4 วิธี Retargeting ใน LINE OA ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้
4 วิธี Retargeting ใน LINE OA ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้
ใครๆก็รู้ว่าการใช้ Line OA นั้นสามารถจะบอร์ดแคสกลับไปหาลูกค้าเมื่อไหร่ก็ได้
วิธีง่ายที่สุดก็คือการส่งข้อความกลับไปหาทุกคนที่ติดตามเราอยู่
ถ้าคุณมีโควต้าเหลือเยอะก็สามารถทำได้
แต่การที่ส่งข้อมูลกลับไปบ่อยๆโดยที่ลูกค้าไม่ต้องการ
นอกจากจะเปลืองโควต้าการส่งข้อความแล้ว ยังทำให้เกิดการบล็อก LINE ของเราอีกต่างหาก
จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถส่งข้อความกลับไปหาคนที่ต้องการจริงๆ
เมื่อคุณอ่านบทความนี้จบ คุณจะได้แนวคิดการบรอดแคสต์ข้อความผ่าน LINE OA
ที่ประหยัดกว่าเดิม และลดอัตราการบล็อกจากคนติดตามได้ดีขึ้น
แต่ก่อนที่จะไปทำ retargeting หลายๆ
ต้องเข้าใจเสียก่อนว่าเราต้องมีกลุ่มเป้าหมายที่จะส่งข้อความไปหาก่อน
สิ่งนี้เราเรียกกันว่ากลุ่มเป้าหมายใน LINE OA
(เหมือนเรายิงแอดในเฟสบุ๊ค แล้วต้องใช้ กลุ่มเป้าหมายกำหนดเองนั่นแหละครับ)
คุณต้องสร้าง กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ขึ้นมาเสียก่อน จึงจะ Retargeting ได้
ซึ่งกลุ่มเป้าหมายใน LINE OA ที่ผมอยากจะแนะนำมีดังต่อไปนี้ครับ
1. กลุ่มเป้าหมายจาก chat-tag
อันนี้ เกิดจากการติด TAG ลูกค้าใน LINE OA ซึ่งสำคัญมากๆ เลยนะครับ การติด TAG ก็คือติดป้ายแบ่งประเภทลูกค้า นั่นเอง เช่น ยังไม่ซื้อ ซื้อแล้ว ซื้อเยอะ หรือ ประเภทสินค้าที่เราขาย
เมื่อเราแยกกลุ่มคนเหล่านี้ ออกมาได้ เวลาจะส่งข้อความกลับไปหา ก็เลือกเฉพาะคนที่เราต้องการเท่านั้น
เช่นคนยังไม่เคยซื้อ เราก็ส่งโปรแรงๆ เพื่อให้เขาตัดสินใจซื้อได้เลย
ส่วนคนที่ซื้อแล้วเป็นลูกค้าเก่า ก็ส่งโปรพิเศษ เพื่อเพิ่มยอดขึ้นไปอีก
2.กลุ่มเป้าหมายจากคนที่มีส่วนร่วมกับ ข้อความที่บรอดแคสต์
การบรอดแคสต์ข้อความทุกครั้ง จะมีข้อมูลเกิดขึ้นสองแบบนะครับ นั่นคือ คนที่อ่านข้อความบรอดแคสต์ของเรา กับคนที่กดคลิกดูข้อความบรอดแคสต์
คนที่เปิดอ่าน จะมีความสนใจในข้อความนั้นๆ ของเราอย่างน้อย ก็ 50% มาละ
ส่วนคนที่คลิกข้อความบรอดแคสต์ แสดงว่า สนใจเรามากกว่า 50% แล้วล่ะ
ใน LINE OA สามารถบรอดแคสต์กลับไปหาเฉพาะ คนสองกลุ่มนี้ได้นะครับ
ยกตัวอย่างเช่น
เราบรอดแคสต์ ข้อความแรก เป็นสินค้าตัวใหม่ ล่าสุด หาคนติตดามทุกคนใน LINE OA ของเรา
