เทคนิคเปลี่ยนข้อความ เปลี่ยนภาพของโพสต์เฟสบุ๊ค ที่โฆษณาไปแล้ว ทำได้แบบนี้นี่เอง
เทคนิคเปลี่ยนข้อความ เปลี่ยนภาพของโพสต์เฟสบุ๊ค ที่โฆษณาไปแล้ว ทำได้แบบนี้นี่เอง
.
ปัญหาอีกอย่าง ที่หลายๆ คนสงสัย
นั่นคือ ทำโพสต์บนเพจ แล้วทำการโฆษณาจนผ่านการ approve จากเฟสบุ๊คแล้ว
แต่เผอิญว่า มีบางอย่างต้องแก้ไขเล็กน้อยแล้วค่อย boost ต่อ
.
พอจะกด edit ก็หาที่ edit ไม่เจอ
ซึ่งอันนั้น เป็นเรื่องปกติที่เฟสบุ๊คกำหนดไว้อยู่แล้ว
.
แล้วทำยังไงดีล่ะ
.
อันที่จริง เทคนิคนี้ ไม่ใช่เทคนิคที่ยุ่งยาก หรือ ล้ำสมัยแต่อย่างใด
แต่หากใครไม่เคยทำ อาจจะต้องเสียเวลา กับการปรับแต่งด้วยตัวเอง
.
ถ้าอยากหาทางลัด ก็ให้อ่านตามคำแนะนำในโพสต์นี้ได้เลยครับ
(ย้ำว่า เทคนิคนี้ สำหรับการทำโฆษณาจาก existing post ครับ ถ้าเป็นแบบ create ads ขึ้นมาใหม่ วิธีนี้ไม่จำเป็นเลย)
.
1.ไปที่ campaign ที่เราต้องการปรับ
เลือก campaign ที่เราโฆษณาผ่านแล้ว แต่อยากปรับเนื้อหา หรือ เปลี่ยนภาพ
แล้วไปคลิกไป edit ad
2.เปลี่ยน ad ที่กำลังแสดงผล เป็นโพสต์อื่นในเพจแทน
ทำการ edit ad ที่แสดงผลตอนนี้ โดยเลือกโพสต์อื่นๆ มาโฆษณาแทนชั่วคราว
ด้วยการกดปุ่ม change post
3.ทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เราต้องการเปลี่ยน
เมื่อเราเลือกโพสต์อื่น มาโฆษณาแทนแล้ว ตอนนี้ เมื่อคลิกขวาที่โพสต์ เราก็สามารถแก้ไข ข้อความ แก้ไขภาพ ได้ตามปกติ แล้วครับ เปลี่ยนเลย!
4.กลับไปที่ campaign เดิมเพื่อเลือกโพสต์ที่ได้รับการแก้ไขแล้วมาโฆษณาต่อ
แก้ไขจนพอใจ ไม่มีอะไรติดค้างแล้ว ก็ให้ไปที่ campaign โฆษณาเดิม แล้ว เลือกไปถึงระดับของ ad
เลือกโพสต์ที่เราแก้ไขไปเรียบร้อยแล้ว ให้มาเป็น ad ของ campaign เหมือนเดิม
ถือเป็นอันจบ
อ้อ หลายๆ ท่านที่เพจ มีโพสต์เยอะ
จนบางครั้ง เลื่อนมองหาโพสต์ไม่เจอ
ให้ไปจด ID ของ post ไว้นะครับ เราใช้เลข ID ของโพสต์มาระบุเลย
จะได้โพสต์นั้นขึ้นอย่างรวดเร็ว
.
ถ้าแอดนี้ วิ่งไปจนจบแล้ว
จะไม่สามารถแก้ไขได้
ทางเลือก ก็คือ กดเพิ่มวันแสดงผลโฆษณา
หรือ ลบไปเลย (ถ้าไม่มีปัญหา เรื่องการเก็บ report ไปให้ใครดู)
.
หากคิดว่าเทคนิคนี้ น่าจะได้นำไปใช้ในอนาคต
หรือว่า อยากให้เพื่อนๆ ได้อ่าน
แชร์ได้เลยนะครับ 😉
ไม่เก็บเงิน 555
.
#digitalnook
5 เคล็ดลับ มัดใจลูกค้าให้ติดหนึบ หลังปิดการขาย!!
5 เคล็ดลับ มัดใจลูกค้าให้ติดหนึบ หลังปิดการขาย!!
.
ลูกค้า กว่าจะหามาได้สักคนนึง
ต้องแลกกับค่าโฆษณา ค่าอินเตอร์เน็ต
เวลาที่เราพูดคุยกับเขาจนจบ
.
จะดีกว่ามั้ย หากเขาจะกลับมาซื้อซ้ำ
สินค้าของเราอีกครั้ง
หรือ ซื้อแล้ว ซื้ออีกเรื่อยๆ
.
นั่นคือความประทับใจ
แต่จะทำให้เขาประทับใจอย่างไรกันดีล่ะ
.
วันนี้เลยขอมาแชร์ เคล็ดลับดีๆ
ที่คนขายของดีๆ เขาทำกัน
บางท่านที่ใช้เทคนิคนี้อยู่แล้ว ก็ถือว่าดีเลยครับ
แต่ถ้าใครที่ยังไม่เคยทำ
ลองไปใช้กันดูจ้า
เอาล่ะ มาดูกันเลย
1. แจ้งสถานะการส่ง ทุกครั้ง
เพราะ การซื้อของออนไลน์ หรือ ใช้บริการออนไลน์
คนอยากรู้ว่า ของจะมาถึงตัวเองเมื่อไร
หัวใจมันร่ำร้องบอกว่า
มาเร็วๆๆๆ
.
สมัยนี้ ระบบ tracking ต่างๆ ของบริษัทขนส่ง หรือ Logistic นั้น
ตรวจสอบกันได้ทุกระยะ อยู่แล้ว
.
การส่งเลข EMS หรือ tracking number ให้ลูกค้าโดยไม่ต้องบอก
จะสร้างความเชื่อมั่น อุ่นใจให้ลูกค้า ว่าได้รับของแน่นอน
.
เหมือนที่เราเห็นใน shopee lazada ต่างๆ แหละครับ
(ใจคนคอย มันเต็มไปด้วยความหวังนะ 😉
.
2. การแนบโบรชัวร์ สินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไปให้
เมื่อกล่องสินค้า ไปถึงมือลูกค้าแล้ว
ความตื่นเต้นจะบังเกิด กับลูกค้า
เขาจะแกะกล่อง เพื่อตรวจสอบ สำรวจสินค้าทันที
.
ดังนั้น เขาจะสนใจ ของทุกอย่างที่อยู่ด้านในเสมอ
นี่คือโอกาส ในการขายของเพิ่มเติม
.
กระดาษสักใบ ที่แสดงสินค้าอื่นๆ ที่คุณมีอยู่พร้อมราคา
คือการเพิ่มยอดให้คุณ!!
