3 ข้อต้องเช็ค ไม่อยากเผาเงิน ค่าโฆษณาเฟสบุ๊คฟรีๆ ต้องระวังสิ่งนี้! (เจ็บมาแล้ว เลยมาบอก)
3 ข้อต้องเช็ค ไม่อยากเผาเงิน ค่าโฆษณาเฟสบุ๊คฟรีๆ ต้องระวังสิ่งนี้!
(เจ็บมาแล้ว เลยมาบอก)
3 ข้อต้องเช็ค ไม่อยากเผาเงิน
ค่าโฆษณาเฟสบุ๊คฟรีๆ ต้องระวังสิ่งนี้!
(เจ็บมาแล้ว เลยมาบอก)
การทำโฆษณาเฟสบุ๊ค สำหรับมือใหม่
สิ่งที่หลายคนกลัว ก็คือ เรื่องค่าใช้จ่าย
กลัวไปหมด ว่า ถ้าเริ่มยิงแอดไปแล้ว
จะโดนหักเงินไปแล้วมั้ย
ผมเองก็เป็นครับ
จำได้เลยว่า ครั้งแรกของการทำโฆษณาเฟสบุ๊ค
ผมทำให้กับบริษัทเก่า
มือไม้สั่นไปหมด ผิดพลาดไปนี่
ความบรรลัยมันเกิดขึ้นกับตัวเราแน่นอน
ต้องเอาเงินไปคืนบริษัทแหงๆ
ก็เลยต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ
โชคดี ที่เราค่อยๆ ทำโฆษณา
ใช้เงินแบบพอดีๆ พอเริ่มรู้มากขึ้น คราวนี้จะหลักหมื่น หลักแสน ก็สบายๆ
แต่แม้จะผ่านการทำโฆษณามามากมายแค่ไหน
ถ้าเราประมาท หรือ ดูไม่ดี
ก็มีวันพลาดได้ ดังนั้น เลยขอนำประสบการณ์ มาเล่าสู่กันฟัง ในบทความนี้ครับ
3 ข้อต้องเช็ค ไม่อยากเผาเงิน
ค่าโฆษณาเฟสบุ๊คฟรีๆ ต้องระวังสิ่งนี้!
(เจ็บมาแล้ว เลยมาบอก)
1.ดูวัตถุประสงค์ ให้ถูกต้อง
หน้าแรก ของการเริ่มทำโฆษณา มันคือ วัตถุประสงค์ นั่นเอง
หน้านี้ เลือกให้ดีๆ นะครับ ว่าคุณต้องการอะไรกันแน่
บางคนอยากให้เกิดการทัก แต่ดันไปเลือก การเข้าถึง
ก็ได้แต่สงสัยว่า ทำไมคนไม่ทักมาสักที
หรืออยากให้คนดู video เยอะๆ แต่ก็ไปเลือก Engagement แทน
ยอด view ก็ขึ้นน้อยกว่าที่เป็น
ดังนั้น ควรหยุดนิ่ง แล้วพิจารณาดีๆ ว่าเราเลือก วัตถุประสงค์ ถูกต้องมั้ย
ก่อนไปสู่กระบวนการต่อไป
2.เลข 0 ใครว่าไม่สำคัญ
เลขศูนย์ ใครๆ ก็มองว่าไร้ค่า
ยกเว้นว่า มันมาเรียงกัน อยู่หลังตัวเลข ในช่องงบประมาณ
เรื่องการใส่เงินทำโฆษณาเฟสบุ๊ค ก็เป็นอีกเรื่องที่พลาดกันบ่อย
เพราะ เราสามารถเลือกได้ว่า จะทำเป็นแบบ งบประมาณรายวัน หรือ ตลอดช่วงเวลาการทำโฆษณา
หลายครั้งที่เราอาจจะใส่ตัวเลขเพลินๆ แล้วเติมเลขศูนย์ เกินไป 1-2 ตัว
เช่นงบประมาณ วันละ 300 บาท แต่ใส่เป็น 30,000 บาท
ไม่ทันดู โฆษณาวิ่ง เออ ทำไมวันนี้ มันวิ่งดีจัง
หารู้ไม่ว่า เงินโดนกินไปแล้ว มากกว่า 300 บาท
พลาดแบบนี้ มันน่าเจ็บใจตัวเองครับ
ดังนั้น ต้องระวังการใส่เลข 0 ในช่องงบประมาณครับ
3.กำหนดวันเวลาเริ่มต้นสิ้นสุด
เคยคุยกับน้องคนนึง ขายของออนไลน์
ขายดีมาก จนของหมด
แต่ดันลืมกำหนด วันสุดท้าย ของการโฆษณา
ไปใส่งบประมาณโฆษณาต่อเนื่อง
มารู้อีกที ในวันที่บัตรเครดิตแจ้งเตือนตัดเงิน
อ้าว เงินค่าเฟสบุ๊คแอดนี่หว่า!!
ตกใจ รีบมาปิดโฆษณาแทบไม่ทัน
ดังนั้น ในหน้างบประมาณ ให้เราพิจารณา และตรวจหลายๆรอบว่า
งบประมาณทั้งหมด ของโฆษณาเรานั้น อยู่ภายใต้งบ ที่เราควบคุมอยู่
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
ไม่รู้จะขายอะไรดีในออนไลน์ ให้ทำแบบนี้
ไม่รู้จะขายอะไรดีในออนไลน์
ให้ทำแบบนี้
1 คำถามที่มักเจอเสมอก็คือ
ขายอะไรดีในออนไลน์
.
อาจจะมีหลายคำตอบ หลายแบบที่คุณเจอ
บางครั้ง อาจจะเป็นเรื่องของสินค้าขายดี ยอดนิยม แดงเดือด ก็ไม่ผิด
บางครั้ง อาจจะเป็นสินค้าที่ยังไม่มีคนขายเลย แล้วมีความต้องการสูง ก็ไม่ผิดครับ
.
ผมเลยอยากแชร์ อีกแนวคิดหนึ่ง
เพื่อเอาไปประยุกต์ใช้กันครับ
(ได้แนวคิดการจากอ่าน การเรียนรู้ และ ลองทำจริง
เลยอยากให้ลองนำไปทำกันดูครับ)
.
แนวคิดนี้ ให้มอง ที่ปัญหา ของคนแทนก่อนนะครับ
.
นั่นคือ ให้ดูจากสิ่งที่เราชอบ เราถนัด
และเป็นสิ่งที่แก้ปัญหาให้คนอื่นๆ ได้
.
ถ้าเราเริ่มจากตรงนี้ เราจะคิดต่อได้
เช่น คนเราอยากน้ำหนักตัวลดลง ทำยังไงได้บ้าง
- ออกไปวิ่งมาราธอน
- ออกไปฟิตเนส
- กระโดดเชือก
- กินอาหารคลีน
- กินผลิตภัณฑ์…
- ดูดไขมัน
- ผ่าตัดกระเพาะ
- เข้าคอร์ส กินอาหารแบบสุขภาพดี
เห็นมั้ยครับ ทางเลือกมีมากมาย
ถ้าคิดเรื่องสินค้า บางครั้ง เราอาจจะตัน
แต่ถ้าเริ่มจากปัญหา ทางแก้ไขมันเยอะ
แล้วทางเลือก จะมีมากขึ้นกว่าเดิม
ทางไหนที่เราชอบ หรือ แฮปปี้ จะเดินไป
มันจะทำให้เราอิน และ หลงรักกับการแก้ปัญหานั้น
พอเราหลงรัก และ ชอบวิธีการแก้ปัญหา
เวลามีใครมาขอความช่วยเหลือ หรือ ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
วิธีการพูดของเรา มันจะคล่องแคล่ว ตอบได้ทั้งวัน เป็นฉากๆ
มีความน่าเชื่อถือ
ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจซื้อ สินค้า หรือบริการจากคุณได้
ดีกว่าเดิมมั้ยครับ แนวคิดนี้?
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
6 เทคนิคลับ สร้าง”อับดุล” ให้ Content โฆษณา เน้นหยุดสายตา ด้วย กลุ่มเป้าหมายใน Facebook รู้แล้ว เอาไปทำได้เลย!!
6 เทคนิคลับ สร้าง”อับดุล” ให้ Content โฆษณา
เน้นหยุดสายตา ด้วย กลุ่มเป้าหมายใน Facebook
รู้แล้ว เอาไปทำได้เลย!!
.
ทุกวันนี้ บนเฟสบุ๊ค
มีเนื้อหามากมาย ให้อ่านมากมาย
แต่ละโพสต์ที่ได้รับความสนใจ ต้องสร้างแรงดึงดูดให้เข้าไปดูแบบสุดๆ
.
ต้องน่าสนใจจริงๆ
เกี่ยวกับรื่องที่เขาสนใจจริงๆ
เท่านั้น
คนถึงจะกดเข้าไปอ่าน
.
ยิ่งเป็นโพสต์ขายของ
โพสต์โฆษณา
ยิ่งต้องคิดเยอะๆ ว่า จะทำยังไง ให้คนมาซื้อ!
.
นอกจาก ภาพที่กระแทกตา
คำพูดโดนใจ ไปถึงปัญหาของคนอ่าน
.
จะดีกว่ามั้ย หากเนื้อหา ของโพสต์นั้น
เป็นเสมือน อัลดุล ที่รู้ไปหมด
ชายรู้จัก หญิงรู้จัก
.
สามารถบอกได้ว่า คนที่กำลังอ่านนั้น
เป็นชาย เป็นหญิง อายุเท่าไร
ใช้มือถืออะไร?
.
โอ ดูแล้ว มันหยุดสายตาจริงๆนะ
เพราะ เหมือนกับโดนเวทมนต์ออนไลน์ ร่ายคาถาใส่อยู่
แต่จริงๆ เคล็ดลับนี้ คุณเองก็ทำได้!
.
โดยใช้ การระบุ กลุ่มเป้าหมายใน Facebook นั่นเอง
ส่วนจะมีอะไรบ้าง มาดูกันลยครับ
.
1.อายุ
อันนี้ เป็นกลุ่มเป้าหมายมาตรฐานมาก ถือว่าเป็นขั้นเริ่มต้น
ในการทำโฆษณา
ถ้าโฆษณา ที่คุณเห็นมันบ่งบอกอายุ ของคนอ่านได้
อย่างน้อยๆ เขาก็จะสะดุด แล้วเช่น
เลือกช่วงกลุ่มเป้าหมาย เป็น 30-40 แล้วเขียน caption ว่า
- โปรพิเศษ สำหรับวัย (30+)
- สินค้าพิเศษ โดนใจ สำหรับชายวัยฉกรรรจ์ (30+)
2.เพศ
อันนี้ เป็นกลุ่มเป้าหมายมาตรฐานมาก ถือว่าเป็นขั้นเริ่มต้น
ในเมื่อเฟสบุ๊ค สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายโฆษณา เป็นเพศชายหญิงได้
เราก็ใช้ลูกเล่นนี้ ไว้ใช้สื่อสารกับ คนที่เห็นโฆษณานี้ได้
อย่างน้อยๆ ก็สร้างความสงสัยให้คนดูได้
ยกตัวอย่างเช่น
- สินค้าพิเศษ สำหรับสาวสวยอย่างคุณ
- เกิดมาเพื่อ ชายหล่อล่ำอย่างคุณ
- หล่อเหมือน 20 ปีก่อน น้ำยาละอ่อนที่คุณปรารถนา
3.วันเกิด
ข้อมูลนี้ สามารถนำไปทำการตลาดได้สนุกดีครับ
เพราะ facebook ดูจากวันเกิดของเราได้
และมักจะเตือนเราเสมอ เวลามีใครเกิดในเดือนนี้ หรือ วันนี้
เคยเจอมั้ย
เราสามารถเลือกได้ในแบบ
- คนที่มีวันเกิดในเดือนใดๆ เพื่อทำโปรโมชั่น ประจำราศี
- เพื่อนของคนที่เกิดในเดือนนี้ เพื่อให้เขามาซื้อสินค้าของเราไปฝากเพื่อนได้
- คนที่มีวันเกิดเดือนนี้ เพื่อ Promote โปรโมชั่นวันเกิด
4.สมาร์ทโฟน
ถ้าอยู่ดีๆ คุณสไลด์มือถือไป แล้วมีเคสที่ตรงกับรุ่น ของคุณใช้โผล่ขึ้นมา
ก็ดูน่าสนใจไม่ใช่น้อย
หรือใน content สามารถบอกได้ว่าสมาร์ทโฟนของคุณคือ Android หรือ iOS
ก็จะทำให้คุณสงสัย และหยุดอ่านโฆษณานั้นอีก
- เคส iPhone ที่คุณรอคอยมาถึงแล้ว!
- หน้ากากกันรอย ตระกูล Note มาแล้ว!!
5.Desktop
อีกกลุ่มเป้าหมาย ที่เราเลือกได้ ก็คือ
Device ซึ่ง Facebook มีให้เราเลือกได้สองแบบ คือ Mobile กับ Desktop
ถ้าเราเลือกให้เป็น Desktop อย่างเดียว
การแสดงผลของโฆษณา จะขึ้นที่ Computer อย่างเดียว
คราวนี้ ลองเอาไอเดียนี้ไปใช้ดู เช่น
- computer ที่ใช้อยู่ตอนนี้ แรงพอมั้ย
- มอง Comp นานๆ ตาลาย พักหน่อยมั้ย?
6.การอ่าน content ในหน้าเว็บ
กลุ่มเป้าหมายนี้ จะใช้เทคนิคมากขึ้นสักหน่อย
ไม่สามารถทำได้ทันที เพราะต้องมีการเก็บข้อมูลเพิ่มไปให้
ข้อมูลที่ว่านี้ ก็คือ ข้อมูลพฤติกรรม การเข้าดูเว็บไซต์ของเรา
ต้องติดตั้ง pixel ลงในเว็บของเราด้วย
ซึ่งพฤติกรรมที่น่าสนใจ ก็คือ
- คนเข้ามาในหน้าเว็บ
- อ่านบทความในหน้าเว็บนั้นไปแล้ว กี่ %
- เข้ามาอ่านในนั้นนานกี่วินาที
ถ้าเรารู้แบบนี้ สิ่งที่เราจะทำได้ก็คือ
ผมรู้นะ คุณแอบเข้ามาดู โฆษณาของผม ถ้าสนใจ อย่าดูอย่างเดียว ลองเลย
อ่านมานาน อยากรู้มากกว่านี้ ทักมาได้เลย!
รู้นะว่าแอบอ่านมาสักพัก
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
ยิงแอดครั้งต่อไป จะคุ้มค่ามากขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งนี้
ยิงแอดครั้งต่อไป จะคุ้มค่ามากขึ้น
ถ้าคุณทำสิ่งนี้
ทุกวันนี้ คนทำธุรกิจออนไลน์
ล้วนแต่ทำโฆษณา หาลูกค้าใหม่ๆ ตลอดเวลา
มียอดขาย มีรายได้เข้ามาเยอะๆ
เป็นสิ่งที่ดีครับ
แต่ถ้าวันใด วันหนึ่ง
โฆษณาโดนปิด บัญชีโดนปิด
รายได้จบทันที
ถ้านี่คือสถานการณ์ที่คุณกำลังเจออยู่
นี่คือความน่ากลัวครับ
จะดีกว่ามั้ย หากเราวางแผนเอาไว้
ให้ดี ก่อนจะยิงแอดครั้งต่อไป
“อย่ายิงแอด เพื่อหาคนใหม่ตลอดเวลา
แต่ให้เก็บฐานลูกค้าเก่าไว้ด้วย”
สิ่งที่ ผมถาม คนขายของออนไลน์เกือบทุกคน
แล้วได้คำตอบมาเหมือนกัน ก็คือ
“ไม่ได้เก็บ เบอร์โทร ที่อยู่ ข้อมูลลูกค้าไว้เลย”
โอ น่าเสียดายครับ
ดังนั้น เลยอยากบอกกับทุกคนที่กำลังขายของออนไลน์
หรือ ขายอยู่แล้ว
ควรเก็บข้อมูลลูกค้าเอาไว้ ให้ดีๆ นะครับ
ทำเป็นระบบ
ถ้ายังไม่อยากลงทุนมาก ก็ใช้ excel หรือ ถ้าจะแชร์ข้อมูลร่วมกันในกลุ่ม ในองค์กร ก็ใช้ google sheet
หรือหากต้องการทำให้เป็นระบบ
ก็จะมี software ที่เข้ามาช่วยจัดการ พวก order เหล่านี้ ได้
นอกจากจะจัดระบบได้แล้วยังสามารถ export ข้อมูลลูกค้ามาได้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ไม่ว่าจะเป็น x-commerce / ZORT เป็นต้น
(ใครอยากลองใช้ ก็สามารถไปสมัคร ใช้งานได้ฟรี ครับ 15 วัน)
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
ทำไม ต้องทำ Business Facebook มีไว้ ทำไม? กับคำตอบ 5 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับมัน
ทำไม ต้องทำ Business Facebook มีไว้ ทำไม?
กับคำตอบ 5 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับมัน
เมื่อ 5-6 ปีก่อน คนที่เข้ามาขายของบนเฟสบุ๊ค
สิ่งที่ต้องทำ ก็คือ การเปิดเพจ และ ยิงแอด
ซึ่งใช้บัตรเครดิตของตัวเองในการทำงาน
ถ้าทำกิจการคนเดียว ก็ไม่มีปัญหาอะไร
เพราะเราดำเนินการได้เพียงลำพัง
แต่หากธุรกิจของเรา ใหญ่ขึ้น ต้องมีคนมาช่วยมากขึ้น
ตั้งแต่คนตอบคำถาม ไปกระทั่งคนมาช่วยยิงแอด
เฟสบุ๊คเลยพัฒนาระบบการทำงานร่วมกัน ที่เรียกว่า Business Facebook
ถึงแม้จะเปิดมานานแล้ว
หลายๆ คน ก็ยังไม่เคยใช้ หรือ ยังไม่รู้ว่าจะใช้ไปทำไม
เพราะ facebook profile ก็ ทำงานได้ดีอยู่แล้ว
ดังนั้น ผมเลยขอเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้อ่านกันอีกครั้งครับ
เน้นเอาที่ ใช้งานเอง แล้วเห็นข้อดี เลยขอแชร์ครับ
(ปล. ในบทความ จะมีเนื้อหาเชิงเทคนิคพอสมควร หากสงสัยตรงไหน สามารถ comment มาถามได้นะครับ)
1.เพิ่มคนเข้ามาร่วมทำงานใน Business เดียวกันได้
ก่อนหน้าที่จะรู้จัก Business Facebook เราคุ้นเคยกับการทำงานร่วมกันหลายๆ คนในเพจ
ถ้าจะทำโฆษณาในเพจ เราก็ต้องใช้บัตรเครดิตของใครของมัน เข้ามาทำการโฆษณาด้วยตัวเอง
เรียกว่าบัญชีโฆษณา ส่วนตัว
ถ้าสร้างเพจใหม่ ก็จะต้องเชิญใหม่ ทุกครั้งตลอดเวลา
แต่สำหรับ Business Facebook เราสามารถให้คนเข้ามาร่วมใน Business แค่ครั้งแรก แล้วใช้งานเพจร่วมกัน ใช้บัญชีโฆษณาร่วมกัน ได้เลยทันที ไม่ต้องเชิญมาหลายๆ ครั้ง
2.มีบัตรเครดิตใบเดียว ก็ใช้งานร่วมกันได้หลายคน
สมัยก่อน ถ้ายิงแอด Facebook ก็จะใช้บัตรเครดิตส่วนตัวในการยิงแอด
ถ้าใครทำงานบริษัท อาจจะต้องเจอกับปัญหา วันไหน ที่คนยิงแอด ไม่มา งานอาจจะไม่เดิน
เพราะต้อง login เฟสบุ๊คของคนยิงแอด
แก้ปัญหามาได้อีกหน่อย ก็ทำ เฟสบุ๊คส่วนตัว เป็นส่วนกลางของบริษัทเอาไว้ เพื่อเป็นตัวแทนของคนทั้งกลุ่ม แต่ก็ต้องสลับ account ไปมาอยู่ดี
แต่สำหรับ Business ทุกคน ที่เชิญเข้ามาทำงาน
ก็จะสามารถใช้บัตรเครดิตกลาง ของบริษัท ใบเดียวกันได้ เห็นรายงานโฆษณาเหมือนกันได้ โดยไม่ต้องสลับบัญชีไปมา
ลดปัญหา การเบิกค่ายิงแอดซ้ำซ้อน หรือ บางบริษัทคิดมาก ก็จะคิดว่า พนักงานพยายามรูดบัตรเพื่อเอาแต้มในบัตรไปแลกของใช้เองส่วนตัว (เรื่องจริง)
3.มีบัญชีโฆษณา ได้ 5 ตัว
โดยปกติแล้ว การทำบัญชีโฆษณาเฟสบุ๊ค 1 คนจะสร้างได้แค่ 1 ตัวเท่านั้น
แต่ถ้าเป็น Business Facebook เราสามารถ ทำเพิ่มได้มากสุดถึง 5 ตัวด้วยกัน
ทำไมต้องมี 5 ตัว
นั่นเป็นเพราะบัญชีโฆษณาแต่ละตัว ควรได้เรียนรู้ หรือ ทำโฆษณาในธุรกิจแบบเดียวกัน หรือ ประเภทเดียวกัน ไม่ควรแตกต่างกัน
เช่น ธุรกิจอาหาร ก็ควรใช้กับบัญชีโฆษณา ที่เป็นเรื่องอาหารเท่านั้น
ธุรกิจ อาหารเสริม ก็ควรใช้แต่บัญชีโฆษณา ที่เป็นเรื่องอาหารเสริมเท่านั้น
ไม่ควรนำมาปนกัน
4.แชร์ audience ภายใน business เดียวกันได้
เมื่อเรามี บัญชีโฆษณาหลายๆ ตัวใน Business เดียวกัน แล้ว
ข้อดีอีอย่างก็คือ เราสามารถ แชร์ Audience ของแต่ละ บัญชีโฆษณา ให้กันและกัน ไปใช้งานได้
Audience ที่ว่านี้ Custom Audience และ Look A like Audience
ประโยชน์ของการทำแบบนี้ ก็คือ
เวลาจะขยายงบโฆษณา ตัวที่สร้างรายได้ให้กับเราเยอะๆ
เราจะไม่เพิ่มเงินในลง โฆษณาตัวเดิมโดยตรง แต่จะ สร้างใหม่ แล้วให้มันทำงานไปพร้อมกับของเดิม ในบัญชีโฆษณาเดิม หรือ ไปสร้างใหม่ในบัญชีโฆษณาตัวใหม่
5.1 คนสร้างได้แค่ 2 Business
ข้อเท็จจริง อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ 1 Facebook Profile สร้าง Business Facebook ได้เพียงคนละ 2 Business เท่านั้น
ทำมากกว่านั้น ไม่ได้ (แม้ใจอยากจะทำ)
ถ้าอยากได้มากกว่านั้น ก็ต้องมี Facebook Profile เอาไว้มากกว่า 1 ตัวละครับ
อยากได้มากเท่าไร ก็คูณ 2 เข้าไป
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
4 เรื่อง ที่คนจ้างยิงแอด 90% มักลืม ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องสำคัญมาก
4 เรื่อง ที่คนจ้างยิงแอด 90% มักลืม
ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องสำคัญมาก
สำหรับคนทำธุรกิจออนไลน์
ส่วนใหญ่ ถ้าไม่มีเวลาได้มานั่งทำโฆษณาด้วยตัวเอง
ก็มักจะจ้างเอเจนซี่ในการยิงแอดให้
ซึ่งส่วนใหญ่ จะดูผลลัพธ์สุดท้าย ปลายทางว่า
ลงเงินไปแล้ว คุ้มค่ามั้ย?
นั่นก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องครับ
แต่มีอีก 4 เรื่องที่ คนจ้างยิงแอดส่วนใหญ่จะลืม เพราะคิดไม่ถึง
หรือไม่คิดว่าจำเป็น
จากประสบการณ์ของผม ที่ได้พูดคุยกับ SME หลายๆ รายที่จ้างคนมาทำโฆษณาเฟสบุ๊ค
ผมขอสรุปให้ฟังดังนี้ครับ
1.Business เฟสบุ๊ค อยู่กับใคร
ปกติ การจ้างทำโฆษณา คุณอาจไม่ได้สนใจว่า เขาจะทำผ่านอะไร แต่ถ้าให้ดี คุณควรจะสร้าง Business ขึ้นมา แล้วอนุญาติ ให้คนที่คุณจ้าง มาเป็น Advertiser
เพราะคุณจะได้เห็นว่า ผลลัพธ์ของการทำโฆษณานั้น เป็นอย่างไร มีการใช้เงินไปเท่าไรแล้ว
Report เหล่านี้ มันจะ Update แทบจะ Real Time แล้ว
ที่สำคัญ คุณจะได้เห็นกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งข้อมูลกลุ่ม Audience ต่างๆ เพื่อใช้งานได้ในอนาคตได้ เป็น asset ของเรา
เพราะหากเราทำโฆษณาผ่าน Business อื่น พอเราเลิกจ้างแล้ว ข้อมูลต่างๆที่เคยมีอยู่
เราก็จะไม่สามารถนำมาวิเคราะห์ได้เลย
ปล.ทั้งนี้ขึ้นกับนโยบายของการทำงานร่วมกันกับคนที่เราจ้างด้วยนะครับ แต่ถ้าให้ดี ควรมี Business ของตัวเอง
2.ใครเป็น Admin Business บ้าง
หาก Business นั้นคุณเป็นเจ้าของ ต้องดูให้ดีๆ ว่า คุณได้รับสิทธิ์ เป็นใคร เป็น admin ที่ดูแลได้ทั้งหมด ใช่หรือไม่
การจะนำคนเข้าออกใน business การเพิ่มเพจ การสร้างบัญชีโฆษณา
คุณต้องมีสิทธ์นั้น
แม้คุณจะใช้เครื่องมือในนั้นเองไม่เป็นเลย!
และหากใครจะเข้ามาใน Business ของคุณ จะต้องมั่นใจแบบสุดๆ แล้วว่า เขาคนนั้นคือคนที่คุณเชื่อใจได้มากที่สุด
ถ้าวันนี้ คุณไม่ได้มีสิทธิ์อะไรเลยใน Business Facebook ของคุณเอง
ก็น่าเป็นห่วงมากๆ เลยนะครับ
3.Report ads เฟสบุ๊ค ควรเห็นอะไรบ้าง
เมื่อจ้างยิงแล้ว สิ่งจำเป็นอีกข้อ ก็คือ การดูรายงานโฆษณาของเฟสบุ๊ค
อาจจะมี รายงานระดับที่ผู้ประกอบการเข้าใจง่ายๆ อันนั้น ก็ถือว่าดีแล้ว
แต่ขอให้มีการวิเคราะห์ให้ฟังหน่อยว่า ตัวไหนดี หรือ ไม่ดี เพราะอะไร
ถ้าไม่ดี ควรทำยังไงให้ดี
ถ้าดี เพราะอะไรถึงดี
และหากการยิงแอดของคุณ คือการยิงเพื่อหวังยอดขาย สิ่งที่ต้องดูมากๆ ไม่ใช่ค่าแอดถูก หรือ ค่าต่อการทักถูกเท่านั้น
ต้องดูว่า Purchase หรือ การซื้อ ในการทักแต่ละครั้งนั้นเป็นเท่าไร
เพราะมันมีความหมายมาก ในการขยายผลตัวโฆษณาที่ดี ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
และถ้าตัวไหนไม่ดี ก็ไม่ต้องทำโฆษณาต่อ
4.กำไรต่อการโฆษณา และการขยายผล
ต่อจากข้อ 3 ถ้าเรารู้ว่า โฆษณาตัวไหนขายดี มีผลลัพธ์การซื้อที่ดี
ให้สังเกตุว่า ดีเพราะอะไร แล้วนำมาเป็นแนวทางการทำโฆษณาต่อไป
และขยายโฆษณาตัวที่ทำงานได้ดี ด้วยการสร้าง campaign ใหม่ที่ใช้ content เดิม แล้วทำออกไปหากลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ที่ใกล้เคียง เช่น
อายุ : เจาะจงให้แคบลงมาอีก > เช่น 25-45 อาจจะเป็น 30-34 ก็ได้
พื้นที่ : เจาะจงให้แคบลงไป จากทั่วไทย > ภาค > จังหวัด ก็ได้
สรุป
และทั้งหมดนี้คือ
4 เรื่องที่คนจ้างยิงแอด 90% มักลืม
ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องสำคัญมาก
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
สิ่งที่คนทำการตลาดออนไลน์ 90% ลืมทำ ทั้งๆ ที่ช่วยลดค่าแอดไปได้เยอะมาก!
สิ่งที่คนทำการตลาดออนไลน์ 90% ลืมทำ
ทั้งๆ ที่ช่วยลดค่าแอดไปได้เยอะมาก!
ทุกวันนี้ เวลาใครจะทำออนไลน์
ขายของ หรือ ขายบริการ
ก็จะนึกถึงการทำโฆษณาไว้ก่อน ทั้งยิงแอดเฟสบุ๊ค หรือ จะยิงแอด google
ไม่ใช่เรื่องผิดเลยครับ
ดีมากๆ ที่เราทำการตลาดหาคนใหม่ เพื่อให้รู้จักสินค้าของเรา
แต่สิ่งที่ผิดพลาดไป และไม่ค่อยมีใครมาบอกให้ทำ
ทั้งๆ ที่มันช่วยให้เราลดค่าแอดไปได้เยอะมาก
อยากรู้ว่าคืออะไร
มาอ่านต่อกันเลยครับในบทความนี้
“สิ่งที่คนทำการตลาดออนไลน์ 90% ลืมทำ
ทั้งๆ ที่ช่วยลดค่าแอดไปได้เยอะมาก!”
นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยครับ
แต่เป็นเรื่องที่เรานึกไม่ถึง
โดยเฉพาะคนที่ลงมาทำการตลาดออนไลน์ ในช่วงแรกๆ
ผมเองก็ยอมรับครับ ว่าเป็นมาก่อน
นั่นคือการทำโฆษณา หาลูกค้าใหม่ตลอดเวลา
โดยไม่ได้สนใจลูกค้าเก่า หรือ ฐานแฟนเลย!!
ถ้าคุณกำลังเป็นแบบนี้ ไม่ต้องกังวลครับ
ใครๆ ก็เป็นกัน
ผมเลยอยากให้ทุกคน ปรับวิธีคิดเล็กน้อย เพื่อทำให้ธุรกิจของคุณไปได้ไกลมากกว่าเดิม
นั่นคือ การเก็บรายชื่อลูกค้าครับ
รายชื่อลูกค้า สำคัญอย่างไร?
1.ไม่ต้องปวดหัวเวลา เฟสบุ๊ค เปลี่ยนอัลกอริทึม
ตั้งแต่ยิงแอดมา เราเจอ ความเปลี่ยนแปลงของ เฟสบุ๊ค และ google ไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
และทุกครั้งที่ปรับ ค่าโฆษณามักแพงขึ้นเสมอ และจะแพงไปเรื่อยๆ
ถ้าคุณไม่เคยสร้างฐานข้อมูลลูกค้าเก่า
คุณจะหาลูกค้าใหม่แพงขึ้นกว่าเดิม ตลอดเวลา ไปเรื่อยๆ
2.ลูกค้าเก่าซื้อง่ายกว่าลูกค้าใหม่
ลูกค้าเก่า ที่เคยซื้อสินค้าหรือบริการของเราแล้ว
ถ้าสินค้าของเราดี เขาจะกลับมาซื้อกับเราตลอด จนกว่าเขาคิดว่า อิ่มตัวแล้ว พอแล้ว จนหยุดไปเอง
จะเปิดการขายด้วยสินค้าใหม่ ก็ง่ายกว่า เพราะเขามั่นใจ และชอบสินค้าของเราแล้ว
ดังนั้น เมื่อมีของชิ้นใหม่มา ก็มั่นใจว่า ไม่ผิดหวัง
3.รายได้ของธุรกิจมาจากการซื้อซ้ำ
การกลับมาซื้อซ้ำ ของลูกค้าเก่านั้น ทำให้เราไม่ต้องเสียค่าโฆษณาเลย
เขาประทับใจ ชอบใจ ก็มาซื้อตลอด
ดังนั้น ให้รักษาลูกค้าเก่าเอาไว้ เพราะต้นทุนทำการตลาดกับลูกค้าเก่านั้นประหยัดกว่าการหาคนใหม่มาก
แล้วจะเก็บฐานข้อมูลยังไงดี?
ถ้าเป็นสมัยก่อน เราจะจดไว้ในสมุด กันใช่มั้ย?
หรือ ดีขึ้นมาหน่อย ก็เป็น excel file เพื่อนำมาประมวลผลได้
ดีขึ้นมาอีกนิด ก็คือ google sheets เพราะเปิดที่ไหนก็ได้
แต่ถ้าต้องการบริหารให้เป็นระบบ ลองไปเลือกใช้ บริการที่เราสามารถบริหารข้อมูลลูกค้าได้
มีหลายเจ้าเลยครับ ถ้าเห็นชัดๆ ก็มี xcommerce ที่น่าสนใจ ใช้งานไม่ยาก (มีค่าบริการรายเดือน)
หรือเอาง่ายๆ อย่าง myshop ระบบหน้าร้านออนไลน์ ที่ใช้ร่วมกับ LINE OA ก็มีฟีเจอร์ ดึงข้อมูล เบอร์โทร ลูกค้าที่เคยซื้อของกับเรา
ออกมาได้ด้วย (ได้ออกมาเป็น file excel)
และฐานแฟนที่อยู่ใน inbox เฟสบุ๊ค / LINE OA อันนี้ก็สำคัญเช่นกัน
เวลาเราต้องการนำเสนออะไรใหม่ๆ ให้กับเขา ก็สามารถ ทำได้เลย (ตามกฏเกณฑ์ ที่เขาวางเอาไว้)
สรุป
สิ่งที่หลายคน ลืมทำ นั่นคือ การเก็บฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อนำไปสร้างการซื้อซ้ำ อยู่ตลอดเวลา
ถ้ามีแนวคิดแบบนี้เกิดขึ้น และไม่ลืมทำ
มันจะช่วยลดค่าโฆษณาของเราลงไปมาก!!
ไม่ต้องกระหน่ำยิงแอดแต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป!!
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
3 เหตุผล ที่ลูกค้าจะไม่ซื้อของกับคุณ ถ้าลืมทำสิ่งนี้ในเพจ
3 เหตุผล ที่ลูกค้าจะไม่ซื้อของกับคุณ
ถ้าลืมทำสิ่งนี้ในเพจ
หลายคนมักจะบ่นว่า ยิงแอดแล้ว
ทำโฆษณาแล้ว ลูกค้ามาถึงหน้าเพจ
แต่ไม่ซื้อของเลย
เพราะอะไร?
ถ้าคุณกำลังเจอปัญหานี้
ลองอ่านเรื่องนี้ดูก่อนมั้ยครับ
เพราะมันน่าจะช่วยทำให้คุณ แก้ปัญหาคาใจ ที่ติดค้างมานานได้
กับ เรื่องนี้!!
“3 เหตุผล ที่ลูกค้าจะไม่ซื้อของกับคุณ
ถ้าลืมทำสิ่งนี้ในเพจ”
ก่อนเข้าเหตุผลที่ผมอยากกล่าวถึง ผมอยากให้คุณลองจินตนาการว่า
ตอนเราเปิดเฟสบุ๊คบนมือถือ แล้วสไลด์หน้าจอ ไปเจอโฆษณา สักตัวนึง
คุณทำยังไง
ถ้าไม่สนใจ ก็เลื่อนผ่านไป
แต่ถ้าสนใจ เราก็กดไปดูหน่อย
หลังจากนั้น ซื้อเลยมั้ย?
แน่นอนว่าไม่ได้ซื้อหรอก ณ ตอนนั้น
(ของที่จะซื้อเลย คือของที่เราเข้าใจ รู้จักมาก่อน หรือ เป็นสินค้าที่ไม่ต้องคิดเยอะ ซึ่งโอกาสยากมาก)
ก่อนเราจะซื้อ เราจะต้องเข้าไปดูในเพจเสียก่อน เพื่อดูว่า
เพจนี้ เปิดมานานหรือยัง
ทำอะไรมาก่อนบ้าง?
ขายอะไรกันแน่?
มีคนมาซื้อเท่าไรแล้ว?
ถ้าเราสำรวจดูแล้ว ไม่มีอะไร ตามที่กล่าวมา
เพจเพิ่งเปิด
หรือโพสต์ล่าสุด คือ เมื่อปีก่อน
แบบนี้เรายังอยากซื้ออยู่มั้ย?
คงไม่นะ
ลองกลับมาดูเพจเรากันครับ
ว่าเราลืมทำ 3 สิ่งนี้กันหรือเปล่า
มาเช็คกันเลย
1.ไม่ได้เขียน Content ให้คุณค่า
ให้ลองนึกภาพนะครับ ถ้าคุณขายอย่างเดียว
มีแต่ภาพสินค้า กับ สเป็ค และราคา โดยไม่ได้มี เนื้อหาที่บอกว่า สินค้าของเรา ช่วยแก้ปัญหา อะไรให้ใครได้บ้าง
มันก็ยากที่จะ ตัดสินใจซื้อนะครับ
เพราะขนาดเนื้อหาในโพสต์ เรายังไม่ตั้งใจทำเลย
ความเชื่อใจของลูกค้าที่ควรมีให้กับเรา คงไม่เกิด
Content คุณค่า คือ เนื้อหาที่มีประโยชน์ ซึ่งถ้าเราเขียนออกมาดี
มันหมายถึง ความเป็นผู้เชียวชาญ ในเรื่องที่ลูกค้ากำลังมองหาอยู่
เขาสามารถพี่งพาเราได้
นี่คือเหตุผล ที่ว่า ทำไมเราต้องทำ content ออกมาให้ลูกค้าได้อ่านกัน
ไม่ต้องทำทุกวันก็ได้ครับ
แต่ทุกโพสต์ที่ทำ ควรต้องมีคุณภาพ ให้คนอ่านได้รับประโยชน์เสมอ!
2.รีวิว หรือ โชว์ผลลัพธ์
การโชว์ผลลัพธ์ หรือ สิ่งที่เราตั้งใจทำแล้วมีคนชอบ คือ การสร้างความน่าเชื่อถือ ได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น เมื่อลูกค้าเก่า ที่ซื้อของ หรือ ใช้บริการของเราไป
สิ่งที่ต้องทำ คือ การขอ ภาพ หรือ video รีวิวการใช้งาน และ ขออนุญาตมาใช้ในเพจ
(จะนำมาขึ้นได้ เจ้าของต้องยินยอมเท่านั้นนะครับ ไม่ใช่ไปเอามาดื้อๆ)
และที่สำคัญ อย่า capture หน้าจอ chat ของ facebook หรือ instagram มาโพสต์
เพราะกฏเฟสบุ๊ค ถือว่าเป็นการอ้างอิงแพลตฟอร์มของ facebook มาโดยไม่ได้รับอนุญาติ
แต่ถ้า capture หน้าจอ line แบบนั้นได้นะ 😉
อีกอย่างก็คือปุ่ม review ในเพจ ถ้าคุณทำให้ลูกค้าประทับใจ เขาก็จะมารีวิวให้คุณอย่างดี
ซึ่งเป็นสิ่งที่ ทำให้คนกล้าตัดสินใจมากขึ้น ว่าจะซื้อของกับคุณหรือเปล่า
3.ความต่อเนื่อง สม่ำเสมอ
สิ่งนี้คือสิ่งที่พูดง่าย แต่ทำได้ยากเสมอ
เพราะ การจะทำเนื้อหาโพสต์ออกมา สักชิ้น มันช่างดูยากเหลือเกิน
แต่หากไม่ทำเลย คนที่เข้ามาดูในเพจ
พอไม่เห็นว่ามีการ update ก็จะพาลเข้าใจว่า คุณเลิกทำเพจไปแล้ว
แย่เลยคราวนี้!!
สรุป
ดังนั้น นอกจากจะมี เนื้อหาที่มีคุณค่า หรือ รีวิว ผลลัพธ์ดีๆ จากการใช้งาน
ความสม่ำเสมอ คือสิ่งที่ต้องมี
ลงมือทำครับ ฝืนให้เป็นนิสัย ต่อเนื่อง
จนกลายเป็นความเคยชิน ไม่ทำไม่ได้!!!
ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อธุรกิจของคุณเอง!!!
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
ข้อผิดพลาดของการยิงแอดเฟสบุ๊ค ที่คุณอาจคาดไม่ถึง
ข้อผิดพลาดของการยิงแอดเฟสบุ๊ค ที่คุณอาจคาดไม่ถึง
.
สำหรับคนที่เป็นมือใหม่ หรือ ยิงแอดมานานแล้ว
ทุกวันนี้ มองโฆษณาเฟสบุ๊คกันแบบไหนอยู่
.
ถามใครๆ ก็ต้องบอกว่า
ก็มองเป็นการโฆษณาสิ เออ ถามแปลกๆ
.
ใช่ครับ ก็เป็นการโฆษณา
ผมเองก็คิดแบบนั้นมาก่อน จนกระทั่ง ได้มาฟัง แนวคิด จาก อ.อั๋น เชิดพงศ์
เกี่ยวกับเรื่องการยิงแอดเฟสบุ๊ค ซึ่งประทับใจมาก จนอยากขอมาแชร์ให้กับทุกคนได้ฟังอีกครั้ง
ณ ที่นี้ครับ
.
อ.อั๋นเล่าให้ฟังว่า
ช่วงที่ทำเพจใหม่ๆ นั้น มีการยิงแอด เพื่อขายสินค้า
ยิงแอด 10,000 ได้ยอด เกือบล้าน
ก็รู้สึกแฮปปี้ ที่สามารถ ทำยอดขายได้เยอะ แต่ใช้เงินไม่เยอะ
.
และเมื่อไรที่ยิงแอดได้แล้วใช้เงินเยอะๆ
รู้สึกไม่แฮปปี้เลย เพราะเหมือนเราเอง ทำไม่ถูก หรือเปล่านะ
จะทำยังไง ให้มันกำไรเยอะๆ เหมือนเดิม
.
จนกระทั่ง ได้ไปสัมมนา ที่่ต่างประเทศ
และมีการได้คุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนชาวต่างชาติ
ซึ่งได้คุยถึงประเด็นนี้เช่นกัน
.
เมื่อฝรั่งรู้ว่า อ.อั๋นยิงแอดหลักหมื่น แต่สร้างรายได้หลักล้าน
ก็ตกใจ และถามว่า
“ถ้ายิงหลักหมื่นได้หลักล้าน ทำไมไม่ยิง สัก ห้าหมื่น หรือ แสนไปเลยล่ะ จะได้เงินเยอะกว่านี้”
.
อ.อั๋น ก็ถึงกับอึ้ง
และคิดย้อนไปในอดีตที่ยิงแอดมา
.
แล้วคิดในใจว่า
“ที่ผ่านมา ทำเงินหล่นหายไปเท่าไรกันเนี่ย!!”
.
เรื่องนี้ประทับใจผมมาก
เพราะเป็นเรื่องที่ผมคิดไม่ถึงเหมือนกัน
.
ผมก็ยอมรับว่า ผมก็เคยเป็นแบบนั้น
ทำยังไงก็ได้ ให้น้อยแต่ได้มากที่สุด
.
และคนอื่นๆ ก็น่าจะเป็นแบบนี้เช่นกัน
.
ทุกครั้งที่ยิงแอด ถ้ายิงแอด 300 บาท ได้ 400 บาท ก็ถือว่ากำไรแล้ว
เพราะหากสินค้า หรือบริการของเราดีจริง
.
สุดท้าย เขาจะกลับมาสั่งซื้อ ใช้บริการเราเองอย่างต่อเนื่อง
เรียกว่า customer value lifetime
.
ดังนั้น ให้มองว่า การยิงแอด
คือการลงทุน ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย
.
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
3 เรื่องต้องเช็ค หลังทำโฆษณาเฟสบุ๊คไปแล้ว ไม่อยากจ่ายค่าแอดฟรี ต้องอ่าน
3 เรื่องต้องเช็ค หลังทำโฆษณาเฟสบุ๊คไปแล้ว ไม่อยากจ่ายค่าแอดฟรี ต้องอ่าน
คนทำธุรกิจ ขายของ ขายบริการ
บนเฟสบุ๊ค
เมื่อทำโฆษณาแล้ว หรือ ที่เข้าใจกันในคำว่า ยิงแอด
หลังจากกดให้โฆษณาขึ้นไปโผล่สู่สายตากลุ่มเป้าหมายแล้ว ปั๊บ
เรื่องจะไม่จบแค่นั้น!!
เพราะมีเรื่องที่เราต้อง ตรวจสอบ หรือ เช็คสุขภาพโฆษณาของเรา
หลักๆ 3 ข้อด้วยกัน
อันนี้เขียนจากประสบการณ์ แล้วกันนะครับ ที่ทำมาเป็นแบบนี้
1. โฆษณาไม่วิ่งเลย!!
เอ้า พอกดให้โฆษณาทำงาน แต่ทำไม มันไม่ทำงานล่ะครับ
อันนี้ ให้เช็คว่าสถานะของมันอยู่ตรงไหน บางครั้ง ถ้าคนที่เปิดบัญชีโฆษณามาใหม่ โฆษณาจะอนุมัติช้า
ให้รออการอนุมัติไปครับ
ถ้าอนุมัติแล้ว ก็ต้องเช็คว่า มันขึ้นแสดงว่าทำงานอยู่ หรือ Active
ถ้าทำงานอยู่ ก็แล้วไปครับ แต่บางครั้ง ทำงานไปแล้ว ก็หยุด และบางที ก็หาไม่เจอด้วย
อันนี้ อาจจะเป็นไปได้ ว่า โฆษณาถูก reject คือ ไปผิดกฏอะไรสักอย่างของ เฟสบุ๊คครับ แบบนี้ ให้เช็คละเอียดหน่อย
เพราะเป็นเรื่องอ่อนไหว
ถ้าผิดบ่อยๆ จะโดนปิดบัญชีได้
2.โฆษณาวิ่ง แต่คนไม่ทักเลย!
เอาล่ะ โฆษณาวิ่งแล้ว มี Reach มีการเข้าถึง แต่ว่า ไม่มีคนคลิก คนทักมาเลย
ทำไงดีแก!!
ถ้าเป็นแบบนี้ แนะนำว่า ให้ไปแก้ไขสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้
2.1. ไปแก้ภาพ : ภาพดึงดูดใจมากพอหรือเปล่า สะดุดตามั้ย หรือขนาดเรายังไม่มองเลย แบบนี้ ให้เปลี่ยน
2.2. แก้ caption : คำพูดที่เราเขียน อ่านแล้ว อยากหยุดตั้งแต่ครั้งแรกเลยมั้ย ถ้าไม่ ไปเขียนใหม่ หาอะไรที่มัน เข้าประเด็นเร็วๆ หรือ เออ คำนี้ โดนเลย
2.3. เช็ค call to action : ส่วนใหญ่ อยู่ด้านท้ายของคำพูดทั้งหมดเสมอ เรามาดูกันว่า ได้บอกให้คนทำอะไร หลังจากอ่าน มาทั้งหมดหรือเปล่า เช่น ทักแชท โทร กดคลิกลิงค์นี้ ได้ทำมั้ย ถ้ายัง ให้ไปทำซะนะครับ
3.คนทักมา แต่ไม่ซื้อ!
อะ ทักมา แต่ไม่ซื้อ มีอยู่หลายสถานการณ์ นะครับ
3.1 ทักมาอย่างเดียว ส่งข้อมูลไป ไม่อ่าน : อันนี้ กดพลาด เป็นเรื่องปกติของ facebook
3.2 ทักมาถาม ส่งข้อมูล อ่าน แต่ถามไปก็ไม่ตอบ : อาจจะเป็นการระดมส่งข้อมูลอย่างเดียว จนไม่ได้เปิดช่องให้คุยกัน ลองหาตัวเปิดบทสนทนา ที่จะเข้าถึงตัวเค้ามากขึ้น เช่น เคยใช้สินค้าแบรนด์ไหนมาก่อน / อยู่จังหวัดอะไร / ปกติกินแบบไหน ส่วนใหญ่ ถ้าเจอคำถามนี้ มักจะคุยกันต่อไปได้
3.3. ทักมา ถาม ขอข้อมูล นิดๆหน่อยๆ แล้ว เหมือนจะซื้อ แต่ ไม่ซื้อ : อาจจะเป็นเพราะ เขายังไม่เล็งเห็นถึงประโยชน์ หรือ ความคุ้มค่าที่จะได้จากเร
3.4. ทักถามทุกอย่าง ถามจนเหนื่อย แต่ไม่ซื้อ : ถ้าแบบนี้ ให้ทำใจ ครับ ปล่อยผ่าน แล้วเดินหน้าต่อ
สรุป
และนี่คือ
3 เรื่องต้องเช็ค หลังทำโฆษณาเฟสบุ๊คไปแล้ว
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook