคุณส่งแต่การขายของ
ดังนั้น เขาจึงมักส่งเนื้อหา ดีๆ ทีน่าสนใจไปแทน
ถ้าเป็นเรา มีแต่คนส่งโฆษณามาให้ เราจะยังกดไลค์ กดติดตามเพจนั้นหรือเปล่า?
จริงๆ ยังมีเรื่องของคนดู canvas แต่บ้านเราไม่ค่อยนิยมเท่าไร จึงขอไม่กล่าวไว้ ณ ที่นี้นะครับ
เพราะหลักการจะเหมือนกันหมดเลยจ้า
คนที่เคยเข้าเว็บไซต์ของเรา
– อันนี้ เป็นการสร้างกลุ่มเป้าหมายใน ขั้นสูงขึ้นมา ซึ่งคุณต้องมีเว็บ และต้องใช้งานร่วมกับสิ่งที่เรียกว่า pixel code ด้วย
จำเอาไว้ว่า มันเป็นเหมือนสปาย ที่จะเข้าไปเกาะติด คนที่เข้าเว็บคุณ
เข้ามา 1 คน ก็คือเกาะติดไป
เข้ามาอีก 1 คนก็เกาะติดไป
พอได้เวลาก็ส่งโฆษณาไปหาคนเหล่านั้นได้เลย
เหมือนตอนเราเข้า agoda booking lazada พอออกมา
ก็มีโฆษณาห้องพัก หรือสินค้าที่เราเพิ่งดู ใน facebook!!
และเด็ดสุดๆ เร็วๆนี้ facebook จะให้เราสร้าง custom audience จาก facebook group แล้ว
โดยมีข้อแม้ว่า คุณต้องเป็น admin ของ group นั้นนะ
แต่ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อมูลออกมามากนัก ผมเลยไม่สามารถจะเอาตัวอย่าง หรือ กล่าวได้มากกว่านี้ครับ
(หากทำได้จริงๆ มันจะเจ๋งมากๆ เลยนะครับ รอๆๆๆ เฝ้ารอกันไป May 2019)
พอเราได้กลุ่มเป้าหมายที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมต่างๆ นานๆ ของลูกค้ามาแล้ว หน้าที่ของเราก็คือ
การยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายนี้
ซึ่งสามารถเลือกได้จาก saved audience ใน Ad Set นะคร้าบ
เขียนมายืดยาวแบบนี้
ถ้าเข้าใจง่าย หรือ ไม่ค่อยเข้าใจ
สามารถ comment กันมาได้นะครับ
และที่สำคัญที่สุด
ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์
แล้วจะมา update เรื่องของกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ นั่นคือ
look a like audience จ้า
แล้วเจอกันครั้งต่อไป นะ 😉
.
Facebook
facebook.com/digitalnook
.
line @digitalnook
.
inbox
https://m.me/digitalnook
.
Youtube
https://www.youtube.com/channel/UCyQ_MC0JA3CYoA1bgkDpFow?sub_confirmation=1
หากลุ่มเป้าหมาย บน facebook ให้แม่นทำยังไง? คำถามยอดฮิต เฉลยแล้วที่นี่!!
หากลุ่มเป้าหมาย บน facebook ให้แม่นทำยังไง?
มาเลย! ตรงนี้ มีคำตอบ!
ถ้าวันนี้ยังหาไม่เจอต้องอ่าน!
สำหรับวันนี้ การทำโฆษณา facebook เริม่จะกลายเป็นเรื่องปกติ สามัญชน คนแบบเราๆท่านๆ ก็สามารถทำได้แล้ว
เพราะเป็นประชาสัมพันธ์ ขายของ ขายสินค้า บริการที่เร็วที่สุด
กินเงินง่ายที่สุด
ถูกที่สุด
แต่ปัญหาหลักๆ ของคนยิงแอด ที่จะพบบ่อยๆ นั่นคือ
หากลุ่มเป้าหมายไม่แม่น หรือ หาไม่เจอ
แล้วเขาเหล่านั้นไปอยู่ไหนกันล่ะ?
ถ้าอยากหา กลุ่มเป้าหมาย บน facebook ให้เจอ
อันดับแรก คือ เราต้องเข้าใจว่า สินค้าหรือบริการของเรานั้น
แก้ปัญหาให้กับใคร?
เพราะสินค้าแต่ละแบบ จะแก้ปัญหาได้ดีสุดๆให้คนบางกลุ่มเท่านั้น
มีดโกนหนวด ก็มีไว้สำหรับ ผู้ชาย
ผ้าอนามัย มีไว้สำหรับแก้ปัญหาให้ผู้หญิงที่มีประจำเดือน
แล้วสินค้าของเรานั้น ตอบโจทย์ให้กับใคร
เขาอยู่ที่ไหน ของประเทศ
เขาเป็นชายหรือว่าหญิง
อายุเท่าไร
ชอบทำอะไรเป็นพิเศษ
มีลูกหรือยังไม่มี
พฤติกรรมในชีวิต ของพวกเขาเป็นยังไง?
การที่เรานึกภาพออก จะทำให้เอามาระบุในสิ่งที่เรียกว่า adset ได้ถูกต้อง
adset คือกลุ่มตัวอย่างของคนที่เราจะส่งโฆษณาไปหาเขานั่นเอง
- เพราะ adset มีการระบุ location ของกลุ่มเป้าหมาย เป็นพื้นที่ ถนน ตึก ประเทศ
- เพราะ adset มีการระบุความสนใจพิเศษของเขาเหล่านั้น มีทุกแบบ ไม่ว่าจะรุ่นรถ มือถือ เพลง หนัง งานอดิเรกต่างๆนาๆ กินข้าว กาแฟ ชอบความสวย ความงาม
- ผิวพรรณ ความอ้วน ความงาม เพียบ!
- เพราะ adset มีเรื่องของอายุ มาเกี่ยวข้อง เราเลยเลือกช่วงวัยของกลุ่มเป้าหมายได้
- เพรา adset มีเรื่องของเพศ เราจึงเลือกที่จะส่งโฆษณาไปให้ ชาย หรือ หญิง หรือทั้งสองก็ได้
- เพราะ adset มีเรื่องของพฤติกรรม อย่าง ชอบไปเที่ยวบ่อยๆ ชอบช้อปปิ้ง ชอบซื้อของออนไลน์
- เพราะ adset มีเรื่องของช่วงชีวิต คนแต่งงาน ได้งานใหม่ เรียนจบ กำลังหมั้น หรือกำลังจะถึงวันเกิด
พวกนี้มีหมดเลยครับ เรียกว่า adset
ซึ่ง facebook จะเรียนรู้จากสิ่งที่เราหยุดดู สิ่งที่เรากดดู คลิกไปหา ใน facebook นั่นเอง
ไม่ต้องมาเขียนบอกว่า BigBike แค่กดรูปภาพ Bigbike เข้าเพจ Bigbike สักเว็บ
facebook ก็จะส่งสิ่งเหล่านี้มาให้เราตลอดๆ เพราะเข้าใจว่าเราชอบ!!
ดังนั้นจึงตรงกลุ่มความสนใจ อย่างแน่่นอน
นั่นคือ กลุ่มเป้าหมาย บน facebook เบื้องต้น ที่ facebook ช่วยเรา หามาให้
เราเรียกกันว่า “Core Audience”
แต่ะผลตอบรับจะดีมากน้อย แค่ไหน
มันขึ้นกับเนื้อหาที่เราส่งมอบไปให้ กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ด้วยนะ
ถ้าเราเขียน Content ได้ดี น่าสนใจ และถูกจริตกับพวกเขา
มันก็ทำให้เกิด engagement ที่ดีขึ้น มากขึ้น เพราะมันเกี่ยวกับเขานี่ ทำไมจะไม่หยุดดูล่ะ!!
ซึ่ง Content ที่ดี จำไว้เลยว่า
มันคือ เนื้อหาที่ส่งมอบประโยชน์ พูดถึงคุณค่าที่เขาจะได้รับ
มากกว่า ประโยชน์ ที่เราจะได้จากเขา!
บางคนเขียนแต่ คุณสมบัติ ประสิทธิภาพของสินค้า หรือบริการ
โดยไม่ได้อิงอ้างถึง ประโยชน์ที่เขาจะได้รับ
ก็ไม่ต่างจากกระดาษ อธิบายสรรพคุณสินค้า
ที่เราไม่ค่อยสนใจนัก
ดังนั้น ถ้าอยากหากลุ่มเป้าหมายให้แม่น กว่าเดิม
สิ่งที่จะต้องทำคือ ควรรู้ว่า
- สิ่งที่เราขาย สิ่งที่เราทำ มันแก้ปัญหาให้ใคร?
- ใครที่มีปัญหานี้อยู่?
- คนเหล่านี้ มีการใช้ชีวิต เพศ วัย อะไร ชอบอะไร มีจังหวะชีวิตแบบไหน?
หากเรารู้ทั้งหมดแล้ว
ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการทำโฆษณาของเรา!!
นี่คือ การหากลุ่มเป้าหมาย แบบ Core Audience
ซึ่งยังมี
– Custom Audience
– Look A Like
ที่มีความแตกต่างออกไป แต่น่าสนใจ และควรเรียนรู้ เอาไว้
หากจะมุ่งมั่นและ ใช้ชีวิตกับเส้นทางสายโฆษณา facebook!!
ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์!! เพื่อเป็นกำลังใจให้กันนะครับผม 😉
Facebook
facebook.com/digitalnook
.
line @digitalnook
.
inbox
https://m.me/digitalnook
.
Youtube
https://www.youtube.com/channel/UCyQ_MC0JA3CYoA1bgkDpFow?sub_confirmation=1