.
เสียค่าแอดแล้ว กระดาษ 1 ใบ ราคาถูกกว่าค่าแอดอีกนะครับ
.
3. การให้ส่วนลด เมื่อซื้อครั้งต่อไป
ข้อเสนอสำหรับคนพิเศษ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ
เราจึงขอมอบส่วนลดในการซื้อสินค้าครั้งต่อไป ในร้านเรา
เพียงแสดงโค้ดนี้มาด้วย
.
แม้เขาจะไม่ได้ซื้อในทันที
แต่ครั้งต่อไป เขาจะนึกถึงเรา เป็นลำดับต้นๆ
.
ส่วนลดกับลูกค้าที่เคยซื้อของจากเราไป
กับยอดขายที่เพิ่มขึ้น ในระยะยาว
ผมว่าคุ้มค่านะครับ
.
4. การให้ของแถมเล็กๆน้อยๆ กับ ลูกค้า
ของที่ระลึก หรือ ของแถม ที่มีประโยชน์กับเขา
สอดคล้องกับสินค้าของเรา
จะทำให้ลูกค้าจดจำ เราได้เสมอ
.
จดจำได้ว่า เคยซื้ออะไรจากเรา
จดจำได้ว่า เรามีความใส่ใจ ให้ลูกค้า
.
อย่างผมซื้อที่ชาร์จ กล้องถ่ายภาพมาจากเพจขาย Battery แห่งหนึ่ง
สิ่งที่เขาทำได้ดี คือการแถมผ้าเช็ดเลนส์ มาให้ด้วย
ซึ่งติดโลโก้ของแบรนด์มาเรียบร้อย
.
ทำให้ทุกครั้งเวลาเช็ด ผมจะเห็นโลโก้ของเขาตลอด
และหากผมไปเช็ด ตอนไปเที่ยว
.
เพื่อนๆ ก็จะเห็น และ รู้จักแบรนด์ไปในตัว
โดยที่ไม่ต้องเสียค่ายิงแอดเลย
.
5. การเข้าไปทักทายต่อยอดกับลูกค้า เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
เมื่อสินค้า ถึงมือแล้ว
การเข้าไปสอบถาม พูดคุยแสดงความเป็นกันเอง บ้าง
จะทำให้รู้สึกดี ว่าเอาใจใส่
.
ฝั่งคนขาย ก็จะมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า
อะไรดี อะไรไม่ดี
ต้องไปปรับปรุงตรงไหนบ้าง
.
และหากรักษา ความสัมพันธ์ได้ดี
การซื้อครั้งต่อไป ก็ไม่ยาก
.
เอาล่ะ
นั่นคือ 5 เคล็ดลับ ที่มัดใจให้ลูกค้าติดหนึบ
หลังจากปิดการขายเรียบร้อยแล้ว
.
ลองไปใช้กันดูนะครับ
.
อ้อ ที่สำคัญที่สุด
เมื่อมีลูกค้าที่ปิดได้แล้ว
.
การเก็บข้อมูลลูกค้าของเราเอาไว้
คือสิ่งสำคัญที่สุด นะครับ
เพราะนี่คือ ทรัพย์สินที่มีค่าสุดๆ ของเรา
.
อย่าทำหายนาจา
เอาไปทำการตลาดภายหลัง
จะโทรหา หรือ SMS ไปบ้าง
ก็ไม่ว่ากัน
.
ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ เป็นกำลังใจให้บ้างนะจ๊ะ 😉
.
#digitalnook
7 เทคนิค เสกโพสต์ ให้ขายดี มีอยู่จริง เพียงทำสิ่งนี้!
7 เทคนิค เสกโพสต์ ให้ขายดี มีอยู่จริง เพียงทำสิ่งนี้!
อยากขายดีในออนไลน์
ก็ลอกตัวอย่างร้านขายดีในโลกแห่งความจริง
.
อยากให้โพสต์ขายของน่าสนใจ
ต้องสร้างบรรยากาศให้คนมุง
เหมือนร้านที่ขายดี ในห้างต่างๆ
เหมือน้รานอาหารอร่อย ที่เขาขายดี เป็นเทน้ำเทท่า
.
ว่าแต่จะทำยังไงดีล่ะ
อยากรู้มาอ่านกันเลย!!
.
ก่อนอื่น ถ้าอยากจะมี โพสต์ขายดี
ดูดี แบบนี้ได้ ต้องเตรียมการ เตรียมใจ
และเพียรทำสิ่งนี้ อยู่เป็นประจำนะครับ
.
1.ภาพและเนื้อหาในเพจ ต้องดีก่อน
หากจะลงโพสต์ หรือ โฆษณาให้คนเข้ามาเห็นสินค้า หรือบริการของเราเยอะๆ
ภาพ และ เนื้อหาต่างๆ ที่อยู่ในเพจของเรา จะต้องดูดี
อ่านเข้าใจง่าย และ สอดคล้องกับสิ่งที่เรานำเสนออยู่
.
ถ้าคลิกโพสต์โฆษณาเข้ามา แล้วเจอแต่เพจโล่งๆ
ก็น่าจะลดความน่าเชื่อถือไปได้เยอะเลย
.
ดังนั้น ทำ Content ขึ้นไว้ในเพจสัก 4-5 โพสต์ ให้คนรู้ว่า เราทำอะไร เพื่ออะไร หรือ แก้ปัญหาให้ใครได้บ้าง
ด้วยนะครับ
2. รีวิวในเพจ มีหรือยัง?
การจะตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่างในเพจ คนอ่าน คนเข้ามา ก็อยากเห็นผลลัพธ์ ก่อนเสมอ
เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ
.
ถ้ามี content รีวิว โชว์ความสำเร็จของลูกค้า หรือ ผู้ใช้ก่อนหน้านี้
จะทำให้คนเข้ามาดูเพจของเรา อยากทดลอง อยากซื้อเร็วมากขึ้นกว่าเดิม
.
อันนี้ หมายรวมถึงรีวิวของเพจ ด้วยนะครับ
หากมีมากเท่าไร ก็หมายถึงคนที่ใช้บริการ คนที่ซื้อสินค้าของเราเยอะด้วย
.
พลังดาวรีวิวนั้นสำคัญนักแล!!
.
3. คนคอมเมนต์ในโพสต์ คึกคักขนาดไหน
บรรยากาศ ร้านขายดี หรือ ที่เที่ยวน่าไปในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น เป็นอย่างไร
บรรยากาศ คนสอบถาม คนพูดคุยกันในโพสต์ขายของนั้น ก็ควรจะเป็นในแนวทางเดียวกัน
.
คนถามไถ่ แล้วมีคนตอบ
ทักถาม แล้วไม่เงียบ
.
มีคนมากมาย เข้ามาให้กำลังใจ ให้ทัศนคติที่แตกต่างกันไป
ล้วนแต่ทำให้เราอยากรู้ว่า สินค้าของเรานั่นดีแค่ไหน
.
ลองให้คนทักทาย หรือ สอบถามใต้คอมเมนต์ เพื่อทำให้กลไกของเฟสบุ๊คนั้นทำงานได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
ไม่เชื่อ ก็ลองเทียบกัน ระหว่าง โพสต์ที่เมนต์เยอะ กับ โพสต์ไร้เมนต์
อันไหน reach เยอะกว่ากัน
.
เพราะว่า เมื่อเราเมนต์ใต้โพสต์ เพื่อนของเรา ก็จะเห็นโพสต์นั้นด้วย
.
นั่นแหละครับ คือประโยชน์ของการคอมเมนต์ใต้โพสต์
.
4.ภาพกระแทกตา
เพราะ เฟสบุ๊คเป็นการตลาดแบบสไลด์ content ขึ้นลงบนสมาร์ทโฟน
หากภาพไม่เจ๋งจริง ก็ยากจะหยุดสายตาของคน
.
ภาพที่หยุดสายตาคนเรานั้น
มันควรต้องเด็ด ความเด็ด ก็คือ
– แปลก unseen ไม่เคยเห็นมาก่อน หรือ โดดเด่น ชัดเจน แจ่มแจ้ง
– ตรงไป ตรงมา
– ภาพที่ไม่ได้รับการปรุงแต่ง หรือ ภาพที่ไม่เคยซ้ำใครมาก่อน เฟสบุ๊คจะชอบเป็นพิเศษ (อย่าว่าแต่เฟสบุ๊คเลย คนเรายังชอบภาพใหม่ๆ เล้ย)
5.แคปชั่นกระแทกใจมั้ย?
คำพูด คำโปรย ที่หว่านลงไปในโพสต์นั้น คือสิ่งที่คนจะเห็นตามมาจากภาพ
หากประโยคแรก มันรวบตึงทุกปัญหา หรือ ทุกสิ่งที่เขาอยากรู้
ทำไมเขาจะไม่อ่าน?
.
แต่ทุกวันนี้ สิ่งที่เราทำ มันตรงกันข้ามหรือเปล่า
เอาสิ่งที่คนควรได้อ่านก่อนไปอยู่หลังๆ ไปอยู่ท้ายๆ
.
ดังนั้นจึงพึงระลึกเสมอว่า
คนเรา จะสนใจในสิ่งที่เกี่ยวกับตัวเอง
และสิ่งที่สนใจจะฟัง จะอ่านเท่านั้น
.
ไม่ได้สนใจสิ่งที่เราอยากบอก
.
ไม่ใช่ว่าทุกคนเกลียดโฆษณา
เพียงแต่เขาไม่ชอบโฆษณา ที่ไม่ชอบเท่านั้น!
.
6.ข้อเสนอโดนๆ มีหรือยัง?
การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการ
บางครั้ง ก็อยากจะขอต่อรองราคา เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่าเสมอ
.
แต่หากข้อเสนอจากผู้ขาย หรือ ผู้ให้บริการนั้นมันน่าสนใจมากพอ
การคลิกเข้ามาทัก หรือ เขียนคอมเมนต์สอบถาม ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
.
เมื่อเขามีความพยายาม ในการทักทายมาหาเรา
แสดงว่าเขาชื่นชอบ สนใจ และอยากจะซื้อขายกับเราแล้ว
.
ลองหาข้อเสนอดีๆ ที่คนอยากได้
มาไว้ในโพสต์ของเรา เพื่อกระตุ้นความอยากของลูกค้า ให้มากที่สุด
ผมคิดว่า ไม่ยากเกินความสามารถของทุกคนหรอกครับ
.
7.ข้อความเร่งเร้า มีหรือเปล่า
ตัวอย่างที่ดี ของข้อความเร่งเร้า เพื่อปิดการขายได้อย่างดีนั้น
คุณสามารถไป ดูได้ จากรายการทีวีไดเร็คต์ หรือ ควอนตั้มเทเลวิชั่น
หรือรายการนำเสนอสินค้า ที่ยิงกันจนพรุนในทีวี
.
ต้นแบบของการนำเสนอสินค้า ทางทีวี แบบนี้
ถ้าใครอยากรู้ ให้ไปหาหนังเรื่องนี้ดูกันครับ
“JOY จอย เธอสู้เพื่อฝัน (2016)”
.
ข้อความเร่งเร้า ที่เราเห็นกันบ่อยๆ ก็คือ
– สำหรับ 20 คนแรกเท่านั้น
– เฉพาะคนที่เห็นโฆษณานี้เท่านั้น
– ซื้อไปแล้ว 3234 ราย
– ก่อนวันที่ xx นี้เท่านั้น
– ภายในวันนี้ วันเดียว
.
เอาล่ะครับ ลองไปทำกันนะครับ
ได้ผลอย่างไร ลองมาดูกันจ้า
.
ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์
ขอบคุณมากครับผม 😉
.
website : https://www.digitalnook.co/
blog : https://medium.com/digitalnook
line : @digitalnook
boost post ไม่ผ่านเพราะติด instagram_branded_content(sponsorID) ต้องอ่าน
boost post ไม่ผ่านเพราะติด instagram_branded_content(sponsorID) ต้องอ่าน
.
ใครเจอปัญหา boost post ไม่ผ่านเพราะ
The parameter instagram_branded_content(sponsorID) is required (#100)
แก้ไม่ได้ อ่านตรงนี้เลย
.
แชร์ประสบการณ์
แก้ปัญหา instagram_branded_content(ID)
สดๆร้อนๆ เดือนกันยายน 2562
.
วันนี้ครับ
สดๆร้อนๆ คาดว่า น่าจะเกิดความเอ๋อ ของ facebook อีกครั้ง
เพราะว่า เมื่อบ่าย ยัง boost post ได้ตามปกติ
.
แต่ตอนกลางคืน ดันเจอปัญหา
error message
.
Fix 1 Error in 1 Ad
The parameter instagram_branded_content(sponsorID) is required (#100)
.
เอ๋า หรือว่าไม่ได้ติ๊ก IG ออก
หรือติ๊กออก ไม่ได้
เอ แต่เรื่อง Brand Content ก็ไม่เกี่ยวนิหว่า
.
ลองไปค้นหาคำตอบ ว่าเจอมั้ย
ใน google เพิ่งเจอกันสดๆร้อนๆ
ไม่ว่าจะ ทำยังไง ก็ไม่ผ่าน
.
ก็เลยหาทางแก้ไข ในแบบที่ลองด้นสด
กับ App Facebook Ads ในมือถือครับ
.
เข้าไปใน ad account นั้น
แล้วทำการเลือก โพสต์ที่จะ boost แล้วใช้กลุ่มเป้าหมาย ตามที่ต้องการ
.
กด boost post ตามต้องการ
หลังจากนั้น error นี้ ก็จะหายไปเลย
เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
.
สรุปเคสของผม คือ
– ทำงานผ่าน ads manager ผ่าน desktop
– ตอนแรกโพสต์ ที่ boost ผ่านแล้ว caption อ่านไม่เข้าใจ ต้องแก้ใหม่ เลยปรับให้ adset นี้ ไป boost post อื่นแทน
– พอแก้ไขโพสต์แล้ว กลับมา boost ต่อ ดันมี error message ตัวดังกล่าว
– ปรับยังไงก็ไม่หาย > ลองทดสอบกับ post อื่นๆ ก็ error เหมือนเดิม
– เลยใช้วิธีการ แก้จาก app facebook ads ผ่านมือถือ
– เลือก post ที่แก้ไขแล้ว ให้กับ adset ที่มีปัญหา คราวนี้ผ่าน!!
.
ยังไง ลองใช้ Mobile App Facebook ads
แก้ปัญหากันนะครับ
.
facebook ก็เพี้ยนๆ แบบนี้แหละ
เดี๋ยวก็น่าจะลงตัวเอง!
.
#digitalnook
6 เทคนิคที่คนทำเพจลืมทำ ทั้งที่ช่วยเราเพิ่มยอดขายได้
6 เทคนิคที่คนทำเพจลืมทำ
ทั้งที่ช่วยเราเพิ่มยอดขายได้
หลายคนที่ทำเพจขึ้นมา
มักจะมีคำถามว่า เอ ตอนนี้สุขภาพเพจ ของฉันดีหรือยังนะ
.
ต้องทำยังไงดี ถึงจะให้คนติดต่อมา
ทำยังไงให้คนสนใจ
.
วันนี้ ก็เลยขอมาแชร์
6 เทคนิคที่คนทำเพจลืมทำ
ทั้งที่ช่วยเราเพิ่มยอดขายได้
.
ถ้าใครทำครบทำเกินครึ่ง ก็ถือว่า ok แล้วครับ
แต่ถ้าน้อยกว่า ครึ่ง หรือ ยังไม่ได้ทำเลย
ลองไปทำกันดูนะคร้าบ
.
เอาล่ะ มาลุยกันเลยว่าต้องทำอะไรกันบ้าง
.
1. ตั้งชื่อ ให้ search ง่ายๆ ใน เฟสบุ๊ค และ google
.
จริงๆแล้ว เฟสบุ๊ค เป็นเว็บไซต์ ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ในเชิงเทคนิคของ Google
มี autority สูง เวลาเราทำเพจเป็นชื่อแบรนด์ จึงมักจะเจอเป็นอันดับแรกๆ ในการค้นหาผ่านเว็บ
.
แต่จะดีกว่ามั้ย หากชื่อเพจของเรานั้น
มีคำค้น หรือ keyword ที่บ่งบอกถึงบริการ ที่เราทำอยู่
เช่น ร้านเค้ก ลาดพร้าว หรือ แบตเตอรี่ โชคชัยสี่
.
โอกาสเจอลูกค้าใหม่ๆ ก็จะเกิดขึ้น มากกว่าที่เราตั้งชื่อเพจ โดยใช้ชื่อแบรนด์อย่างเดียว
.
2. ใส่ข้อมูลทุกอย่าง ที่เกี่ยวกับธุรกิจของเรา ที่เปิดเผยได้ ลงไปใน note
.
feature นี้ มีประโยชน์นะครับ
เพราะว่า เปิดอ่านได้เร็ว ทำได้ง่ายๆ
แต่คนเรามักจะผ่านมันไปแบบเร็วๆ
.
ใน note นี้ มันจะอยู่ตรงด้านขวา เมื่อเราเปิดด้วย desktop
ถ้าเปิดใน mobile ก็จะเจอในช่วงแรกๆ ก่อนเข้าสู่ content ต่างๆของเรา
.
จะใส่ภาพ ผลงาน สินค้า หรือว่า ลิงค์ไปหา shopee lazada เว็บไซต์ line@
หรือเบอร์โทรต่างๆ ที่ติดต่อกันได้ง่ายๆ ลองดูกันนะครับ
.
3. auto messenger เด้งขึ้นมา แล้วส่งข้อความ ไปทางไลน์ หรือ เบอร์โทร
.
บางครั้ง อาจจะมีช่วงที่เรา ไม่ได้อยู่หน้าจอตลอดเวลา
แต่ลูกค้าต้องการจะติดต่อเรา ผ่านทาง inbox page
การมี ข้อความต้อนรับ จะทำให้ความรู้สึกของลูกค้านั้นดีอยู่
.
ถ้าให้ดี จะเอา link line หรือ เบอร์โทร เว็บไซต์ ใส่เข้าไปด้วย ก็ได้นะครับ
จะทำให้เพิ่มคนในช่องทางอื่นๆ เพิ่มเติมไปด้วย
.
เพราะนี่เป็นอีกวิธี ที่จะเพิ่มคนใน line OA หรือ line@ ได้ง่ายที่สุด
และเป็นคนคุณภาพ ที่พร้อมซื้อของเราจริงๆ
.
4. เติมเต็มข้อมูลใน about ให้ครบ ทุกช่อง
.
เขามีให้ใส่ ก็ควรใส่ให้หมดนะครับ
ทั้งเบอร์ติดต่อ เว็บไซต์ เวลาทำการ แผนที่ต่างๆ
ประเภทกิจการของเรา
คำบรรยาย เกี่ยวกับตัวเรา
มีอะไร ใส่ให้หมด เพื่อความเคลียร์แบบสุดๆ นะครับ
.
ติดต่อง่ายกว่า โอกาสในการขาย จึงมากกว่านะ
.
5. Cover เฟสบุ๊ค จัดให้เต็มๆ ทั้งเบอร์โทร เบอร์ไลน์
.
นี่มันคือภาพแรก ที่คนจะได้เห็นเวลาเข้าเพจของเรา
ออกแบบมาให้ดีเลยนะครับ
โดยคำนึงทั้งตอนเปิดในมือถือ และ desktop
.
พยายามให้ออกมาแล้วอ่านออกใน มือถือเป็นหลักก็ได้
เพราะคนส่วนใหญ่มักจะเปิดใน มือถือเป็นหลัก
.
ขนาดที่เหมาะสม ก็คือ 820 x 312 pixels (ออกแบบมาแล้วเป๊ะ!)
แล้วก็อย่าลืมใส่เบอร์โทร เบอร์ไลน์ เว็บไซต์
หรืออะไรก็ได้ ที่เป็นช่องทางติดต่อเราได้
นี่คือโอกาสทางการค้านะครับผม 😉
.
6. เพิ่มจำนวนรีวิว สร้างบรรยากาศให้น่าซื้อมากขึ้น
.
ลองนึกภาพ เวลาคนเข้าไปในหน้า shopping สินค้า
หรือว่าไปกินข้าวต่างจังหวัด
เวลาที่ไหนคนเยอะๆ รีวิวเยอะๆ
ก็จะตามไปกิน เพราะคนเยอะ มันคือเครื่องการันตีความอร่อย ได้จริงๆ
.
ดังนั้น ถ้าเรามีคนซื้อสินค้าไปแล้ว ประทับใจชอบใจ
ให้ใจกล้าหน้าด้าน ขอรีวิว ขอคะแนน จากลูกค้าได้เลย
หรือว่าจะทำ โปรโมชั่น ให้คะแนนรีวิวเพจ แลกกับอะไรบางอย่างก็ได้
(แต่ต้องเป็นลูกค้าเราจริงๆ นะ)
.
เพราะอย่าง booking agoda lazada shopee จะให้เรารีวิว ได้หลังจากได้สินค้า หรือ ได้ใช้งานแล้วจริงๆ
สำหรับเฟสบุ๊คเพจ ก็เช่นกัน
.
รีวิวเยอะ บรรยากาศ การซื้อก็จะดีขึ้นตามลำดับ
บางทีก็มาจากคนที่เป็นเพื่อน ของคนที่รีวิว
มันดีจริงๆ นะ รีวิวเนี่ย
.
และทั้งหมดนั้นก็คือ
6 เทคนิคที่คนทำเพจลืมทำ
ทั้งที่ช่วยเราเพิ่มยอดขายได้
.
ที่สำคัญ ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์
แชร์สิจ๊ะ รออะไร
สร้าง Facebook Pixels ไว้ยิงแอดแบบ Conversion ทำได้แบบนี้นี่เอง
สร้าง Facebook Pixels ไว้ยิงแอดแบบ Conversion ทำได้แบบนี้นี่เอง
สำหรับใครที่ยิงแอด facebook แล้วไม่เคยใช้เป้าหมาย Conversion บอกเลยว่าพลาดนะครับ
เพราะการทำโฆษณาแบบ Conversion นั้น เป็นการรีดเอาความสามารถของ facebook มาใช้งานได้ดีมากกว่าแบบอื่นๆ
เข้าถึง กลุ่มเป้าหมายในระดับพฤติกรรมเลยทีเดียว
นั่นคือ หาลูกค้าใหม่ๆ ที่ชอบซื้อสินค้าของเรา มาซื้อสินค้าของเราอีก
หาคนที่ชอบการดาวน์โหลด
หาคนที่ชอบการกรอกฟอร์มที่เราสร้างไว้
เรียกว่าประยุกต์กันได้หลายแบบ ครับท่าน
แต่ก่อนอื่น เราจะต้องมีเว็บไซต์ และสิ่งที่เรียกว่า Facebook Pixels นั่นเอง
ซึ่งครั้งนี้ ผมขออธิบาย ให้ทุกคนฟังด้วย Clip Video นี้ครับ
facebook pixels แบบเข้าใจง่ายๆ ใน 3 นาที
facebook pixels แบบเข้าใจง่ายๆ ใน 3 นาที
.
บทความต่อไปนี้ เป็นการอธิบายให้เห็นถึงภาพของการทำงานของ facebook pixels
เครื่องมือที่จะช่วยทำให้การทำโฆษณาบนเฟสบุ๊ค มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ไม่ลงลึกรายละเอียด แต่อย่างใด
.
หลายคนที่ทำโฆษณาเฟสบุ๊คมานาน
น่าจะพอรู้ว่า ตอนนี้ ค่าโฆษณา แพงขึ้น
หาลูกค้ายากขึ้น กลุ่มเป้าหมายที่เคยดี
ก็เริ่มจะไม่ค่อยดีเหมือนเดิม
.
เทคนิคการทำโฆษณาจึงต้องเปลี่ยนไป
ต้องใช้เครื่องมือที่เฟสบุ๊คมีให้ใช้ มากขึ้น
.
จริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่
เพราะว่าเราแอบเห็นคำว่า pixels มานานแล้ว เวลาจะ boost post ทำโฆษณา
แต่เราละเลย และไม่ได้ใส่ใจ เพราะยิงแอดแบบปกติ
มันก็ทำงานได้ดี
.
ที่มันทำงานได้ดี เพราะสมัยก่อน คู่แข่งน้อย
คนในสนามน้อย ทำอะไร ก็ทำได้
ยิงแอดอะไร ก็ปัง
(เหมือนตอนนี้ ที่เรายิงแอดไปประเทศเพื่อนบ้าน จะได้ราคาถูก และ ได้ผลดีเหมือนที่เคยทำในบ้านเราเมื่อ 4-5 ปีก่อน)
.
แต่ตอนนี้ คนรู้เยอะ สนามแข่งขันนี้ จึงดุเดือด
เพราะคู่แข่ง ไม่ใช่คนขายของเหมือนกัน
แต่เป็นบริษัทใหญ่ๆ ที่ยอมทุ่มเงินมาในเฟสบุ๊ค หลักร้อยล้าน
.
ดังนั้น การยิงแอด การทำโฆษณา จึงต้องใช้ความคิดมากกว่าเดิม
และคำว่า pixles ก็เป็นที่สนใจ มากขึ้นกว่าเดิม
ซึ่งจะควบคู่ไปกับ การโฆษณาแบบ Conversion ซึ่งเราก็เห็นมานานมาก
แต่ไม่เคยคิดจะไปสัมผ้สมันเลย….
.
เอาล่ะ มาทำความเข้าใจกันดีกว่า ว่ามันคืออะไร
.
ปกติ ทุกวันนี้ เวลาที่เรากดอะไร ทำอะไรใน เฟสบุ๊ค
เฟสบุ๊คมักจะนำเอา สิ่งที่คล้ายๆกัน มานำเสนอให้เรา
เพราะคิดว่า เราชอบสิ่งนั้น ก็เลยบริการ เอาของที่เราชอบมาบรรณาการใน newsfeed บ่อยๆ
.
ชอบกดดูเพจบ้าน ก็จะมีเรื่องบ้านขึ้นมา
ชอบกดดูเพจหมาแมว ก็จะมีเรื่องสัตว์เลี้ยงขึ้นมา
.
อันนี้ ก็ถือว่าเป็นกลไก pixels แบบหนึ่งของเฟสบุ๊ค ที่เราไม่รู้ตัว
.
แล้วจะดีแค่ไหน
หากเรามีสื่อเป็นของตัวเอง แล้วเอาคนที่ชื่นชอบ กดนั่น กดนี่ในสื่อของเรา
เอาง่ายๆ สื่อที่ว่านั้น ก็คือเว็บไซต์ นั่นเอง
.
หากเรามีแค่เพจบนเฟสบุ๊คอย่างเดียว
คงไม่อาจะใช้ความสามารถของ pixels ได้อย่างเต็มที่
ดังนั้นจึงต้องมีเว็บไซต์จ้า!! ok?
.
สำหรับการติดตั้ง pixels ในเว็บนั้น
ถ้าทำไม่เป็น ก็จ้างเขาติดตั้งครับ ไม่แพง
.
ถ้าจะทำเว็บ ก็แนะนำให้ใช้พวก wordpress ในการทำ
เพราะสะดวก ปรับเปลี่ยนง่าย คนใช้กันเยอะ
ดังนั้น เวลาทำอะไร จึงหาคนช่วยง่ายกว่า
แถมโครงสร้างเว็บ ยังดีต่อ SEO ที่ทำให้ติด Google ได้ง่ายอีกต่างหาก
.
เอาล่ะ พอเราติดตั้ง pixels ในเว็บเสร็จแล้ว
ขั้นตอนต่อไป ก็คือ การฝึกให้เจ้า pixles นี้เติบโต
เจ้า pixels เหล่านี้ กินข้อมูลการใช้งานเว็บเป็นอาหาร
ดังนั้น เราก็ต้องป้อนมันด้วย traffic ทำให้คนเข้าใช้งานเว็บนี้เยอะๆ บ่อยๆ
ยิ่งเปิดหลายหน้า
ยิ่งกดปุ่มนั้น ปุ่มนี้เยอะๆ
ก็จะทำให้ pixels แยกแยะออกได้
.
โดยเฉพาะการเข้ามาดูเว็บ อ่านเว็บ หรือ กดปุ่ม ที่มีผลดีต่อรายได้ของธุรกิจเรา
ซึ่งอาจจะต่างกันไป
บางคนเข้ามาอ่านเนื้อหา
บางคน เป็นปุ่มสั่งซื้อ
บางคน เป็นปุ่มกรอกรายชื่อ
บางคน เป็นปุ่มกดโทรหา หรือ ติดต่อเจ้าหน้าที่
.
จะดีมั้ย หากวันนี้ เรารู้ว่าใครเข้ามาทำอะไร ในเว็บของเราบ้าง
ถ้าเขาเคยเข้ามา แล้วเห็นโฆษณาของเราอีกครั้ง
โอกาสที่จะสนใจ หรือ ซื้อของๆเรา ก็เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
.
บางคนที่ เคยกดสั่งซื้อของ
แล้วยังไม่จบ เราส่งหน้าสินค้านั้นไปให้เค้าอีกที
โอกาสปิดการขายสูงขึ้นมั้ย?
.
เหมือนเราเข้า agoda แล้วยังค้างจ่าย
ยังไม่จ่ายเงิน
ก็จะมีโฆษณา ของโรงแรมที่เราดูค้างไว้ โผล่มาหลอนหลอกกัน
.
หรือเข้าไปใน shopee lazada
เลือกซื้อของไปสักพัก แล้วออกมาจากเว็บนั้น หรือ app นั้น
เข้าเฟสบุ๊คปั๊บ เห็นโฆษณาสินค้าเลยจ้า
และโผล่มาหลอนบ่อยสุดๆ
.
อันนี้แหละ
เราเรียกกันว่า การ retargeting
ทำโฆษณาส่งไปหาลูกค้า ด้วยข้อมูลพฤติกรรม การใช้งานเว็บของลูกค้าเอง
.
อันนี้ คือความดีงามเล็กๆของการใช้ pixels ในเว็บ
.
ยังไม่รวม
ถึงการให้ เฟสบุ๊คไปหาคนที่มีพฤติกรรม ใกล้เคียงกับ action ในเว็บของเรานะ
.
จะดีมั้ย หากวันนี้ เราไม่ต้องหากลุ่มเป้าหมาย เพศวัย
แต่ให้เฟสบุ๊คไปคัดเอาคนที่ชอบกดซื้อของในเว็บของเรามาให้
.
นี่มันกลุ่มเป้าหมายในฝันเลยนี่!!
.
แต่แน่่นอน ว่าก่อนจะเจอฝันดี
เราต้องใช้เวลา และความพยายามอย่างหนัก จึงจะสำเร็จ
ดังนั้น อย่าทิ้งความฝันสวยๆ ไว้กลางทาง
.
พยายามให้สำเร็จก่อน
แล้วค่อยผ่อนคลาย..
.
เอาเป็นว่า แนวคิดของ facebook pixels ที่อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ใน 3 นาที
จะมีประโยชน์กับทุกๆ คนที่กำลังสนใจ อยากทำอยู่นะครับ
ทำเงินในโลกออนไลน์ ด้วยมือถือแค่เครื่องเดียวกับ 4 ความจริงที่เขาไม่ได้บอก
ทำเงินในโลกออนไลน์
ด้วยมือถือแค่เครื่องเดียว
กับ 4 ความจริงที่เขาไม่ได้บอก
.
มีครับ
เป็นเรื่องจริง
และใครๆ ก็ทำได้กันเยอะเลย
.
ฟังแล้วเหมือนจะขี้โม้ และจะขายอะไรสักอย่างให้เรา
ทว่ามันเป็นเรื่องจริงครับ
.
แต่เป็นความจริงอยู่ประมาณ 10% นะครับ
ใครเห็นโฆษณาประเภทนี้ แบบนี้ เขาไม่ได้มาโกหกเราครับ
แค่อาจจะยังไม่ได้บอก
.
เหมือนวันนี้ เราเห็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งแค่ส่วนปลายยอด
แต่ด้านล่างของภูเขาน้ำแข็งนั้น มีอะไรซ่อนอยู่มากมาย
.
หากจะเรียบเรียงมาให้ว่า มีอะไรบ้างที่เขายังไม่บอก
ผมมีความเห็นดังนี้ครับ
อะ มาดูกัน…
.
ทำเงินในโลกออนไลน์
ด้วยการใช้มือถือแค่เครื่องเดียว
มีอยู่จริง แต่สิ่งที่ไม่ได้บอก ว่าต้องมีด้วย คือ
.
1. ความรู้ ความเข้าใจ ในการทำสิ่งนั้นๆ
เวลาจะทำอะไรสักอย่าง คุณเข้าใจหรือยัง ว่ากำลังทำอะไร
ทำเพื่อใคร แก้ปัญหาให้ใคร
หากเป็นการแก้ปัญหาให้ตัวเอง ต้องถามว่า เราจะยกระดับความสุขของคนที่เราจะแก้ปัญหานั้น
ไปได้ไกล มากน้อยแค่ไหน
.
ถ้าแก้ปัญหาให้คนอื่น ต้องรู้ว่า ปัญหา
2. ความใส่ใจ ความพยายาม การทำอย่างต่อเนื่อง
เมื่อตัดสินใจ ลงมือทำอะไรแล้ว ก็ต้องทำให้เต็มที่ โฟกัส อย่างต่อเนื่อง
เกาะติด เมื่อมีปัญหา ก็ต้องแก้ไข ให้ได้ อย่าละทิ้งปัญหาไป
มันง่ายที่จะเดินหนี ปัญหา
แต่ให้นึกถึงวันแรก ที่เราตัดสินใจ ลงมือทำสิ่งนี้
ความรู้สึก ที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังของเรา วันนั้นอยู่ไหน?
.
การทำอย่างต่อเนื่อง คือการเรียนรู้ ดีๆ นี่เอง
เพราะจะเจอสถานการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่มีเขียนไว้ในหนังสือคู่มือ
พร้อมทางแก้ไข ที่กำหนดขึ้นมาเอง โดยตัวเรา
.
3. แนวคิดกล้าลงทุน กล้าล้มเหลว
ถ้ารักจะทำเงินบนโลกออนไลน์ ให้ลืมไปได้เลยว่า มันคือ การได้มาฟรีๆ
แม้โลกออนไลน์ จะมีความรู้ฟรีๆ ให้ทำตาม
แม้โลกออนไลน์ จะสามารถหยิบ ภาพ เพลง วิดิโอ มาผสมรวมกันได้ง่ายๆ
.
แต่การจะสร้างเงินขึ้นมาให้เห็นเป็นชิ้น เป็นอัน
การใช้เงินเพื่อการลงทุน จึงเป็นเรื่องปกติ
.
ถ้าเป็นการทำโฆษณา ออนไลน์บางครั้ง เราอาจจะหวัง ได้คน ได้ยอด ตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่ลงโฆษณาไป ซึ่งความจริง มันไม่ใช่แบบนั้น
.
เพราะมีอีกหลายปัจจัย ที่เรายังมองไม่เห็น
.
หากวันไหน ที่เราใช้เงินเยอะ แต่ยอดไม่เยอะ
ให้สังเกต ว่าทำไม ยอดน้อย หรือไม่มียอด
อย่าเพิ่งหยุดโฆษณา
.
มองว่านี่คือการลงทุน
.
4. ปรับปรุง เพื่อสู่ความสำเร็จ
แน่นอน เมื่อลงมือทำแล้ว เราจะเห็นทั้งสิ่งที่ work และสิ่งที่ไม่ work
อันไหนดี เราพัฒนาต่อยอด ไปจากเดิมให้ดียิ่งขึ้น
อันไหนล้มเหลว เรานำมาคิดต่อ ดูว่า ทำไม ถึงไม่ดี
แล้วปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อผลลัพธ์ที่มากกว่า
.
เพราะความสำเร็จ หากสำเร็จได้ภายในชั่วโมงเดียว
คงไม่ใช่ความสำเร็จ ที่แท้จริง
.
และนั่น คือ ความจริง 4 ข้อ ที่หลายๆคนไม่ได้บอกเอาไว้
เกี่ยวกับ “ทำเงินในโลกออนไลน์ ด้วยมือถือแค่เครื่องเดียว”
.
.ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ กันนะครับ
.
.
Facebook
facebook.com/digitalnook
.
line @digitalnook
https://line.me/R/ti/p/%40digitalnook
.
inbox
https://m.me/digitalnook
3 สิ่งที่ควรจำ เวลาทำโฆษณาเฟสบุ๊ค
3 สิ่งที่ควรจำ เวลาทำโฆษณาเฟสบุ๊ค
ทำโฆษณาเฟสบุ๊ค ไม่ใช่แค่ยิงแอด แล้วจบ!
.
ในยุคสมัย ที่ใครๆก็หันมาขายของออนไลน์กัน
เมื่อ 4-5 ปีก่อน ในเฟสบุ๊ค
โพสต์ทิ้งๆ ขว้างๆ ก็มีคนสนใจ ซื้อของกัน
.
หลังๆ คนเริ่มเยอะ โพสต์ธรรมดา โลกไม่จำ
จึงต้องมาใช้เงินฟาดหัว เพื่อให้คนเห็นมากขึ้น
ปรากฏว่าดี วุ้ย ขายของได้ สบายเลยสิเรา
.
ต่อมา คนเห็นว่าดีวุ้ย เอาบ้าง
ลุยบ้าง เสียเงินบ้างซิ จะได้รวยกับเขา
ก็แห่มาลงเงิน เสียเงินให้พี่มาร์ค
.
จากตลาดที่เคยมีกันอยู่แบบ อุดมสมบูรณ์
ก็กลายเป็นทะเลแดงเดือด แก่งแย่งกันมากกว่าเดิม
.
ราคาค่า ads ก็เพิ่มสูงขึ้นๆๆ ไปเรื่อยๆ
เจ้าใหญ่ๆในท้องตลาด ก็ลงมาฟาดฟัน ในมหาสมุทรสีเลือดด้วย
ราคาก็ไปกันใหญ่จ้า!!
.
เออ แล้วไงดี
.
แต่หากคุณเชื่อว่า ลูกค้ายังอยู่ที่นี่
ยังมีอะไรให้ได้เก็บเกี่ยวอยู่
ยังมีความหวังอยู่
.
เราก็พอมี แนวทางให้เลือกเดินกันครับ
กับ 3 สิ่งที่ควรระลึกถึง เมื่อคิดจะทำโฆษณาเฟสบุ๊ค
เพราะนี่เป็นสิ่งที่ควรจะคิดให้มากๆ มากกว่าวิธียิงแอด กันนะครับ 😉
.
ว่าแล้ว ก็มาทำความเข้าใจกันเลยครับ
.
1. คำพูดกระแทกตา
ทุกวันนี้ สิ่งที่ทำให้คนเราหยุดสายตา หยุดมองอะไรบ้าง
มักเกิดจากประโยค ที่มันเกี่ยวกับเรามากๆ
ปัญหาของเรา สิ่งที่เรากำลังมองหา เช่น
“ลดกลิ่นแก่ คืนความหนุ่มให้มากกว่าเดิม 2 เท่า ด้วยxxxx”
“ฝ้ากระจุย สาวขึ้นกว่าเดิม เพียงเติม…”
.
ด้วยประโยคแรก ที่มันเกี่ยวกับเรา
ก็จะดึงให้เราไปอ่าน ประโยคอื่นๆ ต่อเลย
หาก สิ่งที่ตามมา แฝงไว้ด้วย ข้อเสนอดีๆ มีราคาดีๆ
และ ข้อจำกัดทางเวลา เพื่อเร่งให้ตัดสินใจ
โอกาส ที่จะคล้อยตาม และ ซื้อของเราเร็วขึ้น
ก็มากกว่า
.
พยายามนึกถึง ปัญหาของ คนที่จะเป็นลูกค้าของเราไว้เยอะๆ ครับ
แล้วประโยคทองมันจะมาเอง
.
2. ภาพโดนใจ
นอกจากเรื่องราว ที่เกี่ยวกับเราแบบสุดๆ แล้ว
ภาพ หรือ วิดิโอ ที่เห็นแว้บเดียวก็ต้องหยุดนิ้วโป้ง
คือ อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ โฆษณาของเรา
เป็นที่สนใจของกลุ่มเป้าหมายนะ
.
ภาพที่สื่อให้เข้าใจง่าย
จะเข้าถึงคนได้มากกว่า
เปรียบเทียบให้เห็นง่ายๆ
ที่สำคัญ หากมีหน้าคนอยู่ในนั้น คนจะสนใจมองมากกว่าปกติ
.
3. กลุ่มเป้าหมายที่ใช่
อีกเรื่องที่สำคัญมากๆ นั่นคือ คนที่เราจะเอาสารไปส่งให้เค้า
ข้อความดี ภาพเลิศ แต่กลุ่มคนที่เราส่งไปหา ไม่ใช่
มันก็เน่านะ
.
เช่น เอาเรื่อง น้ำมันเครื่อง สำหรับรถสิบล้อ ส่งไปให้เด็กประถม
ก็อาจจะแค่ดูผ่านๆ แล้วเลื่อนไป
หรือ ไม่ได้มองเสียด้วยซ้ำ
.
เปลืองค่าแอดเปล่าๆ จ้า
.
ดังนั้น 3 สิ่งที่ควรจำ เวลาทำโฆษณาเฟสบุ๊ค คือสิ่งนี้เลย
.
คิดให้เยอะๆ ว่า ปัญหาของลูกค้าเราคืออะไร
ตอบปัญหาให้ได้ เสนอสิ่งดีให้เค้า
ทำภาพให้ชัดเจน ให้เค้านึกออกว่าเรากำลังคุยกับเค้า
จับมัดรวม แล้วส่งมอบมันไปยังมือถือ ของเค้าเลย
.
แล้วชีวิตจะดีขึ้น
.
อ้อ อีกอย่างหนึ่งที่ลองทำแล้ว ใช้งานได้ดี
Content ไหนที่ มันดีมากๆ
แทบไม่ต้องตั้งกลุ่มเป้าหมายเลย ก็ยังปังนะ
.
แต่ content แบบนี้ จะเหมาะกับ สินค้า หรือ บริการที่
ไม่ต้องคิดมาก
.
อาทิเช่น ร้านวิวป่า ขนมน่ากิน ส้มตำสุดแซบ มะม่วงสุดซี๊ด คลิปขำโคตรๆ คลิปสะเทือนใจ เรื่องดราม่า
.
ถ้า content เรา ไม่ตรงกับอะไรแบบนี้
ลองไปหาทาง ให้มันเข้ากับแนวทางเหล่านี้ให้ได้นะ
.
ชีวิตจะสบายขึ้น
.ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ กันนะครับ
.
.
Facebook
facebook.com/digitalnook
.
line @digitalnook
https://line.me/R/ti/p/%40digitalnook
.
inbox
https://m.me/digitalnook
Facebook ไม่ใช่ทุกอย่าง ของ การทำธุรกิจ อย่าเอาทุกอย่างไปผูกไว้กับ เฟสบุ๊ค
Facebook ไม่ใช่ทุกอย่าง ของ การทำธุรกิจ
อย่าเอาทุกอย่างไปผูกไว้กับ เฟสบุ๊ค
.
เพราะโลกออนไลน์ นั้นมีเครื่องมือให้เลือกใช้ มากกว่า 1 อยู่เสมอ
ดังนั้น อย่ายึดติดเฉพาะเครื่องมือเดียว
.
บนโลกนี้ยังมี
youtube
ถ้าลูกค้าของคุณ คือ คนชอบดูรีวิว ชอบศึกษา ก่อนจะเลือกซื้อ หรือเห็นอะไรที่เคลื่อนไหวได้ แล้วมีคนทำให้ดู แล้วซื้อตาม youtube คือ แหล่งสร้างแรงบันดาลใจในการซื้อ ได้เป็นอย่างดี
สินค้าที่ เหมาะกับกลุ่มนี้ คือ เครื่องสำอาง รถยนต์ notebook pc gadget อุปกรณ์ไอที มอเตอร์ไซค์ เป็นต้น
twitter
กลุ่มคนใช้งานในทวิตเตอร์ ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น เพราะว่า ตอนนี้ พ่อแม่ของเขา มาเล่น facebook กันมากขึ้น ดังนั้น การหาที่พักใจ ไปทำอะไรก็ได้สักที่ ได้ปลดปล่อยความคิด มันคือ twitter สังเกตว่าคำพูด หรือ เรื่องราวต่างๆ ที่เรามักเจอในทวิตเตอร์ จะเป็นความคิดใหม่ๆ มุกตลกใหม่ๆ และข่าวสารที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
.
แต่บ่อยครั้งที่เราจะเห็น รีวิวสินค้า ที่แม้จะดูจงใจโฆษณา แต่เราก็ อยากได้ อยากมีเหลือเกิน นี่แหละ คือพลังของทวิตเตอร์
.
สินค้าที่เหมาะกับกลุ่มนี้คือ ขนม ร้านกาแฟ คาเฟ่ เครื่องสำอาง ของใช้ ของกินใน 7-11
.
instagram
นี่คือดินแดน ของคนมีสไตล์ มีรสนิยม และเลือกที่จะชื่นชมกับเนื้อหา ที่ดูดี สร้างสรรค์ เป็นหลัก เพราะ content ทั้งหมดใน instagram คือภาพและ วิดิโอ ดังนั้นจึงเข้าใจง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ
.
แต่ต้องดูดี สวยงาม เห็นแล้วปิ๊ง ที่สำคัญ คนใช้ instagram เป็นคนที่ไม่ใส่กับเรื่องของราคาเลยแม้แต่น้อย แพงแค่ไหน ถ้าถูกใจ ก็พร้อมจะเปย์
.
สินค้าที่เหมาะกับกลุ่มนี้คือ เครื่องสำอาง เสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา แบรนด์เนมต่างๆ
.
website
เว็บไซต์ คือเครื่องมือแรกๆ ที่เรารู้จักคำว่า e-commerce มันยังใช้งานได้ดีเสมอ เพียงแต่เราจะเลือกใช้มันอย่างไรให้ถูกวิธี หาก social media ต่างๆ คือบ้านเช่า website นี่แหละ คือบ้านที่มั่นคงของเราๆท่านๆ เพราะจะทำอะไร ก็ได้ ไม่มีใครห้าม
.
ไม่มีใครมาตั้งกฏเกณฑ์ใดๆ เพราะเราคือเจ้าของ ซึ่งหากออกแบบดีๆ วางกลยุทธ SEO ให้ google มาเจอเราง่ายๆ บางครั้ง แทบไม่ต้องไปจ่ายเงินค่าโฆษณา ก็สามารถสร้างยอดขายได้
.
และที่สำคัญ ตอนนี้ ทุกคนกำลังสนใจ การนำเว็บไซต์มาทำงานร่วมกับ facebook เพื่อทำให้โฆษณาของเราแม่นยำมากขึ้นแล้วจ้า!!
.
สินค้าที่เหมาะกับกลุ่มนี้คือ สินค้าทุกประเภท!
.
ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ กันนะครับ
.
.
Facebook
facebook.com/digitalnook
.
line @digitalnook
https://line.me/R/ti/p/%40digitalnook
.
inbox
https://m.me/digitalnook