บรอดแคสต์ ครั้งที่สอง เป็นโปรโมชั่นสินค้าตัวนี้ ในราคาพิเศษสุด ส่งกลับไปหาคนที่เปิดอ่าน หรือ คลิกข้อความ เท่านั้น เพราะคนที่ไม่สนใจ ก็ไม่จำเป็นต้องเห็นโปรนี้
3. กลุ่มเป้าหมายที่เกิดจากการเพิ่มเพื่อน
คนที่เพิ่งติดตาม LINE OA ของเรา ก็ถือเป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่เราเลือกมาบรอดแคสต์ได้นะครับ
และสามารถ แบ่งได้ว่า เพิ่มเพื่อนมาด้วยวิธีไหน อาทิ QRcode / search มาเจอเอง
ยกตัวอย่างเช่น
เราไปออก Event ในวันที่ 1-3 เดือน เมษายน
แล้วทำ QRcode ให้คนสแกนแอดไลน์เข้ามาเพิ่มเพื่อน
พอเสร็จงานแล้ว เราสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมาย
คนที่เพิ่มเพื่อนผ่าน QRcode ในวันที่ 1-3 เมษายน
แล้วบรอดแคสต์กลับไปขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม Event ของเราในช่วงนั้นได้
ก็จะสร้างความประทับใจ และ แปลกใจให้กับผู้ติดตามได้มากเลยทีเดียว
หรือจะสร้างกลุ่มเป้าหมายของคนที่พึ่งกดติดตาม LINE OA ของเรา
ในช่วงต้นเดือน
4. กลุ่มเป้าหมายที่เกิดจาก คนเข้าไปดูใน website ของเรา
อันนี้เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่เกิดจากการทำ LINE TAG ครับ
ถ้าใครมีเว็บไซต์ หรือ เซลเพจ จะได้เปรียบมากๆ เลย
เพราะกลุ่มเป้าหมายสองแบบแรกนั้น เราสามารถสร้างขึ้นจาก LINE OA ได้เลย
แต่ถ้าต้องการ กลุ่มเป้าหมาย จากคนเข้าเว็บไซต์ เราต้องติดโค้ด LINE TAG เอาไว้ด้วย
ข้อดีของกลุ่มเป้าหมายนี้ ก็คือ
เมื่อเราใช้ LINE TAG ร่วมกับ Google TAG Manager แล้ว จะทำให้จับพฤติกรรม ที่ละเอียดมากกว่าการเข้าชมหน้าเว็บได้ เช่น คนที่อยู่ในหน้าเว็บนั้นนานกี่วินาที / คนที่ scroll หน้าจอเว็บลงมาเกิน 50% / หรือคนที่คลิกปุ่ม อะไรในหน้าเว็บ
คนที่อยู่นาน / คน scroll หน้าเว็บลงมาเยอะๆ นั้นหมายถึงเขามีความสนใจในสิ่งที่เรานำเสนอ
กลุ่มคนเหล่านี้แหละ ที่เราควร บรอดแคสต์กลับไปหาเขาอีกครั้ง
ยกตัวอย่างเช่น
เราบรอดแคสต์ข้อความแรก เพื่อให้คนคลิกเข้าเว็บไซต์แนะนำสินค้าของเรา (เว็บต้องมีการติด LINE TAG ด้วยนะครับ)
การบรอดแคสต์ ข้อความครั้งต่อมา ก็จะเลือกกลุ่มเป้าหมาย เฉพาะคนที่เคยเข้าไปในหน้าเว็บไซต์นั้น ก็ทำได้
หมายเหตุ
เราจะบรอดแคสต์ ข้อความกลับไปหา เฉพาะคนที่ติดตาม LINE OA ของเราเท่านั้นนะครับ 😉
ถ้าเข้าหน้าเว็บ แต่ไม่ได้ติดตาม LINE OA ของเรา ก็ไม่นับรวมเป็นกลุ่มเป้าหมายคนเข้าเว็บไซต์นะครับ
สรุป
มาสรุปกันนะครับ ว่ากลุ่มเป้าหมาย ที่ใช้ Retarget ใน LINE OA นั้นมีอะไรบ้าง
1. กลุ่มเป้าหมายจาก chat-tag
2. กลุ่มเป้าหมายจากคนที่มีส่วนร่วมกับ ข้อความที่บรอดแคสต์
3. กลุ่มเป้าหมายที่เกิดจากการเพิ่มเพื่อน
4. กลุ่มเป้าหมายที่เกิดจาก คนเข้าไปดูใน website ของเรา
หากใครมีคำถาม อยากรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับ การสร้างกลุ่มเป้าหมายใน LINE OA
พิมพ์ คำว่า “อยากรู้” ไว้ได้นะครับ
ผมจะมานำเสนอ เทคนิคการสร้างกลุ่มเป้าหมายเอาไว้ในครั้งต่อไป
สำหรับวันนี้ ขอบคุณและสวัสดีครับ 😉
ช่วงขายของ
ใครที่คิดว่า LINE เอาไว้แค่แชทกับลูกค้าเก่า อย่างเดียว อันนี้คิดผิดนะครับ
เพราะว่าตอนนี้ LINE ทำได้ตั้งแต่การหาลูกค้าใหม่ และ ดูแลลูกค้าเก่าได้เป็นอย่างดี
และยังสามารถ สื่อสารข้อความโปรโมชั่น โฆษณา กลับไปยังลูกค้าได้ 100%
ค่าใช้จ่าย ตกเป็นหน่วยสตางค์ต่อคนเท่านั้น!
แต่ทุกครั้งที่บรอดแคสต์ไป ก็ได้กลับมาเป็นออเดอร์
แล้วทำไม เราจะไม่ทำละครับ 😉
หากสนใจ ผมมีคอร์สออนไลน์
เพิ่มยอดขาย 10 เท่าด้วย LINE OA Update ปี 2021
ให่ได้เรียนรู้กันนะครับ
สนใจ สอบถามรายละเอียด ได้ที่ LINE @digitalnookacademy
หรือคลิก https://lin.ee/pL1INOl
ยิงแอด Retarget ใน TikTok Ads แม่นขึ้น ด้วยการทำสิ่งนี้!!
ยิงแอด Retarget ใน TikTok Ads แม่นขึ้น ด้วยการทำสิ่งนี้!!
Update ใหม่ล่าสุด!!
TikTok Ads สามารถสร้าง Custom audince แยกตามคนเข้า salepage ได้แล้วจ้า!!
สำหรับคนที่ยิงแอด TikTok Ads โดยใช้ประโยชน์จาก Pixel
ที่ผ่าน อาจจะรู้สึกหงุดหงิดใจ นิดนึง
เพราะเวลา จะหา”กลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง” จากคนเข้าเซลเพจ
ระบบ TikTok จะไปเอาข้อมูล คนที่เคยเข้า salepage จาก Pixel ทุกตัว ที่สร้างใน 1 บัญชีโฆษณา
มาสร้างเป็นกลุ่มเป้าหมาย
นั่นหมายความว่า
ถ้าเรายิงแอด TikTok เข้า salepage คอลลาเจน และ ยิงแอด TikTok เข้า salepage เครื่องมือช่าง
เวลาทำ Custom audeince จาก มันจะไปหา คนที่เคยเข้า salepage คอลลาเจน และ salepage เครื่องมือช่าง
รวมกันมั่วซั่วไปหมด!!
ผมเลยต้องบอกคนที่มาเรียนยิงแอด TikTok เสมอว่า
ให้เอาเลือก 1 บัญชีโฆษณา ต่อ 1 สินค้า หรือ เลือกสินค้าที่คล้ายกัน
เพราะว่า Pixel ยังแยกคนเข้า salepage ไม่ได้
แต่ตอนนี้ครับ!!..
ทาง TikTok Ads ได้ปรับปรุงระบบ
ทำให้เรา เลือกทำ Custom Audience จากคนเข้า Salepage แบบแยกหน้าได้แล้ว
ดีมากๆเลย
เพราะประโยชน์ของการทำ Custom Audience แยก Pixel ได้ นั้นคือ
- ยิงแอดได้แม่นขึ้น เพราะแยกลูกค้าได้ละเอียดขึ้น ใครเข้า salepage ไหน ก็ทำ Retarget กลับไปหาได้ถูกต้อง
- 1 บัญชีโฆษณา สามารถ ยิงแอดได้หลายสินค้า เพราะว่าแยกกลุ่มเป้าหมาย จากคนเข้าเว็บได้แล้ว
สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้ การยิงแอดแบบ Retarget
ต่อไปนี้ เวลายิงแอด TikTok Ads ให้ทำแบบนี้นะครับ
- ติดตั้ง Pixel ในแต่ละ salepage และ ตั้งค่า Event ให้ครบตาม funnel
- เมื่อยิงแอดไป 1 สัปดาห์ จนมีข้อมูลมากพอ ให้สร้าง custom audience จากคนเข้าหน้า salepage
- ข้อมูลใน Custom audience ต้องมีจำนวน 1000 ข้อมูลขึ้นไป จึงจะนำไปยิงแอดได้
- กลับไป Retarget คนเคยเข้าหน้า salepage นั้น อีกครั้ง ด้วยโฆษณาชุดใหม่ๆ เช่น รีวิว โปรโมชั่น
แต่อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปได้
ผมก็ยังอยากให้ ใช้ 1 บัญชีโฆษณา ใช้กับสินค้าที่มีความใกล้เคียงกันครับ
และสำคัญสุดๆ ก็คือ Content นั่นเอง
ต้องเป็นเนื้อหา ที่ทำให้เกิดความอยากได้ อยากรู้ สนใจ เท่านั้น
จึงจะเอามายิงแอด!!
ใครอ่านเทคนิคนี้แล้ว ให้ไปลงมือทำกันนะครับ
ได้ผลอย่างไร มา comment กันตรงนี้ได้เลยครับ
3 ขั้นตอน Retargeting ใน TikTok Ads ทำได้แบบนี้นี่เอง
3 ขั้นตอน Retargeting ใน TikTok Ads ทำได้แบบนี้นี่เอง
หลายคน คงจะเคยได้ยินคำว่า Retargeting มาหลายครั้งแล้ว
บางคนอาจจะเคยใช้มาบ้างแล้ว ใน Facebook หรือ Google
แล้วสำหรับ social media ตัวใหม่ อย่าง tiktok ล่ะ
มีกับเค้าบ้างมั้ย
คำตอบก็คือมีครับ
แต่การจะ Retarget ไปหาได้ คุณต้องมีการโฆษณาออกไปก่อน
เพื่อสร้างกลุ่มผู้ชม เพื่อจะส่งโฆษณากลับไปหาเขาเหล่านั้น
ลองมาดูขั้นตอนกันครับ
1.ทำโฆษณาตัวเปิดไปก่อน
ขั้นตอนนี้ แนะนำให้ทำคลิปที่ทำให้คนสนใจ รู้จักสินค้าของเรา
ถ้าทำได้ดี คนอาจจะตัดสินใจซื้อเลยต้ังแต่ครั้งแรก
- ทำคลิปเข้าใจง่าย เป็นแนวรีวิว จะได้ผลดี
- มี salepage ที่ติด pixel ไว้ด้วยจะดีมาก เพราะเก็บคนที่เข้าไปในหน้านั้นได้
- ติดลิงค์ LINE OA และ Messenger หรือจะมีเบอร์โทรก็ได้ เพื่อไม่ให้เสียโอกาส
แนะนำใช้วัตถุประสงค์ traffic เพราะจะเก็บคนได้ดี และมีโอกาสขายของได้ตั้งแต่ครั้งแรก
แต่ถ้ายังไม่ซื้อ ไม่เป็นไร เพราะเราจะ retarget ไปอีกรอบ
2.สร้างข้อมูลคนที่เคยมีส่วนร่วมกับโฆษณา
เมื่อโฆษณา ทำงานไปสัก 7 วัน ก็จะเริ่มมีข้อมูล ผู้ใช้งาน มาให้เราสร้างกลุ่มเป้าหมายกำหนดเองแล้ว
ตอนนี้ ให้เข้าไปสร้าง ใน custom audience จากสองแหล่งข้อมูล นั่นคือ
- คนที่มีส่วนร่วมกับโฆษณา มีสองแบบ คือคนดู กับคน คลิกโฆษณา
- คนที่เข้าไปในหน้าเว็บ หรือ salepage ซึ่งจะรู้ได้ หากเราติดตั้ง TikTok Pixel ไว้ด้วย
หากมีข้อมูลเยอะๆ ก็สามารถ นำ custom audience เหล่านี้
ไปทำ look a like ได้เช่นกัน เหมือน Facebook เลยครับ
3.ส่งโฆษณากลับไปหาคนที่เคยมีส่วนร่วมนั้น
เมื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้แล้ว ก็นำโฆษณาอีกชุด ส่งไปหาเขาได้
- ส่งรีวิว สินค้า คนที่ใช้แล้วได้ผลดี
- ส่งโปรโมชั่นกลับไปหา เพื่อให้ตัดสินใจเร็วขึ้น
แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน แต่ละสินค้าเลย
ลองไปทำกันดูนะครับ ได้ผลอย่างไร inbox มาแจ้งกันได้นะครับ 😉
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
Remarketing โฆษณาแบบตามหลอกหลอน (สำหรับมือใหม่) ทำได้แบบนี้นี่เอง
Remarketing โฆษณาแบบตามหลอกหลอน(สำหรับมือใหม่)ทำได้แบบนี้นี่เอง
การทำโฆษณาใน Facebook ปัจจุบันนี้
ถ้าจะคาดหวังให้ลูกค้าซื้อของเราตั้งแต่ครั้งแรก น่าจะเป็นเรื่องยาก
เพราะมีตัวเลือกมากมายอยู่ใน Facebook ด้วยกัน
ด้วยกันมี ด้วยกันมีทั้งข่าวสาร วีดีโอ และ Content ต่างๆมากมาย ที่ถือว่าเป็นคู่แข่งในหน้าฟีด
หากเราทำโฆษณาได้เก่งมากๆ โอกาสที่จะขายได้ตั้งแต่ครั้งแรก ก็เป็นไปได้
แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ มักจะใช้เวลาในการดูโฆษณามากกว่า 1 ครั้ง ถึงจะตัดสินใจซื้อได้
จะดีกว่าไหมหากเรารู้วิธีทำโฆษณาที่ตามไปหลอกหลอน
ลูกค้าจนใจอ่อน และซื้อสินค้าของเราในที่สุด
ถ้าให้นึกภาพออกอย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่นเว็บไซต์จองที่พักดังๆ อย่าง agoda.com สังเกตดีๆ เวลาเราเข้าไปดูข้อมูลที่พักที่เราสนใจ แล้วยังไม่ได้เลือกจองทันที ปิดหน้าจอออกมา แล้วเข้าไปใน Facebook ก็จะเห็นโฆษณาของที่พักที่เราเพิ่งดูไปในเว็บ Agoda
นี่แหละคือโฆษณาที่ตามหลอกหลอน
หรือเวลาเราเข้าไปใน Shopee หรือ Lazada เข้าไปดูสินค้า สนใจ แต่เผอิญว่ายังไม่มีเงินตอนนี้ ก็เลยออกมาจากเว็บไซต์หรือว่า Application ก่อน นั่งทำใจสักพักแล้วเปิด Facebook ดู ไม่นานนักก็จะมีโฆษณาสินค้าที่เราดูใน shopee หรือ Lazada ตามโผล่มาแสดงให้เราเห็น กะเอาให้ใจอ่อนแล้วซื้อทันที
นี่แหละคือโฆษณาที่ตามหลอกหลอน
น่าสนใจแล้วใช่ไหมครับ
เอาล่ะงั้นเรามาดูดีกว่าว่า เจ้าโฆษณาที่ผมบอกว่ามันตามหลอกหลอนนั้นจริงๆแล้วมันเรียกว่าอะไรกันแน่
โฆษณาที่เรากำลังพูดถึงนี้เขาเรียกกันว่า การโฆษณาแบบ ReMarketing
ขออธิบายนิยามของคำว่า ReMarketing ตามความเข้าใจของผมนะครับ
ReMarketing คือ
การทำโฆษณา ที่มีใจความ
จุดประสงค์เดิม กลับไปหาคนที่รู้จัก
หรือ สนใจ สินค้า หรือบริการของเรา
ซึ่งสามารถสื่อสารในรูปแบบที่แตกต่างกันได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นโฆษณาเดิม รูปแบบเดิมๆ
ทำไมเราต้องทำRemarketingด้วยล่ะ
นั่นเป็นเพราะว่า คนเราไม่ได้ตัดสินใจซื้อตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น
ยกตัวอย่างกรณีของผมเอง
ผมเห็นโฆษณาแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า KLOOK เป็น App ที่เราสามารถซื้อตั๋วกิจกรรมซิมการ์ดต่างๆนานา โดยชำระเงินผ่านบัตรเครดิต แล้วได้เป็นคูปอง เพื่อนำไปใช้แลกเปลี่ยนเป็นบริการท่องเที่ยวที่ต่างประเทศ
สะดวกสบายดีนะเพราะว่าไม่ต้อง ไปสื่อสารหรือว่าใช้เงินสดในการซื้อ เมื่อไปถึงต่างประเทศ เพราะผมจะได้เอาเงินสดไปกินไปเที่ยว
กว่าผมจะตัดสินใจใช้บริการของ KLOOK
ผมเห็นโฆษณาของเค้าประมาณ 10 กว่าครั้งได้ ถึงจะตัดสินใจใช้บริการ ตอนก่อนเดินทางไปเที่ยว
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นโฆษณานะครับ
พอจะเห็นภาพของการทำRemarketingแล้วใช่ไหมครับ
จะทำ remarketing ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง
ก่อนจะทำโฆษณาแบบ Remarketing ควรเข้าใจเรื่องต่อไปนี้ก่อนนะครับ เพราะนี่คือพื้นฐานสำหรับการทำ remarketing นั้นเอง
- ควรเข้าใจการทำโฆษณาด้วย ads manager
- ควรเข้าใจเรื่อง custom audience
- ควรเข้าใจเรื่อง Facebook Pixel
- ควรมีเว็บไซต์ ที่ติด Facebook Pixel
สิ่งที่ผมอยากจะให้เน้นเป็นพิเศษนั่นคือแนวคิดของการทำ Custom audience เพราะจำเป็นมากในการทำRemarketing ซึ่ง Custom audience ที่อยากจะให้ใช้ คือการทำ Custom audience จากคน จากคนดูวีดีโอ และคนเข้าเว็บไซต์
แนวคิดของ custom audience ด้วย video
ลองสังเกตดูนะครับ เวลาเราชอบดู คลิปอะไรนานๆ จนจบแสดงว่าเราชอบมาก ถ้าเป็นคลิปที่เราไม่ชอบ แม้แต่กดพลาด ก็ยังต้องรีบไถหน้าจอไปอย่างรวดเร็ว
ยกตัวอย่างเช่น เราชอบเรื่องฟุตบอล เวลามีคลิปการเตะของทีมบอลที่เราชื่นชอบ ปรากฏขึ้นมาใน Facebook เราจะต้องหยุดดูจนจบหรือเกือบจบ แต่ถ้าไม่ใช่คลิปบอล เป็นเนื้อหาอื่นๆที่เราไม่ได้ชอบเลย เราก็แทบจะไม่มองคลิปนั้นด้วยซ้ำ
ด้วยพฤติกรรมแบบนี้ก็พอจะบอกได้ว่าเราเป็นคนที่ชอบฟุตบอลนั้นเอง
หรือถ้าเป็นผู้หญิง เวลาเห็นคลิปวีดีโอที่โชว์กระเป๋ารองเท้าสวยๆ ก็จะหยุดดูจนจบคลิปหรือเกือบจบคลิป
ดังนั้นการทำ custom audienceคนที่เคยดู video ของเรา 75%-95% ของความยาวทั้งหมด คือคนที่สนใจแบบสุดๆ
ดังนั้นการทำ custom audience คนที่เคยดู video ของเรา 75%-95% ของความยาวทั้งหมด คือคนที่สนใจแบบสุดๆ และมีโอกาสที่จะซื้อสินค้าหรือบริการของเรามากกว่าคนที่ไม่ดูคลิปเลย
พอเห็นภาพแล้วใช่ไหมครับ
แนวคิดของ custom audience ด้วย website
คนที่เข้ามาในเว็บเรา ย่อมเข้ามาเพื่อมีจุดประสงค์ เพื่อดูข้อมูลในเว็บไซต์ของเรา เพราะเว็บของเราคือเว็บเฉพาะทาง เป็นเรื่องของสินค้าหรือบริการของเราเท่านั้น
ไม่ใช่เว็บทั่วไปหรือเว็บบันเทิงที่ต้องมาติดตามข่าว
ถ้าเข้าชมนานๆ แสดงว่าเขาสนใจ ไม่ได้พลาดมาเจอ ถ้าเขาดูหน้าไหน แสดงว่าเขาชอบเนื้อหาในหน้านั้น
ถ้าเราจะทำ Custom Audience ของคนเข้าเว็บไซต์ เราจึงควรเลือกคนที่เข้าชมเว็บไซต์ของเรา ในเวลานานๆ และถ้าเขาเข้าดูข้อมูลสินค้า หรือ บริการในหน้าไหน แสดงว่า ถ้าเขาเห็นสินค้านี้อีกครั้ง ก็จะจดจำได้
สำหรับการทำ custom audience ด้วยเว็บไซต์ จำเป็นต้องมี เว็บไซต์ ที่ติดตั้ง Facebook Pixel ไว้ด้วย จึงจะทำ Remarketing ของคนเข้าเว็บได้
ถ้าอยากรู้เรื่อง Facebook Pixel ให้ไปดูได้ใน Content นี้ครับ
สรุปแนวคิดของการทำโฆษณาแบบ Remarketing สำหรับมือใหม่ไว้แบบนี้นะครับ
1. ทำโฆษณาแบบวัตถุประสงค์การรับชมวีดีโอ แล้วทำโฆษณาให้คนเห็นเยอะๆ ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ
2. ทำ Custom audience ของคนที่ดูโฆษณาเกิน 75 หรือ 95 เปอร์เซ็นต์ของความยาวทั้งหมดของวีดีโอ
3. ทำโฆษณากลับไปหากลุ่มเป้าหมาย เราทำเอาไว้ใน Custom Audience
ถ้าสำหรับคนที่มีเว็บไซต์ แนวคิดของการทำโฆษณาRemarketing โดยเว็บไซต์ก็คือ
1. ทำโฆษณาแบบวัตถุประสงค์แบบ Traffic แล้วทำโฆษณาให้คนเห็นเยอะๆ ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ
2.ทำ Custom audience ของคนที่เข้าชมเว็บไซต์ของเรา
3. ทำโฆษณากลับไปหากลุ่มเป้าหมาย เราทำเอาไว้ใน Custom Audience
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการทำ Remarketing แบบพื้นฐานเท่านั้น ยังมีวิธีการทำที่ละเอียดมากไปกว่านี้
แต่อยากให้ทุกคนลองทำ ปรับใช้ตามความเหมาะสมเสียก่อน
ถ้าทำแล้วติดปัญหาอะไรสามารถสอบถามกันได้นะครับ
ทำโฆษณาแบบหลอกหลอน Remarketing Retargeting สำหรับมือใหม่ ทำได้แบบนี้นี่เอง | digitalnook
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt